เตรียมลงนามสันติภาพฟิลิปปินส์
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าสมาชิกระดับแกนนำชั้นสูงของกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโรเริ่มทยอยเดินทางถึงกรุงมะนิลาแล้ว ก่อนการมาถึงของนายมูราด เอบราฮิม ผู้นำกลุ่ม ที่จะเดินทางมายังกรุงมะนิลาในช่วงเย็นวันนี้ และจะเยือนทำเนียบประธานาธิบดีเป็นครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ เพื่อร่วมลงนามในกรอบข้อตกลงสันติภาพ ระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์กับกลุ่มกบฏโมโร
นายกาซาลี จาฟาร์ ผู้ช่วยด้านการเมืองของนายมูราด ที่เดินทางถึงกรุงมะนิลาเป็นคณะล่วงหน้า กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางกลุ่มโมโรรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้รับการต้อนรับในกรุงมะนิลา แต่ย้ำว่ากระบวนการนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางสันติภาพ รวมทั้งได้กล่าวถึงความรู้สึกของผู้นำกลุ่มโมโรว่ารู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดก็ได้ลงนามในสัญญาสันติภาพ หลังเจรจากันยาวนานถึง 15 ปี
พิธีลงนามจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยประธานาธิบดีเบนิกโน่ นอยนอย อาคีโน่ จะลงนามร่วมกับนายมูราด เอบราฮิม โดยมีนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และเลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี ร่วมเป็นสักขีพยาน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ประกาศต่อชาวฟิลิปปินส์ว่ารัฐบาล และกลุ่มกบฏโมโรที่ต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดนบนเกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เจรจาโดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลาง จนสามารถบรรลุกรอบข้อตกลงสันติภาพได้ในที่สุด แม้จะมีความหวัง แต่สมาชิกระดับล่างของกลุ่มกบฏ รวมถึงนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงมองว่ายังมีอุปสรรคอีกมาก ที่อาจทำให้กระบวนการสันติภาพล้มเหลว
กรอบข้อตกลงสันติภาพฉบับนี้ให้อำนาจในการจัดตั้งเขตปกครองตนเองบังซาโมโรที่จะมีกฏหมายรองรับอำนาจมากกว่าเขตปกครองตนเองเดิมที่ผู้นำฟิลิปปินส์มองว่าเป็นตัวอย่างที่ล้มเหลว ซึ่งก่อนสิ้นปีนี้คณะกรรมาธิการร่วม2 ฝ่ายจะต้องร่างรายละเอียดการจัดตั้งเขตปกครองตนเอง ขอบเขตปกครอง รวมทั้งกฎหมายกำหนดอำนาจบริหาร ให้แล้วเสร็จ ส่วนกลุ่มกบฏต้องจัดทำแผนการปลดอาวุธ และยกเลิกความพยายามแบ่งแยกดินแดนทั้งหมด
เขตปกครองตนเองบังซาโมโรจะมีอำนาจจัดหารายได้ของตัวเอง และได้รับส่วนแบ่งจากการใช้ประโยชน์ทรัพยากรในพื้นที่ปกครองบนเกาะมินดาเนาที่ยังอุดมสมบูรณ์ ขณะที่รัฐบาลกลางมีอำนาจดูแลเรื่องกองกำลัง และความมั่นคง รวมทั้งเป็นผู้กำหนดนโยบายด้านการเงิน เบื้องต้นคาดว่าเขตปกครองตนเองบังซาโมโรจะใช้การปกครองรูปแบบสภา แต่ยังคงอยู่ใต้อำนาจของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
แต่การจัดตั้งเขตปกครองตนเองต้องผ่านการลงประชามติของประชาชน โดยผู้นำฟิลิปปินส์ระบุว่าจะพยายามผลักดันให้บรรลุผลภายในปี 2559 ก่อนที่เขาจะลงจากตำแหน่ง ซึ่งจุดนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นไปได้ยาก เพราะมีเวลาจำกัด
ขณะเดียวกัน พื้นที่เกาะมินดาเนายังมีกลุ่มติดอาวุธกลุ่มอื่นนอกเหนือจากกลุ่มโมโรที่ยังคงเดินหน้าก่อการร้าย เช่นกลุ่มอาบูซายาฟ ซึ่งไม่ได้ร่วมในการเจรจาสันติภาพ และคาดว่าจะเป็นอุปสรรคอีกประการในการจัดตั้งเขตปกครองตนเอง