วันนี้ (21 ต.ค.2568) สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้ รายงานว่า เถ้ากระดูกของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปี ที่มีรายงานถูกกลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตเมื่อเดือน ส.ค. ถูกส่งกลับถึงประเทศในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นเกาหลี และจะถูกส่งมอบให้ครอบครัว
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังเกาหลีใต้ส่งทีมไปร่วมการชันสูตรพลิกศพกับทางการกัมพูชา โดยการชันสูตรใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง พบรอยฟกช้ำจากการถูกทุบตีทั่วร่างกาย แต่ไม่มีความเสียหายใดๆ เช่น ไม่พบอวัยวะถูกตัดออกไป ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงจะได้รับการยืนยันหลังการตรวจสอบเพิ่มเติมในเกาหลีใต้
ขณะที่เกาหลีใต้ยังเดินหน้าปราบปรามขบวนการหลอกลวงออนไลน์และขยายการสืบสวน โดยรัฐมนตีต่างประเทศเกาหลี เปิดเผยว่า ตำรวจกัมพูชาจับกุมชาวเกาหลีใต้ได้อีก 10 คน ฐานต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และยังช่วยเหลือผู้ที่ถูกกักขังได้อีก 2 คน คาดว่าทั้ง 12 คนจะถูกส่งตัวกลับเกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้
รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ระบุด้วยว่า กระทรวงฯ เตรียมปฏิรูปบริการกงสุลครั้งใหญ่ โดยมีแผนเพิ่มเจ้าหน้าที่กงสุลอีก 40 คนและปรับการบริหารจัดการเจ้าหน้าที่ตามสถานทูตในกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อยกระดับการติดตามและช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่อาจตกเป็นเหยื่อสแกมเมอร์ในกัมพูชา
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวระบบเตือนภัยล่วงหน้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ชาวเกาหลีใต้สามารถเข้าถึงการบริการด้านกงสุลได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ตอบสนองต่อความจำเป็นในการขอความช่วยเหลือเร่งด่วน
ขณะที่วันนี้ (21 ต.ค.) คณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศและการรวมชาติของสภาเกาหลีใต้ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์สแกมเมอร์ชานกรุงพนมเปญ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มแรงกดดันกัมพูชาปราบขบวนการอาชญากรรมเหล่านี้ รวมทั้งเตรียมตรวจสอบภารกิจทางการทูตของเจ้าหน้าที่ทั้งในกัมพูชา เวียดนาม ลาวและไทย
ฝ่ายค้านเกาหลีใต้จี้รัฐบาลเพิ่มแรงกดดัน "จีน" ปมสแกมเมอร์
ปัญหาอาชญากรรมในกัมพูชาที่พุ่งเป้าชาวเกาหลีใต้มากขึ้น นอกจากจะสร้างความไม่พอใจในหมู่ประชาชน ยังจุดชนวนให้พรรคการเมืองแต่ละฝ่ายออกมาตำหนิกันอย่างดุเดือด โดยพรรครัฐบาลเกาหลีใต้ กล่าวโทษรัฐบาลชุดก่อนภายใต้การนำของ ยุน ซอก-ยอล อดีตประธานาธิบดี ว่าละเลยความปลอดภัยของพลเมือง ทั้งที่ได้เพิ่มเงินช่วยเหลือด้านการพัฒนาให้กัมพูชาและรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มล็อบบี้ทางศาสนา
ขณะที่พรรค PPP พรรคฝ่ายค้านหลัก ระบุว่า กลุ่มอาชญากรรมจีนคือต้นตอของปัญหาและเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มแรงกดดันทางการทูตต่อจีน โดยรัฐบาลต้องหารือประเด็นโดยตรงกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุมเอเปคที่กำลังจะมีขึ้น
ก่อนหน้านี้โฆษกพรรค PPP วิจารณ์เกี่ยวกับการพาตัวพลเมือง 64 คนกลับประเทศ โดยระบุว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเลือกให้ความสำคัญกับการนำตัวผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรติดตัวกลับประเทศ แทนที่จะมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงไปทำงานในแหล่งอาชญากรรมก่อน
รมว.แรงงานเกาหลีใต้ปัดลดโควตาแรงงานกัมพูชา
ปัญหาอาชญกรรมในกัมพูชายังก่อให้เกิดข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ลดโควตาวีซา E-9 สำหรับแรงงานกัมพูชา ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจของประชาชนที่เพิ่มขึ้นหลังคดีการลักพาตัวล่าสุด รวมถึงเหตุอาชญกรรมอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา
ด้านรัฐมนตรีแรงงานเกาหลีใต้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยระบุว่ายังไม่มีแผนปรับลดจำนวนโควตาวีซาดังกล่าวในขณะนี้ พร้อมเตือนว่าการลดโควตาหรือจำกัดใบอนุญาตการจ้างงานโดยฝ่ายเดียว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีเฉพาะเช่นนี้ อาจทำให้แรงงานชาวกัมพูชาที่อาศัยและทำงานอยู่ในเกาหลีใต้ถูกตีตราอย่างไม่เป็นธรรม และอาจบ่อนทำลายความสัมพันธ์ด้านแรงงานระหว่าง 2 ประเทศ
วีซา E-9 เปิดทางให้นายจ้างชาวเกาหลี สามารถจ้างแรงงานต่างชาติในอุตสาหกรรมที่ประสบปัญหาขาดแคลนกำลังคน ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการผลิต เกษตรกรรม การประมงและการก่อสร้าง สำหรับปี 2568 รัฐบาลกำหนดโควตาวีซา E-9 ทั้งหมดไว้ที่ 130,000 คน
พลเมืองเกาหลีใต้ไม่กลับจากกัมพูชาปีละหลายพันคน
สื่อเกาหลีใต้รายงานอ้างข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ที่สมาชิกรัฐสภานำมาเปิดเผยว่า แต่ละปีมีพลเมืองที่ไม่เดินทางกลับจากกัมพูชาหลายพันคน โดยเมื่อปี 2567 มีจำนวน 3,248 คน ขณะที่ปี 2566 มีจำนวน 2,662 คนและปี 2565 มีจำนวน 3,209 คน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้พุ่งสูงขึ้นอย่างมากจากเมื่อปี 2564 ที่มีชาวเกาหลีใต้ไม่เดินทางกลับประเทศเพียง 113 คน
ขณะที่ปี 2568 นับจนถึงเดือน ส.ค. มีชาวเกาหลีใต้ที่ยังไม่เดินทางกลับจากกัมพูชา 864 คน โดยข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าอาจมีชาวเกาหลีใต้ทำงานในฐานอาชญากรรมออนไลน์มากกว่าตัวเลขที่ทางการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ประมาณ 1,000 คน และมีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขชาวเกาหลีใต้ที่ไม่เดินทางกลับจากกัมพูชาอาจมากกว่านี้ เนื่องจากยังไม่นับรวมการเข้ากัมพูชาผ่านประเทศที่ 3 ไม่ว่าจะเป็นจีน ไทย หรือประเทศอื่นๆ
อ่านข่าว
"เกาหลีใต้" เร่งตรวจสอบ "Prince Holding Group" มีสาขาในโซลหรือไม่