"รัชฎา" โต้ยิบปมสินบนอ้างปมขัดแย้ง "ชัยวัฒน์"ศาลนัด 30 มี.ค.

สิ่งแวดล้อม
23 ก.พ. 66
15:25
754
Logo Thai PBS
"รัชฎา" โต้ยิบปมสินบนอ้างปมขัดแย้ง "ชัยวัฒน์"ศาลนัด 30 มี.ค.
“รัชฎา” โต้ทุกข้อกล่าวหาซองเงินในห้องทำงาน ยันเป็นเงินที่ถูกนำมาบริจาคผ่านตัวเองเพื่อเข้าโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า-จัดสร้างพระบรมรูปจำลอง ร.5 อ้างปมขัดแย้ง "ชัยวัฒน์" ถูกสอบโครงการปลูกป่าปี 2562 ศาลนัด 30 มี.ค.นี้

วันนี้ (22 ก.พ.2566) นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยหลังจากเข้าไต่สวนมูลฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีที่ยื่นฟ้องพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กับพวก รวม 7 คน ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ ,ทำพยานหลักฐานเท็จ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา บุกรุก ซ่องโจร, พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อ้างปมขัดแย้ง "ชัยวัฒน์" ถูกสอบงบปลูกป่า

นายรัชฎา กล่าวว่า วันนี้ได้ให้การชี้แจงกับศาลตั้งแต่ก่อนถูกจับ ขณะถูกจับ และหลังถูกจับว่ารู้จักกับฝ่ายผู้ถูกร้องหรือไม่ ซึ่งนายรัชฎา บอกว่า รู้จักกับนายชัย วัฒน์มากว่า 10 ปี สมัยที่นายชัยวัฒน์ เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ทำเรื่องเบิกจ่ายโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ กว่า 4,200 ไร่ เป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท เมื่อปี 2562 แล้วพบว่าไม่มีการดำเนินโครงการ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนเรื่องจะเงียบหายไป

จนกระทั่งเป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็กำลังจะดำเนินการต่อ เนื่องจากคดีในชั้น ป.ป.ช.จะหมดอายุความในวันที่ 29 มี.ค.นี้ หากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นไปด้วย

คาดว่าเป็นสาเหตุให้นายชัยวัฒน์ ไม่พอใจจึงไปแจ้งความกับตำรวจ ปปป. ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการกรมอุทยานฯ ทั่วประเทศ ตำรวจจึงเข้ามาตรวจค้นในห้องทำงานก่อนที่จะพบเงินสดกว่า 98,000 บาท พร้อมกับรายชื่อข้าราชการที่อยู่บนซอง

อ่านข่าวเพิ่ม ด่วน! ปลัดทส.ลงดาบ "รัชฎา" ให้ออกจากราชการไว้ก่อน-มีผลทันที

แจงเงินบริจาคงบสัตว์ป่า-ซื้อพระรูปจำลอง ร.5

นายรัชฎา ยังบอกว่าในวันที่เกิดเหตุ เป็นวันที่ทางกระทรวงฯ มีงานอยู่ในช่วงเช้า ซึ่งก็มีข้าราชการในสังกัดเข้ามาพบหลายคน ส่วนใหญ่ก็นำซองใส่เงินมาให้ เพื่อเป็นเงินบริจาคนำไปใช้ในโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ ช่วยเหลืออาหารสัตว์ป่าของกลางที่ถูกยึดไว้ โดยให้เงินบริจาคผ่านอธิบดีเพื่อนำเงินเข้าโครงการ

ส่วนสาเหตุที่ข้าราชการเหล่านั้นไม่โอนเงินเข้าบัญชีโดยตรงนั้น นายรัชฎา ก็ระบุว่า เป็นเพราะข้าราชการต้องการให้อธิบดีฯ ทราบว่าร่วมบริจาคเงินเท่าใด แต่ด้วยวัตถุประสงค์อื่นหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้

ส่วนก่อนหน้านี้ ก็มีหน่วยงานเอกชน และราชการ หน่วยอื่นช่วยมาแล้วกว่า 6 ล้านบาท แต่ด้วยโครงการนี้ต้องใช้เงินกว่า 30 ล้านบาท จึงไม่เพียงพอ และก็มีการตัดงบประมาณจากโครงการอื่นมาช่วยเหลืออีกกว่า 20 ล้านบาท ส่วนเงินบริจาคในซองก็จะนำเข้าโครงการนี้ทั้งหมด

ส่วนการจัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ได้จัดสร้างไปแล้วกว่า 500 องค์ และได้มีคนได้เช่าไปแล้วกว่า 300 องค์ เหลืออีกกว่า 100 องค์ ทำให้ในวันดังกล่าวมีข้าราชการมาเช่าพระบรมรูป โดยผ่านทางอธิบดีเช่นกัน ซึ่งเงินนี้จะนำไปอยู่ในโครงการสวัสดิการของข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ

สำหรับเงินที่ตรวจยึดได้ในห้อง นายรัชฎา กล่าวว่า แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ เงินส่วนตัวที่เก็บไว้ในลิ้นชัก เงินที่ข้านำมาฝากเข้าโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ และเงินเช่าพระบรมรูป เพื่อเข้าโครงการสวัสดิการฯ ส่วนหน้าซองที่มีการเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับเงินว่าเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้างนั้น ขอให้เป็นสำนวนการสอบสวนของตำรวจในคดี ซึ่งให้การไปหมดแล้ว

ลั่นพร้อมสู้คดี-นัดฟังคำสั่ง 30 มี.ค.นี้ 

ขณะที่คดีอาญาที่ถูกดำเนินคดี ยังอยู่ระหว่างรอสำนักงาน ป.ป.ช. ไปชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งได้ไปรายงานตัวในเบื้องต้นไว้แล้ว และพร้อมที่จะต่อสู้คดี ยืนยันว่าไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการในกรมอุทยานแห่งชาติฯ

ส่วนหลังจากนี้ ก็จะพิจารณาเรียกร้องความเป็นธรรม จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีที่ถูกดำเนินคดีและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรม

นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความ ได้บอกว่า ที่ผ่านมานายรัชฎา อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน จึงไม่ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน และขอให้พิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม และอยากให้ดูคลิปวิดีโอ ในขณะที่นายชัยวัฒน์ เข้าไปพูดคุยในห้องทำงานของนายรัชฎา ก่อนที่จะถูกเข้าจับกุม

พบว่านายชัยวัฒน์ มีการพูดคุยในลักษณะการขอไกล่เกลี่ยการจ่ายเงินกับอธิบดี ซึ่งทนายความก็ยืนยันว่า หลักฐานชิ้นนี้จะสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ ศาลได้นัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษาในคดีว่าจะรับฟ้อง หรือยกฟ้อง โดยก่อนหน้านี้ศาลได้ทำหนังสือถึงกองบัญชาการสอบสวนกลาง ให้ส่งรายงานข้อเท็จจริงการเข้าจับกุมมาให้แล้ว

อ่านข่าวเพิ่ม "รัชฎา" ปัดเรียกรับผลประโยชน์ ขรก.กรมอุทยานฯ

ผบ.ตร.ไม่หวั่นปปป.ถูกฟ้อง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยืนยันว่าข้าราชการตำรวจไม่หวั่นไหว กรณีที่นายรัชฎา แจ้งข้อหา ผก.ปปป. ยืนยันว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่ไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งหรือใส่ร้าย อีกทั้งได้รับการประสานจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงปฏิบัติไปตามหน้าที่ ซึ่งหากทางอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ คิดว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็เป็นสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับตำรวจได้

ผบ.ตร. กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เน้นย้ำข้อกฎหมายกับตำรวจทั่วประเทศในการเข้าตรวจค้นเป้าหมายและสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะกับผู้ต้องหารายสำคัญ ก็จะต้องให้มีการบันทึกภาพ และคลิปวิดิโอไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบภายใต้กรอบของกฎหมาย ว่าทำอะไรก็ต้องตรงไปตรงมาเพราะมีหลายฝ่ายจับจ้องมองอยู่ และทุกอย่างก็เป็นไปตามภาพที่ปรากฏ

ทั้งนี้ เชื่อว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ และชุดปฏิบัติการจับกุมไม่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะทราบดีอยู่แล้วว่าจะได้รับแรงกระทบอะไรกลับมาบ้าง พร้อมย้ำว่าตำรวจดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการพูดคุยกับผู้บังคับการ ปปป.แต่อย่างใด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ชัยวัฒน์" ฟ้องกลับ ปลัดทส.ปมตั้ง กก.สอบปลูกป่าแก่งกระจาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง