วันนี้ (9 มิ.ย.2568) ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ "ปราสาทตาควาย" โบราณสถานอันงดงามแต่เต็มไปด้วยรอยแผลแห่งความขัดแย้ง "ครูติ๊ก - ไพลแก้ว เสาะพบดี" ครูประจำศูนย์เด็กเล็กโรงเรียนบ้านไทยสันติสุข เล่าถึงชีวิตที่ต้องเผชิญทั้งความหวาดกลัวและความหวัง ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด เมื่อกัมพูชาอ้างสิทธิ์เหนือปราสาทตาควายและเตรียมยื่นศาลโลกพิจารณาในปี 2568

ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
ทุกเช้า ครูติ๊กต้อนรับเด็ก ๆ ทั้งที่อยู่ในศูนย์เด็กเล็ก และนักเรียนตั้งแต่ชั้น อ.1-ป.6 ด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจเธอเต็มไปด้วยความกังวล กับสถานการณ์ชายแดนร้อนระอุตั้งแต่เกิดการปะทะที่ช่องบกเมื่อ 28 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา แม้ ต.บักได จะไม่ใช่จุดปะทะโดยตรง และห่างจากพื้นที่พิพาท "ปราสาทตาควาย" เกือบ 10 กม. แต่แรงสั่นสะเทือนของเหตุการณ์ก็มาถึงหมู่บ้านของเธอ
ทางการท้องถิ่นสั่งให้ชุมชน วัด และโรงเรียน ฝึกซ้อมแผนอพยพ เด็ก ๆ กว่าร้อยชีวิตต้องเรียนรู้วิธีวิ่งไปยังหลุมหลบภัยเมื่อได้ยินสัญญาณ
เด็ก ๆ คิดว่าเหมือนเล่นซ่อนหา วิ่งไปยิ้มไป แต่ถ้าเกิดเหตุจริง ครูก็ไม่รู้ว่าเด็กจะรับมือไหวหรือเปล่า
ครูติ๊กเล่าให้ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ฟัง พร้อมน้ำเสียงที่กังวลปนขำ ๆ หลังเกิดเหตุการณ์ที่ช่องบก ทางการท้องถิ่น ทั้งส่วน อบต. ส่วนทหาร ก็มีการประกาศให้คนในชุมชนเตรียมพร้อมอพยพ ครูแบ่งกลุ่มรับผิดชอบเด็กแต่ละชั้น ถ้าได้สัญญาณอพยพให้พาเด็ก ๆ ไปหลุมหลบภัย ที่โรงเรียนมี 2 ที่ ก็แบ่งจำนวนเด็กให้เรียบร้อย
ไม่เฉพาะในโรงเรียน ครูยังต้องแจ้งไปยังผู้ปกครองเด็กด้วย เพื่อให้มารับเด็กที่ศูนย์อพยพกลับบ้านหรือไปยังสถานที่ปลอดภัย ครูติ๊กยังบอกว่า สำหรับบ้านที่อยู่ไกลจากโรงเรียนสัก 3 กิโลเมตร แต่ถ้าผู้ปกครองต้องมารับนักเรียนในช่วงเหตุการณ์ไม่สงบ
3 กิโลเมตร ก็ไม่ได้ใกล้ ๆ เลยนะคะ
ครูติ๊กเล่าถึงค่ำคืนที่พื้นดินสั่นสะเทือนจากขบวนรถถังและทหารที่เคลื่อนไปยังปราสาทตาควายหลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะ ก็มีจำนวนรถถังและทหารเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ดึก ๆ ก็นอนไม่ได้ เพราะได้ยินเสียงรถวิ่ง ทหารไทยบอกว่ากัมพูชาต้องการปราสาทนี้

ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
ครูติ๊กยังจำเหตุการณ์วันที่ 22 เม.ย.2554 ได้ชัดเจน ช่วงเช้าในวันนั้นเกิดการปะทะกันขึ้นบริเวณ จ.สุรินทร์ ด้านปราสาทตาควาย เรื่อยมาจนถึงปราสาทตาเมือนธม มีทหารไทยเสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอีก 14 คน กรณีพิพาทพรมแดนไทย–กัมพูชา ปราสาทเขาพระวิหาร
จู่ ๆ ต้องวิ่งหนีกระสุนตอน 7 โมงเช้า โชคดีที่นักเรียนยังไม่ถึงโรงเรียน ครูต้องวิ่งหนีตาย ไปอยู่ศูนย์พักพิง 10 กว่าวัน พอกลับบ้าน ทุกอย่างพังยับเยิน
ปัจจุบัน ครูติ๊กเก็บเสื้อผ้าและของใช้ไว้ท้ายรถ พร้อมหนีทันทีหากมีการประกาศ
เหตุการณ์ระทึกอีกครั้งเกิดในปี 2567 เมื่อครูติ๊กและเพื่อน ๆ ต้องขึ้นไปเตรียมงานพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่วีรชนผู้กล้าปี 54 เพื่อรำลึกถึงทหารกล้าที่สละชีพในเหตุการณ์เมื่อ 22 เม.ย.2554 งานบวงสรวงจัดขึ้นที่ปราสาทตาควายทุกปีหลังจากปี 2554

ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
ครูและเพื่อน ๆ ถูกทหารกัมพูชา 4-5 นายเข้ามาประกบตัว พร้อมสั่งห้ามจัดงาน ครูติ๊กเล่าว่าตอนนั้นกลัวมาก ภาพเก่า ๆ ที่หนีตายเมื่อปี 54 ย้อนกลับมาหมด พูดอะไรไม่ออก ได้แต่บอกทหารกัมพูชาเป็นภาษากัมพูชาที่พอจะพูดได้ว่า ขอจัดงานเล็ก ๆ แต่เขาก็ยืนยันว่าไม่ได้

ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
สุดท้าย ทหารไทยเจรจาให้จัดได้ แต่ก็ได้แค่พิธีเล็ก ๆ ไม่มีนางรำหน้าปราสาทแบบทุกปี ต้องย้ายที่รำไปรำที่อื่น ครูติ๊กตั้งข้อสังเกตว่า ปราสาทตาควายอยู่ในเขตประเทศไทย ทางขึ้น ทางการไทยก็ทำจนสวยงาม มีไฟฟ้าส่องสว่างชัดเจน แต่ทำไมทหารกัมพูชาถึงเข้ามาได้ ? พร้อมเล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มา ยังไม่เคยเห็นทางขึ้นปราสาทตาควายจากฝั่งกัมพูชาเลย ได้ยินคนพูดแค่ว่าต้องปีนหน้าผาหรือลัดผ่านป่ารกขึ้นมา แต่ถึงแม้จะหวาดกลัว ครูติ๊กยังคงยิ้มให้เด็ก ๆ และหวังให้สุรินทร์สงบสุข
ที่นี่น่าเที่ยว ทุเรียนก็เยอะ ปราสาทตาควายสวย และขอเป็นอีกคนที่ยืนยันว่าเป็นโบราณสถานของไทยแน่นอน

ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
ที่มา : ไพลแก้ว เสาะพบดี
ครูติ๊กจบบทสนทนาที่สะท้อนความแข็งแกร่งของคนชายแดนที่ต้องอยู่กับความไม่แน่นอน แต่ยังคงหวังว่าสันติภาพจะกลับคืนมา

ที่มา : อ.บ.ต.บักได
ที่มา : อ.บ.ต.บักได
อ่านข่าวอื่น :
ร้าวลึก! เปิดปมสงครามอำนาจรัฐบาลกลาง VS แคลิฟอร์เนีย
ชาวบ้านคลายกังวลหลังไทย-กัมพูชาเจรจา ซ้อมอพยพ หลุมหลบภัยรับเหตุฉุกเฉิน