ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ภูมิธรรม" ยันจุดยืนต้องปรับกำลังก่อน เปิดด่านพร้อมกัน 2 ประเทศ

การเมือง
10:52
126
"ภูมิธรรม" ยันจุดยืนต้องปรับกำลังก่อน เปิดด่านพร้อมกัน 2 ประเทศ
อ่านให้ฟัง
06:23อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ภูมิธรรม" บอก​ "มทภ.​2" ชงปิดปราสาทตาเมือนธม เสนอ สมช.​ หากสถานการณ์​ไม่สู้ดี​ เผย​ สั่ง มท.ดูหลุมหลบภัยรับอาวุธหนัก ยันจุดยืนปรับกำลังก่อนเปิดด่านต้องพร้อมกัน

วันนี้ (24 มิ.ย.2568) นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม​ กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม​ จ.สุรินทร์ มากผิดปกติว่า​ อำนาจการพิจารณาปิดจุดท่องเที่ยวตาเมือนธมอยู่ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ​ (สมช.) ในขณะที่รัฐบาลก็กำกับดูแล เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นรัฐบาลรับรู้ทั้งหมด ซึ่งทางนายกฯ ในฐานะประธาน สมช.มอบอำนาจให้กองทัพ ในการพิจารณามาตรการเปิด - ปิดด่านใน 4 ขั้นตอน เพราะมองว่า ทหารอยู่ด่านหน้าสามารถพิจารณาสถานการณ์ได้ว่ามีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด

เมื่อถามว่าอำนาจในการตัดสินใจที่จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนปราสาทตาเมือนธมเป็นของทหารในพื้นที่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า เป็นไปตามปกติ เรายังไม่ได้มีการห้ามหรือไม่ห้าม และประสาทตาเมือนธมที่ผ่านมาขึ้นมาได้ทั้ง 2 ฝ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ขณะนี้ยังไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ยกเว้นแต่มีคำสั่ง ทางแม่ทัพภาคที่ 2 จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจ และเชื่อว่าทางทหารจะสามารถดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ได้

แม้ปัจจุบันจะมีชาวกัมพูชาและไทย ขึ้นไปเที่ยวบนปราสาทตาเมือนธม​ เพราะเมื่อครบกำหนดเวลาเขาก็กลับไปตามปกติ แต่ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 จะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ความเป็นจริงว่า ควรจะปิดการท่องเที่ยวปิดการท่องเที่ยวไปก่อนหรือไม่ พร้อมทั้งทำเรื่องผ่านกองทัพบกมายังรัฐบาลเพื่อที่จะนำเข้าที่ประชุม สมช.เมื่อถามว่า สุดท้ายจะต้องให้ สมช.และรัฐบาลเป็นผู้อนุมัติใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมย้ำว่า เป็นไปตามขั้นตอนอำนาจอยู่ตรงนี้ก็ให้ไปดูหากจะทำเลยก็สามารถทำได้​

เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์หรือไม่ ไปหลังมีการยกระดับมาตรการผ่านด่านเข้มข้นขึ้น และสถานการณ์ในพื้นที่มีความตึงเครียดมากน้อยเพียงใด นายภูมิธรรมระบุว่า ประชาชนตามแนวชายแดนไม่ถึงขนาดตึงเครียดจนน่ากังวลใจ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยได้ไปสำรวจหลุมหลบภัย ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว​ แต่สามารถกันอาวุธได้บางส่วน ไม่แน่ใจว่าหากเป็นอาวุธหนักจะสามารถป้องกันได้หรือไม่ จึงได้เร่งให้ทางมหาดไทยไปจัดการ เพื่อเสริมความแข็งแรงของหลุมหลบภัยให้มากยิ่งขึ้น

ส่วนกรณีที่ทหารกัมพูชามีการเพิ่มเติมกำลังและอาวุธหนักเข้าประชิดพื้นที่ชายแดนมีนัยอะไรหรือไม่​ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า สำหรับในส่วนของกองทัพ เราเตรียมความพร้อมไว้ทุกเรื่องแล้ว และเชื่อว่ากำลังที่มีอยู่เพียงพอที่จะรับสถานการณ์

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชัย​ ศรีสุทธิยากร​ ออกมาระบุว่า นายภูมิธรรม​ เซ็นรับรองให้ทหารกัมพูชา​เข้ามาอยู่ในปราสาทตาเหมือนธม ในการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป​ (GBC) ครั้งล่าสุด​ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ไปเซ็นอะไร ทุกอย่างดำเนินการตาม MOU 43​ ซึ่งขณะนี้ยังมีขั้นตอนการประชุมคณะกรรมการส่วนภูมิภาค ไทย​-กัมพูชา (RBC) ซึ่งทางกัมพูชารอสมเด็จฮุนเซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชาอนุมัติ​ พร้อมกับขอนายสมชัยอย่าพูดอะไรบนพื้นฐานที่ไม่ได้อยู่บนข้อเท็จจริง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้ไทยเปิดด่านชายแดนก่อนจากนั้นกัมพูชาจะเปิดตามใน 5 ชม. แล้วจะกำลังค่อยหารือเรื่องการปรับกำลัง นายภูมิ​ธรรม​ ระบุว่า​ เรามีเงื่อนไขและข้อเสนอที่วางไว้ คือ ลดการเผชิญหน้าตลอดแนวชายแดนให้มีการปรับกำลังทั้ง 2 ฝ่าย

รวมถึงการเปิดด่านชายแดนทั้งหมดเพื่อให้เข้าสู่สภาวะปกติ การดำเนินการเหล่านี้จะต้องทำไปพร้อมกันทั้ง 2 ประเทศ โดยการกำหนดวัน​-เวลา ซึ่งทางฝั่งกัมพูชาบอกว่า อำนาจทุกอย่างอยู่ที่สมเด็จฮุนเซนเพียงคนเดียว ซึ่งก็ยอมรับว่า ได้มีการเสนอเงื่อนไขตามนั้นจริง​ ซึ่งในส่วนของเรา บอกว่าเป็นไปไม่ได้จุดยืนของเราต้องดำเนินการคือให้มีการปรับกำลังก่อนเปิดด่านพร้อมกัน​

จะมาบอกว่าคุณเปิดก่อนเราเปิดก่อนคงไม่ได้​ ก็ควรจะทำให้พร้อมกัน

นายภูมิธรรม​ ย้ำว่า​ การที่ไทยจะทำอะไรนั้น ต้องคำนึงถึงสายตานานาประเทศด้วย เพราะไทยเป็นประเทศที่ใหญ่กว่าเพื่อป้องกันข้อครหาว่าเรารุกรานเขา​ ในขณะเดียวกันเราก็ยังยืนอยู่ในการประชุม RBC​ ที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องไปพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซนเพื่อให้ได้ข้อยุติในเรื่องการเปิดด่านพร้อมกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ไม่ถูกเสียทีเดียวการจะเปิดด่านเป็นเรื่องของที่ประชุม RBC​ ส่วนที่กัมพูชาปิดประตูตายจะไม่ประชุมนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า สามารถพูดคุยและเจรจาได้ คำพูดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เมื่อมีปัญหา หรือมีประโยชน์ ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ต้องคุย และเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยกันได้ 

อ่านข่าว : สื่อกัมพูชา รายงาน "กัมพูชา" ไม่ใช่ศูนย์กลางอาชญากรรมโลก  

ทั่วโลกเสียท่า 8 ล้านล้านบาท “กลโกงแบบใหม่” ภัยคอลเซนเตอร์

"กัมพูชา" ถกนัดแรกเตรียมเอกสารพื้นที่พิพาทยื่นศาลโลก