วันนี้ (9 มิ.ย.2568) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการดำเนินคดีฮั้วเลือก สว.ที่ถูกวิจารณ์ว่าล่าช้า ว่า กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบในเรื่องความโปร่งใสและเที่ยงธรรม โดยดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ซึ่งเป็นการดำเนินการตามระเบียบสืบสวนสอบสวนมาตลอดตั้งแต่มีการประกาศผลเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2567 โดยได้ทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และตำรวจ ซึ่งผ่านมาครึ่งปีก็มาทำเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง
นายแสวง กล่าวว่า วิธีการที่ดำเนินการในช่วงแรกเป็นการดำเนินคดีแยกเป็นราย ไม่มีเรื่องความสัมพันธ์เชื่อมโยง เมื่อปรับรูปแบบมาทำงานกับดีเอสไอที่มีกรรมการพิเศษ จะเห็นการทำงานเป็นภาพรวม ขณะนี้ยังอยู่ในการทำงานของคณะกรรมการสืบสวนชุดที่ 26 ขณะนี้ทำงานทุกวัน ถือเป็นการเร่งรัด แต่ก็ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการเลือก สว.อาจจะสลับซับซ้อน มีหลายชั้น ตั้งแต่พื้นที่ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ จึงอาจจะต้องใช้เวลา
สำหรับกรณีที่มีความกังวลเรื่องกรอบเวลาการดำเนินการในระยะเวลา 1 ปีนั้น นายแสวง กล่าวว่า เป็นกำหนดเวลาในระเบียบ กกต. ที่ไม่ได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ แต่เป็นการกำหนดกรอบเวลาการทำงานเพื่อให้เสร็จภายใน 1 ปี จนมาถึงวันนี้น่าจะเหลืออีก 30 วัน เข้าใจว่าคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนก็เข้าใจในข้อจำกัดเรื่องนี้ดี
อย่างไรก็ตาม หากเวลาเกินไปก็ไม่เสียหายอะไร เพราะในกฎหมายไม่ได้เขียนเงื่อนไขเวลาไว้ แต่เป็นการเร่งรัดทำงานของ กกต. ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนสามารถที่จะขยายเวลา โดยให้เหตุผลและความจำเป็นว่าเหตุใดไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา และเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สิ้นกระแสความ มีความครบถ้วนสมบูรณ์ และให้โอกาสทุกคนได้มาชี้แจง
ส่วนกระบวนการความเชื่อมโยงของเลขาฯ กกต.กับคนที่มีส่วนร่วมในการฮั้ว สว. นั้น นายแสวง กล่าวว่า ได้ตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ และเราเองก็ถูกตรวจสอบ ซึ่งถือเป็นสิทธิ์หากเห็นว่าการทำหน้าที่เป็นของผู้อำนวยการการเลือกตั้งระดับประเทศไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยยินดีและพร้อมรับการตรวจสอบ
นายแสวง ยังกล่าวถึงกรณีที่ สว.สำรอง ขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะมีส่วนได้เสีย ว่า ผู้ร้องต้องชี้แจงว่าเลขาฯ กกต.มีส่วนได้เสียอะไรหรือไม่ ซึ่ได้มีการตัดสินไปแล้วจาก 2-3 หน่วยงาน แต่ยังมีการเรียกร้องอยู่ ก็เป็นสิทธิ์ที่จะมาร้อง หรือกล่าวหา ก็ต้องมีกระบวนการ แต่ตนเองยังไม่มีโอกาสไปชี้แจง ยืนยันว่าพร้อมถูกตรวจสอบและพร้อมชี้แจง
นายแสวง ยังปฏิเสธกรณีมีกระแสข่าวว่ามีมือที่มองไม่เห็น หรือมีนายพล ส. คอยสั่งการทำงานของ กกต.และองค์กรอิสระ โดยระบุว่า ไม่มีใครมาบีบ กกต. แต่ที่อื่นตนเองไม่รู้
ส่วนกรณีที่ 92 สว.ร้องขอความเป็นธรรมต่อ กกต.เกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 นายแสวง กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ตั้งโดยคำสั่ง กกต. ซึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่จนมาถึงปัจจุบันก็ยังไม่เห็น กกต.มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไร
เมื่อถามว่าเลขาฯ กกต.จะต้องเข้าไปชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว.หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเรียก รวมถึงคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 หรือกรณีที่ผู้ตรวจการเลือกตั้งสมุทรปราการที่อ้างว่าวันเลือกระดับประเทศได้แจ้งเบาะแสโพยฮั้ว สว.เข้าสถานที่เลือก แต่ตนเองไม่ได้ดำเนินการอะไร ซึ่งอยากจะชี้แจงกับทุกที่ แต่ไม่อยากชี้แจงผ่านสื่อ เพราะจะเป็นการโต้กันไปมา หรือแม้แต่เรื่องที่อดีตผู้ตรวจการเลือกตั้งสมุทรปราการได้อ้าง กกต.ก็ได้วินิจฉัยจบไปแล้ว
นายแสวง ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 จะมีการสรุปสำนวนและจะต้องเสนอต่อที่ประชุม กกต.พิจารณาในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ว่า ขณะนี้อยู่ในชั้นคณะกรรมการไต่สวน ซึ่งการดำเนินการต้องเป็นไปตามระเบียบสืบสวนที่มีขั้นตอนเพื่อเป็นหลักประกันว่าทุกคนจะได้รับความเป็นธรรม ฉะนั้นจะข้ามขั้นตอนไม่ได้ ดังนั้นหากระดับคณะกรรมการสอบสวนแล้วเสร็จ ก็จะต้องเข้าสู่การพิจารณาในชั้นสำนักงาน และอนุวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนและข้อโต้แย้งก่อนถึงไปสู่ที่ประชุม กกต.
เมื่อถามว่า กกต.มีนโยบายที่จะพิจารณาคดีนี้แบบแยกเป็นล็อต หรือรวมหมดของทุกคน นายแสวง กล่าวว่า สำนักงานยังไม่ทราบ เพราะยังเดินตามขั้นต่อระเบียบสืบสวนอยู่ ขณะนี้เป็นอำนาจของคณะกรรมการสอบว่าจะเรียกใครเข้ามาชี้แจงทั้งเลขาธิการ กกต.หรือ กกต.ก็ยังไม่ทราบ เป็นความอิสระ แต่จะถูกตรวจสอบเป็นชั้น ๆ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ชั้น และ กกต.จะทราบการทำงานของคณะกรรมการไต่สวนก็ต่อเมื่อคณะกรรมไต่สวนชุดที่ 26 ขอขยายระยะเวลาการสอบ
อ่านข่าว : จับหญิง 32 ปีโพสต์โซเชียล บิดเบือนข้อมูลปมชายแดนไทย-กัมพูชา
บันทึกจากสนามข่าว : เบื้องหลังพบ "เงินสด 12 ล้านบาท" ถูกทิ้งจุดกองขยะ คอนโดฯ เมืองทองธานี
"บิ๊กเต่า" ถก ป.ป.ท.-ป.ป.ช.ขยายผลเงิน 12 ล้าน-สอบที่มาเส้นทางเงิน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: