ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิด 3 ปัจจัย คนกลัวยื่นบัญชีทรัพย์สิน

การเมือง
15:56
2,629
เปิด 3 ปัจจัย คนกลัวยื่นบัญชีทรัพย์สิน
วิเคราะห์สาเหตุกรรมการหน่วยงานรัฐ-ข้าราชการระดับสูง ไม่เห็นด้วยกับการยื่นบัญชีพทรัพย์สินฯ หวั่นแจงไม่ครบกลายเป็นคดีอาญา เสี่ยงถูกอายัดทรัพย์สิน และต้องแสดงทรัพย์สินของ "ภรรยานอกสมรส" ด้วย

การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกลายเป็นประเด็นอีกครั้ง หลังเคยมีประเด็นนายก-กรรมการสภามหาวิทยาลัย กังวลต่อการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ จนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ต้องเลื่อนการบังคับใช้ประกาศ ป.ป.ช. ว่าด้วยการยื่นบัญชีพทรัพย์สินฯ ออกไปถึง 2 ครั้ง

ล่าสุดเป็นข้อมูลจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน วันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่ามี ”กรรมการยุทธศาสตร์ชาติ” จ่อลาออก เพราะไม่สะดวกที่จะยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ กระทั่งรองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และกรรมการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เพราะป.ป.ช. เตรียมแก้ไขประกาศให้ชัดเจน ซึ่งจะไม่ครอบคลุมถึง “ท่าน”

เพราะหลายคนทำท่าตกใจ ขอลาออกจากตำแหน่ง 

 

ตามมาด้วยคำยืนยันของนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการป.ป.ช. ระบุว่า กรรมการยุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่ตำแหน่งที่ถูกกำหนดให้ยื่นบัญชีพทรัพย์สินฯ แต่ต้น เพราะเป็นตำแหน่งเฉพาะกิจ ไม่ใช่กรรมการในหน่วยงานรัฐ 

ย้อนกลับไปถึง “ความกลัว” ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ ตั้งแต่ช่วงแรกที่ประกาศของ ป.ป.ช. เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อเดือน พ.ย. และเดิมจะมีผลบังคับใช้ วันที่ 2 ธ.ค. นี้ แต่ด้วยเสียงคัดค้านจาก นายก-กรรมการสภามหาวิทยาลัย และกรรมการหน่วยงานรัฐหลายตำแหน่ง นำไปสู่การเลื่อนบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้คนที่ไม่สะดวกมีโอกาส “ไขก๊อก” โดยไม่กระทบกับหน่วยงานรัฐ

“ความกลัว” มาจาก 3 ปัจจัย

1.ตามพ.ร.ป.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตฉบับใหม่ นอกจากผู้ดำรงตำแหน่ง ภรรยา และบุตร จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ บุคคลที่อยู่กินฉันสามีภรรยา อย่าง “ภรรยานอกสมรส” หรือ “กิ๊ก” ก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ด้วย (มาตรา 102 วรรค 2) จึงทำให้ผู้ดำรงตำแหน่งที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ในครั้งนี้หวั่นใจ เพราะหากไม่ยื่นก็เท่ากับจงใจปกปิด

อ่านเพิ่มเติม พ.ร.ป. การป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแบบฟอร์มการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ตามกฎหมายเดิม ระบุชัดเจนว่าทรัพย์สินประเภทใดบ้างที่ต้องแสดง และมีช่อง “บุคคล” ที่ต้องแสดงบัญชีพทรัพย์สิน 3 ช่อง ได้แก่ ตนเอง คู่สมรส และบุตร ซึ่งเป็นไปได้ว่าหากบุคคลที่อยู่กินฉันสามีภรรยาร่วมด้วย ก็อาจจะต้องเพิ่มช่องชี้แจงรายละเอียด หรือแนบเอกสารอื่นๆ อย่างชัดเจน

อ่านเพิ่มเติม แบบฟอร์ม บัญชีพแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน

 

2.ความยุ่งยากของการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ที่จะต้องเก็บรวบรวมเอกสาร การใช้จ่าย หรือการถือครองทรัพย์สิน ซึ่งมีรายละเอียดมากพอสมควร ดังจะเห็นได้จากการยื่นบัญชีทรัยพ์สินของรัฐมนตรีครั้งล่าสุด เช่น เครื่องประดับ นาฬิกา และพระเครื่อง ฯลฯ เพราะหากแสดงไม่ละเอียด อาจเข้าข่ายจงใจปกปิดทรัพย์สิน หรือแสดงบัญชีพทรัพย์สินอันเป็นเท็จ

มุมนี้มี 2 ด้าน ด้านหนึ่งมีความยุ่งยากจริง สอดคล้องกับข้อเสนอของ นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน แม้เห็นด้วยกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ แต่เรียกร้องให้ป.ป.ช. ทำงานเชิงรุก โดยสร้างฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกับระบบออนไลน์ เช่นเดียวกับการเสียภาษีเพื่อความสะดวกในการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ แต่อีกด้านหนึ่ง ข้าราชการระดับสูงหรือกรรมการหน่วยงานรัฐ ส่วนใหญ่เป็นอดีตข้าราชการหรือบุคคลที่เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ มาแล้ว ประเด็นความยุ่งยาจึงไม่ควรถูกหยิบยกมาเป็นข้ออ้าง


3. กรณีที่ ป.ป.ช. มีมติให้อายัดทรัพย์สินเนื่องจากมีหลักฐานเกี่ยวกับการร่ำรวยผิดปกติหรือการจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เป็นเท็จ หากถูกตรวจสอบในขั้นตอนนี้และทรัพย์สินถูกอายัด จะทำให้เหล่า “กรรมการ” ที่มีธุรกิจส่วนตัวได้รับผลกระทบ และอาจลุกลามกระทั่งถูกดำเนินคดีอาญาด้วย

ทั้ง 3 ประเด็นนี้จึงเป็นประเด็นหลัก ที่สะท้อน “ความกลัว” และเป็นสาเหตุที่ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงออกมาคัดค้าน 

จาก นายก-กรรมการสภามหาวิทยาลัย มาถึงกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ปัญหาแต่ละจุดถูกแก้ไข กรณีนายก-กรรมการสภามหาวิทยาลัย และกรรมการระดับสูงในหน่วยงานรัฐ ป.ป.ช.เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไป ขณะที่กรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งรัฐบาลและป.ป.ช. ยืนยันว่าไม่ต้องยื่น

อย่างไรก็ตามคำถามของสังคมต่อกรณีนี้ ได้รับการชี้แจงตามหลักกฎหมายแล้ว แต่หลักจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่ชูสโลแกนเป็นรัฐธรรมนูญ "ฉบับปราบโกง" ซึ่งเพิ่มมาตรการการตรวจสอบภาครัฐ-เอกชนอย่างเข้มข้น เป็นคำถามที่ประชาชนยังคาใจ และอยากให้ผู้มีอำนาจและผู้ใช้อำนาจปฏิบัติตนตามถ้อยคำในรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป