ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"พล.ท.อดุลย์" นักรบ "ตาควาย" เขากระโดง ส่งนั่ง "รมช.กลาโหม"

การเมือง
15:04
123
"พล.ท.อดุลย์" นักรบ "ตาควาย" เขากระโดง ส่งนั่ง "รมช.กลาโหม"

ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมรุ่นวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)รุ่นที่ 61 ของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรีอย่างเดียวที่ทำให้ " พล.ท. อดุลย์ บุญธรรมเจริญ" อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ได้นั่งเก้าอี้สนามไชย 2 เป็น รมช. กระทรวงกลาโหมเคียงข้าง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ในฐานะสนามไชย 1 โควตาคนนอกทั้งคู่ ต่างเพียงเงาหนุน พล.อ.ณัฐพล มี "ลุง" เบื้องหลัง ส่วน "พล.ท.อดุลย์" มีครูใหญ่บุรีรัมย์คอยค้ำยัน

แม้ พล.ท.อดุลย์ จะมีพื้นเพเป็นชาวจังหวัดปราจีนบุรี เติบโตในครอบครัวทหารที่ค่ายจักรพงษ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี แต่เส้นทางการเติบโตในชีวิตราชการกลับอยู่ในพื้นที่อีสานใต้มาตลอด โดยเฉพาะที่ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่เป็นผู้บังคับหมวด กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 (ร.23 พัน 4) ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ไต่มาเป็นผู้บังคับกองร้อย ก่อนขึ้นเป็น ผบ.ร.23 พัน 4

พล.ท.อดุลย์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 26 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 37 เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.,"แม่ทัพกุ้ง"พล.ท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ,"รองเติ่ง"พล.ต.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 2 และ"รองยูร"พล.ต.นรธิป โพยนอก ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 4

ถึงไม่ใช่สายเลือดลูกอีสาน บุคลิกไม่ค่อยช่างพูด แต่ พล.ท.อดุลย์ ถือเป็นอดีตนายทหารนักรบอีสานใต้ ตัวจริงคนหนึ่ง เมื่อครั้งเป็นบังคับกองพันทหารราบที่ 234 ได้นำทหารเข้าสู้รบในพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารในช่วงปี 2551-2552

ในปี 2554 ยุคที่เป็นผบ.เฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ คุมพื้นที่แนวชายแดนด้านสุรินทร์-บุรีรัมย์ ได้นำนักรบชุดดำสู้ศึกเขาพระวิหาร ปกป้องอธิปไตยในสมรภูมิตาควาย-ตาเมือนธมมาแล้ว ดังนั้นฝีมือการทำงานในภาคสนามได้รับการโจษจัน โดยเฉพาะสงคราม 12 วัน ในการรบช่วงปราสาทตาควาย

โดยพล.ท.อดุลย์ ได้วางแผนร่วมกับกำลังพลที่อยู่หน้าแนวทำการรบในระยะประชิดทั้งกลางวันและกลาง คืน ซึ่งการสู้รบครั้งนั้น ทำให้ทหารกัมพูชาสูญเสียจำนวนมากจนเขมรต้องขอเจรจาและปิดฉากการต่อสู้ระหว่างทหารไทย-กัมพูชาในที่สุด

ตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร เพื่อนร่วมรุ่นต่างทราบดีว่า พล.ท.อดุลย์ ชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลและเป็นนักกีฬาฟุตบอลเก่ามักจะลงสนามเตะฟุตบอลเสมอ ดังนั้นเมื่อเป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 (ผบ.ร.23 พัน 4) ค่ายพระยามหากษัตริย์ศึกหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าค่ายเขากระโดง ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ จึงปฎิเสธไม่ได้ว่าต้องมีความ"มักคุ้น"กับ"ตระกูลชิดชอบ"บ้านใหญ่บุรีรัมย์

และเข้าไปช่วยทำกิจกรรมร่วมกับสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และการสนับสนุนให้มีการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ภายใต้การนำของ "เนวิน ชิดชอบ" ครูใหญ่บุรีรัมย์ ก่อนเกษียณอายุราชการ พล.ท.อดุลย์ ได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาวในฐานะศิษย์เก่าดีเด่นจากโรงเรียนเตรียมทหาร

ส่วนชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ พล.ท.อดุลย์ ได้เป็นที่ปรึกษามูลนิธิชัยพัฒนาทำงานร่วมกับหม่อมราชวงศ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการพิเศษ มูลนิธิชัยพัฒนาในโครงการทหารพันธุ์ดี ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23

และในยามที่ "พล.อ.ณัฐพล" กำลังเพลี่ยงพล้ำและถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมในประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งเรื่องการที่บริษัทเอกชนจากญี่ปุ่นให้ขอเปิดด่านเพื่อขนส่งสินค้า ข้อพิพาทในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออก ด้านบ้านหนองจาน อ.สระแก้ว อาจทำให้ไม่ทันเกมฝ่ายกัมพูชา

ดังนั้น พล.ท.อดุลย์ จึงเป็นอีกคีย์สำคัญในฐานะที่ดูแลปัญหาความมั่นคงแนวชายแดนไทย-เขมร มาอย่างยาวนานและสามารถทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่น"รองเติ่ง"พล.ต.วีระยุทธ์ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ได้แบบไร้ข้อกังวลซึ่งเป็นช่วงรอยต่อที่ค่ายสีน้ำเงินกำลังรุกคืบวางตัวผู้สมัครสส.เพื่อกินแดนอีสานทั้งหมด

น่าจับตาว่าหลังชิมลางนั่งตำแหน่งรมช.กลาโหมแล้ว ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีชื่อ "พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ" จะมีชื่อเป็นว่าที่ผู้สมัครสส.หน้าใหม่ของค่ายสีน้ำเงิน "ภูมิใจไทย" หรือไม่ และในห้วงเวลาอีก 4 เดือนนี้ คือ เวลาทองในการพิสูจน์ฝืมือ

อ่านข่าว

ปูม "ปาฏิโมกข์ 150 ข้อ" มติสงฆ์หนองป่าพง ตัด "นาป่าพง" พ้นวัดสาขา

ทางวิบาก "ทักษิณ" แพทองธาร นำ "พท." ลุยดงหนามการเมือง

ไม่เปลี่ยนขุนศึก "กลางสงคราม" พล.อ.ณัฐพล "นั่ง" รมว.กลาโหม