คดีฟ้องนายทักษิณ หมิ่นสถาบันหรือไม่ ศาลอาญา นัดคู่ความฟังคำพิพากษาแล้ว คดีการบังคับโทษนายทักษิณ เป็นไปได้ว่า จะไต่สวนนัดสุดท้ายสิ้นเดือนนี้ เช่นเดียวกับคดีถอดถอน น.ส.แพทองธาร ที่น่าจะนัดฟังคำพิพากษา-ชี้ขาดได้แล้ว โดยทั้ง 3 คดี คือนัยสำคัญทางการเมืองในเดือน ส.ค.นี้
เอาจริงๆ เรื่องที่ว่าด้วย "คดีความ" แทบจะมัดตัวคีย์แมนการเมืองแต่ที่มีนัยสำคัญและเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางการเมืองอยู่ และต้องจับตา เพื่อประเมินสถานการณ์กัน ก็คดีความฟ้องร้องนายทักษิณ ชินวัตร กับคำฟ้อง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งน่าจะรู้ผลในเดือน ส.ค.นี้

คดีอาญา มาตรา 112 ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษานายทักษิณ ชินวัตร แล้ว หลังเบิกความพยานจำเลยไป 3 ปาก เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา คือนายวิษณุ เครืองาม นายธงทอง จันทรางศุ และ นายทักษิณเอง ทีมทนายความจึงแจ้งหมดพยาน และไม่ประสงค์สืบพยานแล้ว โดยศาลฯ นัดตัดสิน 22 ส.ค.2568
ส่วนคดีการบังคับโทษนายทักษิณชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไต่สวนพยานไปแล้ว 5 นัด และ 25 ก.ค.นี้ จะเป็นนัดที่ 6 ที่ศาลฯ จะไต่สวน ตัวแทนจากแพทยสภา และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรค ตามที่จำเลยอ้างอิง จากนั้น 30 ก.ค. นายวิษณุ เครืองาม จะเข้าไต่สวนในฐานะพยานจำเลยอีกคนและก็เชื่อว่าศาลฎีกานักการเมือง จะนัดฟังคำพิพากษาภายในเดือน ส.ค.นี้เช่นกัน

สอดรับกับคดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี ที่แม้จะขออนุมัติเลื่อนส่งคำชี้แจงออกไป แต่ก็น่าจะได้แค่สิ้นเดือนนี้ และเป็นไปได้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญอาจนัดฟังคำวินิจฉัยชี้ขาดได้ภายในเดือน ส.ค.ด้วย
นัยสำคัญที่ว่า ก็ย่อมหมายถึง "สิงหาคม" นี้คือ เดดไลน์ หากการเมืองจะเจอจุดเปลี่ยน ก็เปลี่ยนในเดือน ส.ค.นี้ หากยกคำร้องไม่มีเหตุแห่งการกระทำผิด จะนายกรัฐมนตรี หรือผู้นำทางจิตวิญญาณทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ผลลัพธ์ก็เท่ากับ "ครม.แพทองธาร 2" ได้ไปต่อ
แต่ถ้า "ไม่ได้" ไปต่อละ กรณีของนายกฯ แพทองธาร นายทักษิณ ชินวัตร วิเคราะห์ไว้แล้ว 2 ฉากทัศน์ คือไม่เปลี่ยนตัวนายกฯ ก็ยุบสภาฯ แล้วถ้านายทักษิณไม่ได้ไปต่อด้วยละอะไรจะเกิดขึ้น
กำลังเป็นคำถามว่า นอกจาก 2 ฉากทัศน์ที่ว่าแล้ว "เพื่อไทย" กับ "ชินวัตร" จะได้ไปต่อในทางการเมืองด้วยหรือไหม เหตุจากความเชื่อมั่น-ศรัทธา และคะแนนนิยมทางการเมือง
นี่จึงเป็นเหตุผลให้นายทักษิณ ปรากฏตัวถี่ๆ ทั้งทอล์กการเมือง-ทอล์กเศรษฐกิจ-งานการกุศล เพื่อดึงความนิยม-กอบกู้ความเชื่อมั่น-ศรัทธาไหม? อีกทางหนึ่งก็รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่สวมบทเข้มสั่งรัวๆ เคลียร์ปม-ปูทางหรือเปล่า? นี่จะไม่นับรวมตีป้อมค่ายฝ่ายตรงข้าม ภูมิใจไทย-ค่ายสีน้ำเงินด้วย
แต่ไม่เกินความคาดหมาย คดียุบพรรคการเมืองที่มี "ภูมิใจไทย" รวมอยู่ด้วย ยังอยู่ในชั้นรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐาน เท่านั้น ยังอยู่ในขั้นตอนของนายทะเบียนพรรคการเมือง พิจารณาเคาะว่ามีมูลหรือไม่ ถ้าไม่ก็ยกคำร้อง และถ้ามีถึงจะส่งให้ กกต. แล้วยังต้องให้เวลาพิจารณาวินิจฉัยอีกว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
ส่วนคดีฮั้วเลือก สว.คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 สรุปสำนวนเรียบร้อยแล้ว และตามขั้นตอนจะส่งให้เลขาธิการ กกต. พิจารณาต่อ ว่าจะส่งให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยเห็นชอบหรือมีข้อโต้แย้งหรือไม่ ถ้ามีก็ใช้เวลาอีกว่า 30 วัน ถ้าไม่ ถ้าไม่ก็ส่ง กกต.ได้ ตามกรอบเวลาคาดว่าจะใช้เวลาถึง 8 เดือน
ส่วนอีกคดีที่อยู่ในการจับจ้องและจับจอง คือคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล กรณีสนับสนุนการแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้แจงล่าสุด ว่าอยู่ในขั้นตอนไต่สวน ที่จับจ้องเพราะบอกใกล้จะเสร็จแล้ว ส่วนที่จับจองคืออาจทำให้ค่ายสีส้มแตกรัง เลือกสังกัดใหม่ ซึ่งมีบางพรรคจับจอง "ผู้รอด" ไปร่วมสังกัด จะสังกัดพรรคไหน-อย่างไร
และถ้ายุบสภา มีกำหนดต้อง 30 วัน ถึงจะลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ทัน
อ่านข่าว :