ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไทย–จีนเปิดศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีมันสำปะหลัง ยกระดับโคราชสู่เมืองนวัตกรรมเกษตรครบวงจร

สังคม
19:18
87
ไทย–จีนเปิดศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีมันสำปะหลัง ยกระดับโคราชสู่เมืองนวัตกรรมเกษตรครบวงจร
สำนักงานเศรษฐกิจโคราช มทส. ร่วมกับ บพท. เปิดศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีมันสำปะหลังไทย–จีน ผลักดันความร่วมมือวิทยาศาสตร์เพื่อขจัดความยากจน ยกระดับนวัตกรรมเกษตรฐานรากสู่สากล

"ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีมันสำปะหลังไทย-จีน" หรือ Thailand–China Cassava Technology Transfer Center เป็นการยกระดับความร่วมมือไทย-จีนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมันสำปะหลังเชื่อมโยงโมเดลเศรษฐกิจไทย-จีนเพื่อสร้างศูนย์กลางอัจฉริยะและอุตสาหกรรมมันสำปะหลังแห่งภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนล่าง 

การพัฒนาเครือข่ายชุมชนร่วมคือรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากรูปแบบใหม่โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็ง มีคุณค่าและยั่งยืน มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายธุรกิจชุมชนต้นแบบที่มีความสามารถในการบริหารจัดการ การผลิตและการตลาด ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มเชิงพาณิชย์ ระหว่างเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการท้องถิ่น ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและนวัตกรรมทางธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดความเสี่ยง บูรณาการระบบข้อมูล การเงิน การตลาด เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในพื้นที่ รวมถึงการขยายตลาดในระดับภูมิภาค และนานาชาติ โดยการสร้างสินค้าชุมชน ที่มีมาตรฐานและเอกลักษณ์ 

โดยการสนับสนุนให้เกษตรมี 4 เข้าถึง และ 6 กลไกร่วม คือ 4 เข้าถึง ได้แก่ 1.เข้าถึงแห่งเงินทุน และโครงสร้างพื้นฐาน 2.เข้าถึงตลาด 3.เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม และ 4.เข้าถึงผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษา

6 กลไกร่วม ได้แก่ 1.ข้อมูลและระบบร่วม 2.กิจกรรมร่วม 3.ทรัพยากรร่วม และ 4. กติการ่วม

ผศ.ดร.กำไร เบือนสันเทียะ หัวหน้าโครงการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจโคราช

ผศ.ดร.กำไร เบือนสันเทียะ หัวหน้าโครงการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจโคราช

ผศ.ดร.กำไร เบือนสันเทียะ หัวหน้าโครงการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจโคราช

ผศ.ดร.กำไร เบือนสันเทียะ หัวหน้าโครงการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจโคราช (Korat Economic Agency : KEA) เทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวถึง ความเป็นมาของศูนย์ฯ เกิดจากความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้ร่วมกับสถาบันวิจัยชั้นนำของจีนอย่าง Chinese Academy of Tropical Agricultural Sciences (CATAS) และสถาบันต่าง ๆ ในประเทศจีน ที่มุ่งเน้นผลักดันเรื่องของการเป็น "ศูนย์กลางแห่งการแลกเปลี่ยนความรู้ วิจัย และถ่ายทอดเทคโนโลยีมันสำปะหลังครบวงจร"

จนทำให้เกิด "ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีมันสำปะหลัง ไทย–จีน" เพื่อเป็นกลไกกลางเชื่อมงานวิจัย เทคโนโลยี ทุน และตลาด สู่การใช้จริงในพื้นที่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากด้วยโมเดล "4 เสา" ได้แก่ Cluster, SIE, Industry และ Korat Sandbox มุ่งพัฒนาโคราชเป็นต้นแบบเมืองนวัตกรรมเกษตรครบวงจร ถ่ายทอดเทคโนโลยีมันสำปะหลังตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างคลัสเตอร์เกษตรกร ธุรกิจชุมชน เชื่อมอุตสาหกรรมชีวภาพและนวัตกรรมไทย-จีน สู่การขยายผลในลุ่มน้ำโขง 

กิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

กิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

กิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานในพิธีเปิดศูนย์ฯ กล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากผ่านองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการเกษตร ที่จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและการแปรรูปมันสำปะหลังของไทยอย่างมาก และในโครงการ "สะพานนวัตกรรมไทย–จีน" ยังสามารถเชื่อมโยงเศรษฐกิจ BCG ประเทศไทย เข้ากับโครงการ Belt and Road Initiative นั้น

ยิ่งทำให้ภาพของการพัฒนา จ.นครราชสีมา ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเกษตรอัจฉริยะและอุตสาหกรรมชีวภาพของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ที่ผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน นำโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) หน่วย บพท. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจโคราช (KEA) เทคโนธานี และพันธมิตรสถาบันสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงถือเป็นความยินดีอย่างยิ่งในฐานะตัวแทนของชาวโคราช ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพิธีเปิดศูนย์ฯ ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้กล่าวถึง บทบาทของหน่วย บพท. ในฐานะเป็นแรงหนุนเสริมจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อน ที่มีบทบาทหน้าที่ด้านการสนับสนุนทุนวิจัยในการส่งเสริมและผลักดันความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ให้ไปสู่การยกระดับเกษตรฐานรากของไทยสู่ระดับสากล ด้วยกลไกความร่วมมือเชิงพื้นที่เพื่อมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างตรงจุด

ด้วยการจัดตั้งศูนย์ฯ ขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านความร่วมมือกับ China Rural Technology Development Centre (CRTDC) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน ภายใต้กรอบโครงการ The Belt and Road Initiative เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมระหว่างสองประเทศ

ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีมันสำปะหลังไทย-จีน แห่งนี้ เป็นหนึ่งใน 5 ศูนย์วิจัย ภายใต้ 6 กรอบความร่วมมือไทย-จีน ที่หน่วย บพท. ทำหน้าที่ประสานและสนับสนุนการดำเนินงาน

โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวง อว. และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาและยกระดับการแก้ไขปัญหาความยากจนผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมชนบทซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของทั้งสองประเทศ ที่มุ่งเน้นการพัฒนา ห่วงโซ่คุณค่าการผลิตมันสำปะหลัง (Cassava Value Chain)

ครอบคลุมตั้งแต่การปรับปรุงพันธุ์คุณภาพสูง การจัดการดินและน้ำ การใช้ปุ๋ยชีวภาพ การป้องกันโรคใบด่าง การแปรรูปผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล ไปจนถึงการบริหารจัดการของเสียและการพัฒนาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกรและภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องในพื้นที่

ศูนย์ฯ แห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่หน่วยงานภาครัฐ สถาบันวิชาการ และเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงรูปธรรมในการยกระดับรายได้ขจัดความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนอย่างยั่งยืน

ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็น จุดเริ่มต้นของการขยายเครือข่ายวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ที่นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก การสร้างคุณค่าใหม่ทางสังคม และการเสริมสร้างมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีนในระยะยาว

ในโอกาสนี้ยังตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการต่อยอดความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นและยั่งยืนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์ฯ แห่งนี้จะเป็นต้นแบบของ "ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา (Cooperation for Development)" ที่นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง

อ่านข่าว :

เปิดแคตตาล็อกนวัตกรรมพร้อมใช้มหาวิทยาลัยทั่วอีสาน ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก

"ขาดเงินออม-หนี้สิน" มูลเหตุหลักความยากจน บพท.เสนอ 10 แนวทางแก้ไข