วันนี้ (1 เม.ย.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ยังมีฝุ่นควันปกคลุม โดยสถานการณ์ฝุ่นในเขตเมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลา 10.00 น. วัดค่าฝุ่น PM2.5 ใน ต.ศรีภูมิ ได้ 197 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร (มคก./ลบ.ม.), ต.ช้างเผือก 196 มคก./ลบ.ม. และ ต.สุเทพ 182 มคก./ลบ.ม. ส่วนพื้นที่รอบนอกอย่าง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว วัดค่าฝุ่น PM2.5 ได้สูงสุด 341 มคก./ลบ.ม.
ขณะที่เดียวกันมีการประชุมศูนย์บัญชาการป้องกันหมอกควันไฟป่า โดยมีอำเภอทุกอำเภอเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามสภาพอากาศ ค่าฝุ่น สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันรายอำเภอและพื้นที่สำคัญ รวมถึงกำหนดมาตรการแนวทางในการรับมือกับปัญหา
สำหรับจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISDA พบว่า จ.เชียงใหม่ พบจุดความร้อนมากที่สุด 508 จุด รองลงมา จ.แม่ฮ่องสอน 379 จุด และ จ.เชียงราย 335 จุด
ส่วนภาพรวมในประเทศไทย พบจุดความร้อนเพิ่มมากขึ้น 3,405 จุด ส่วนเมียนมาพบจุดความร้อน 6,424 จุด, สปป.ลาว 2,987 จุด และกัมพูชา 303 จุด
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho36o7a4AV5O7ZNnf4ueMWDKymV.jpg)
แม่สาย PM2.5 พุ่ง 309 ไมโครกรัม
ขณะเดียวกันประชาชนใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงเผชิญฝุ่นควันเกินค่ามาตราฐานเป็นเวลานานนับสัปดาห์ โดยเมื่อเวลา 10.00 น. เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ วัดค่าฝุ่น PM2.5 ได้ 309 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ชาวบ้านใน อ.แม่สาย คนหนึ่งสะท้อนปัญหาหมอกควันว่า ปี 2566 เป็นปีที่หนักที่สุดเท่าที่เคยเจอ จึงอยากให้รัฐช่วยหาวิธีให้ประชาชนสามารถอยู่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน เช่น เลือดกำเดาไหล หายใจไม่สะดวก แต่ก็ไม่สามารถหยุดค้าขายได้เพราะต้องทำมาหากิน
ส่วนบริเวณด่านพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 อ.แม่สาย แม้ยังถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน แต่ยังมีประชาชนจากทั้ง 2 ประเทศเดินทางเข้า-ออกอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว อ.แม่สาย ค่อนข้างบางตา โดยผู้ค้าในตลาดสายลมจอย กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาท่องเที่ยว และไม่รู้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อไหร่ เพราะเข้าใจดีว่ารัฐบาลไม่สามารถห้ามประเทศเพื่อนบ้านไม่ให้เผาได้ จึงหวังให้มีฝนตกลงมา เพื่อแก้ไขปัญหาในขณะนี้
สอดคล้องกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวรายหนึ่งใน อ.เชียงแสน ระบุว่า ถูกยกเลิกทัวร์ชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงไปแล้วร้อยละ 20 ซึ่งปีนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเชื่อว่าควันที่มีจำนวนมากเกิดขึ้นจากการขยายพื้นที่ทางการเกษตรในฝั่งเมียนมาและลาว ประกอบกับการเกิดไฟไหม้ป่าในประเทศไทยก็ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง
อ่านข่าวอื่นๆ
ปภ.เผยไฟป่า "เขาแหลม" ทำพื้นที่ป่าเสียหายแล้ว 1,067 ไร่