นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษก ครม.เงา ระบุว่า ที่ประชุมครม.เงา ได้หารือนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาท ซึ่งแต่ละจังหวัดค่าแรงต่างกัน เพราะค่าครองชีพแตกต่างกันซึ่งการขึ้นค่าแรง 300 บาททั้งประเทศส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันเพราะจะทำให้ผู้ประกอบการย้ายฐานการผลิตจากจังหวัดที่มีระบบการขนส่งที่ดีกว่า ซึ่งแตกต่างจากการขึ้นค่าแรงร้อยละ 40 ในปีที่ผ่านมา ส่วนมาตรการเยียวยา 17 มาตรการของรัฐบาลไม่ส่งผลต่อการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจึงต้องการให้รัฐบาลทบทวนข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมที่เสนอให้เยียวยาผู้ประกอบการ
ขณะที่นายสรรเสริญ สมะลาภา ในฐานะ รมช.การคลังเงา เห็นว่า มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการจากการขึ้นค่าแรง 300 บาทล้วนเป็นมาตรการเก่า ขณะที่มาตรการใหม่ที่เพิ่มขึ้นยังไม่เพียงพอและเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุดจากเดิมที่ยกเว้นการเสียภาษีรายได้นิติบุคคล 1.5 ล้านบาท ขยายเพดานเป็น 300,000 บาท เพื่อนำไปหักภาษีซึ่งถือว่าได้ค่าชดเชยน้อยมากโดยธุรกิจเอสเอ็มอีที่ได้กำไรเท่านั้นจึงจะได้ประโยชน์ขณะที่ธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ขาดทุนไม่สามารถนำมาตราการนี้ไปลดหย่อนภาษีได้ซึ่งจะต้องเลิกกิจการในที่สุด
นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.เงา กังวลแนวทางต่อสู้ทางคดีปราสาทพระวิหารในศาลโลกของรัฐบาลโดยเตรียมตั้งกระทู้ถามสด นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในวันพรุ่งนี้(10 ม.ค.)