ศบค.ขอประชาชน " WFH 100 % - 12 จว.งดออกนอกเคหสถาน"

สังคม
29 เม.ย. 64
12:12
8,775
Logo Thai PBS
ศบค.ขอประชาชน " WFH 100 % - 12 จว.งดออกนอกเคหสถาน"
ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID -19 ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1,871 คน ยอดติดเชื้อสะสม 63,570 คน เสียชีวิตเพิ่ม 10 คน พร้อมขอความร่วมมือประชาชน WFH 100 % และขอความร่วมมือ12 จังหวัดงดออกนอกเคหสถาน

วันนี้ (29 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID -19 ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1,871 คน ยอดติดเชื้อสะสม 63,570 คน เสียชีวิตเพิ่ม 10 คน เสียชีวิตสะสม 188 คน 

ขณะที่ทั่วโลกมียอดติดเชื้อสะสม 150 ล้านคน เสียชีวิตสะสม 3.1 ล้านคน หายป่วยแล้ว 127.7 ล้านคน โดยวันนี้ "อินเดีย" มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3.7 แสนคน ส่วนไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 104 ของโลก 

ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 27,988 คน อยู่ใน รพ. 21,306 คน รพ.สนาม 6,682 คน อาการหนัก 786 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 230 คน 

 

เสียชีวิต 10 คน 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 10 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 2 คน อยู่ในพื้นที่ กทม. 6 คน นครสวรรค์ 1 คน สมุทรปราการ 1 คน ยโสธร 1 คน และพระนครศรีอยุธยา 1 คน 

ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว เบาหวาน 5 คน ความดันโลหิต 4 คน โรคหลอดเลือดสมอง 2 คน ภาวะอ้วน 1 คน โรคหัวใจ 1 คน โรคไตเรื้อรัง 1 คน ผู้ป่วยติดเตียง 1 คน ปฏิเสธโรคประจำตัว/ไม่ทราบ 3 คน 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงของผู้เสียชีวิต มีทั้งสัมผัสผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ เป็นญาติที่มาเยี่ยม กินข้าวกับเพื่อน คนดูแลติดเชื้อ ร่วมสัมมนากับผู้ติดเชื้อ และไม่สามารถระบุปัจจัยเสี่ยง 3 คน 

 

จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 10 อันดับแรก

วันนี้จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 10 อันดับแรก กทม.จำนวน 689 คน จ.สมุทรปราการ จำนวน 151 คน จ.ชลบุรี จำนวน 112 คน จ.เชียงใหม่ จำนวน 89 คน จ.ปทุมธานี จำนวน 81 คน จ.สงขลา จำนวน 46 คน จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 46 คน จ.สมุทรสาคร จำนวน 39 คน จ.ขอนแก่น จำนวน 32 คน จ.นครปฐม จำนวน 30 คน 

ที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข รายงานข้อมูลการแพร่ระบาด COVID - 19 ระลอกใหม่ เม.ย.2564 กทม.มียอดป่วยสะสมจำนวน 11,588 คน ปริมณฑล จำนวน 3,817 คน รวมจำนวน 15,405 คน ส่วนจังหวัดอื่น ๆ 19,095 คน หากลดจำนวนผู้ติดเชื้อใน กทม.ได้ เปรียบเสมือนแก้ปัญหาได้ทั้งประเทศ เช่นเดียวกับรอบที่แล้วใน จ.สมุทรสาคร

ข้อมูลพบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อระลอก เม.ย. จากกลุ่มก้อนร้านอาหาร 294 คน ลักษณะมีการนั่งดื่มกินในลักษณะครอบครัวและเพื่อน ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน อายุเฉลี่ย 30 ปี พบ 175 คน มีอาการไอ เจ็บคอ ไข้ น้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ  

ปัจจัยเสี่ยงมาจากสัมผัสร่วมบ้าน (วง 2) 42 % ไม่ระบุ 29 % ร้านชาบู/หมูกระทะ/สุกี้ 18% ร้านอาหารกึ่งผับ 12% และกินอาหารร่วมวงที่บ้าน/ที่ทำงาน 1%

นพ.ทวีศิลป์ ระบุ ขอความร่วมมือ WFH งดพบปะสังสรรค์-งานเลี้ยง และซื้ออาหารกลับมากินที่บ้าน โดยยืนยันว่า ทราบและเข้าใจผลกระทบของผู้ประกอบการร้านอาหาร ไม่ได้สั่งปิดหรือห้ามขาย แต่ขอความร่วมมืองดนั่งรวมกลุ่ม 

ขอความร่วมมือ 12 จังหวัดงดออกจากเคหสถาน

โฆษก ศบค.ยังกล่าวว่า มท.ทำข้อสรุปจังหวัดที่ขอความร่วมมือประชาชน งดออกจากเคหสถาน 12 จังหวัด ไม่ใช่เคอร์ฟิว ได้แก่ จ.ชัยนาท จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สุราษฎร์ธานี จ.ตรัง จ.ยะลา จ.บึงกาฬ จ.นครนายก จ.ปทุมธานี จ.สมุทรปราการ จ.สงขลา 

ขณะนี้มี 73 จังหวัดที่บังคับใช้กฎหมายกับผู้ไม่สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย เมื่อออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่สาธารณะ

 

แจ้งเลื่อนรายงานตัวเกณฑ์ทหาร เป็น 1 ก.ค.

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดฉบับที่ 21 เรื่องการเกณฑ์ทหาร โดยให้ผู้ที่ต้องรายงานตัวที่จะเข้าประจำการและรับการฝึกทหารใหม่ งดเข้ารายงานตัวในวันที่ 1 พ.ค.นี้ โดยไม่ถือว่าเป็นการหลีกเลี่ยง ขัดขืน ไม่มาตามนัด และกำหนดให้รายงานตัววันที่ 1 ก.ค.นี้ ป้องกัน COVID-19 

ส่วนผู้ที่ลาออกจากงานแล้ว กระทรวงแรงงานแจ้งว่า อาจมีผลกระทบบ้าง แต่มีกฎหมายเกี่ยวกับผลประโยชน์ทดแทน โดยผู้ประกันตนที่ว่างงานจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ จะได้รับเงินทดแทน 70% ของค่าใช้จ่ายรายวัน และส่วนกรณีว่างงานเพราะเหตุต้องออกจากงาน หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง ได้รับเงินทดแทน 45% ของค่าใช้จ่ายรายวัน โดยจะได้รับครั้งละไม่เกิน 90 วัน  

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง