ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"แอนโธนี อัลบานีส" นั่งนายกฯ ออสเตรเลีย 2 สมัยซ้อนคนแรกรอบ 20 ปี

ต่างประเทศ
3 พ.ค. 68
18:51
345
Logo Thai PBS
"แอนโธนี อัลบานีส" นั่งนายกฯ ออสเตรเลีย 2 สมัยซ้อนคนแรกรอบ 20 ปี
แอนโธนี อัลบานีส นำพรรคแรงงานคว้าชัยชนะเลือกตั้งออสเตรเลียสมัย 2 ขณะที่ ปีเตอร์ ดัตตัน ผู้นำพรรคลิเบอรัล พ่ายแพ้ทั้งในระดับชาติและเสียที่นั่งในเขตของตัวเอง ท่ามกลางความกังวลจากนโยบายภาษี ปธน.ทรัมป์ ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

วันนี้ (3 พ.ค.2568) การเลือกตั้งทั่วไปของออสเตรเลียสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของ "แอนโธนี อัลบานีส" นายกรัฐมนตรีจากพรรคแรงงาน (Labor Party) ที่นำพรรคคว้าที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร ตามการคาดการณ์ของสื่อชั้นนำอย่างสถานีโทรทัศน์ ABC และ Sky News ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ CNN

ผลการนับคะแนนเบื้องต้นแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยพรรคแรงงานได้รับคะแนนสนับสนุนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในหลายรัฐ รวมถึงนิวเซาท์เวลส์ ควีนส์แลนด์ แทสเมเนีย และเซาท์ออสเตรเลีย ขณะที่ในวิกตอเรียมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้อัลบานีสกลายเป็นนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคนแรกนับตั้งแต่ จอห์น ฮาวเวิร์ด ในปี 2547 ที่สามารถชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ผลการเลือกตั้งสะท้อนถึงความต้องการของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เลือกความมั่นคงของพรรคแรงงาน ภายใต้การนำของอัลบานีส ท่ามกลางความไม่แน่นอนในระดับโลกที่เกิดจากนโยบายของ ปธน.สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะการประกาศใช้ภาษีนำเข้าทั่วโลก

ในทางตรงกันข้าม ปีเตอร์ ดัตตัน ผู้นำพรรคลิเบอรัล (Liberal Party) และหัวหน้าพันธมิตรฝ่ายค้าน (Liberal-National Coalition) เผชิญกับความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญ ไม่เพียงแต่พรรคลิเบอรัลสูญเสียที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรจำนวนมาก แต่ดัตตันยังเสียที่นั่งของตัวเองในเขตดิกสัน (Dickson) ชานเมืองบริสเบน ซึ่งเขาครอบครองมานานกว่า 20 ปี ตามรายงานของ 7NEWS การนับคะแนนในเขตนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงคะแนนอย่างมีนัยสำคัญไปสู่พรรคแรงงาน โดย 7NEWS ระบุว่า "พรรคลิเบอรัลไม่มีหนทางสู่ชัยชนะ" และดัตตัน "ไม่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี"

การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีนำเข้าทั่วโลกของ ปธน.ทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของชาวออสเตรเลียต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ตามการสำรวจล่าสุด วันที่ 2 เม.ย.2568 ทรัมป์ประกาศ "วันปลดแอก" (Liberation Day) โดยกำหนดภาษีนำเข้าร้อยละ 10 สำหรับสินค้าจากออสเตรเลีย ซึ่งต่อมาถูกระงับชั่วคราว

อัลบานีสตอบโต้อย่างรวดเร็วด้วยการแถลงข่าวพร้อมรัฐมนตรีต่างประเทศและการค้า โดยระบุว่า "นี่ไม่ใช่การกระทำของมิตร" การตอบสนองที่หนักแน่นและมีน้ำหนักของเขาช่วยสร้างภาพลักษณ์ผู้นำที่มั่นคง

ในทางกลับกัน ดัตตันพยายามวางตัวเป็นนักเจรจาที่เข้มแข็ง โดยอ้างว่าเขาจะสามารถยกเว้นภาษีจากทรัมป์ได้ "อย่างรวดเร็ว" ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านี้ถูกมองว่าไม่สมจริง เนื่องจากไม่มีประเทศใด รวมถึงพันธมิตรสหรัฐฯ อย่างญี่ปุ่นหรือยุโรป ได้รับการยกเว้นภาษี

นอกจากนี้ การที่พรรคแรงงานเปรียบเทียบดัตตันกับทรัมป์ โดยเฉพาะนโยบายที่คล้ายกัน เช่น การแต่งตั้งรัฐมนตรีด้านประสิทธิภาพรัฐบาล ในสไตล์ของอีลอน มัสก์ หรือการตัดงบด้านความหลากหลายและการยอมรับ (DEI) ทำให้ดัตตันเสียคะแนนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่กังวลเกี่ยวกับแนวทางอนุรักษนิยมสุดโต่งของทรัมป์

การสำรวจของ Resolve Political Monitor เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2568 ระบุว่าร้อยละ 33 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีแนวโน้มน้อยลงที่จะลงคะแนนให้ดัตตัน เนื่องจากมุมมองเชิงลบต่อทรัมป์ เทียบกับเพียงร้อยละ 21 ที่รู้สึกเช่นเดียวกันต่ออัลบานีส นักวิเคราะห์จากสถาบันออสเตรเลีย เอ็มมา ชอร์ติส ระบุว่านโยบายของทรัมป์ที่โจมตีพันธมิตรดั้งเดิมของสหรัฐฯ ทั้งด้วยภาษีและนโยบายต่างประเทศ ทำให้ผู้นำฝ่ายขวาที่มีแนวคิดคล้ายทรัมป์ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

ในด้านนโยบายภายใน อัลบานีสหาเสียงโดยเน้นการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ ซึ่งเป็นประเด็นหลักของการเลือกตั้ง หลังจากที่ออสเตรเลียเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อสูงเป็นเวลานาน พรรคแรงงานให้คำมั่นว่าจะให้เงินช่วยเหลือด้านพลังงานระยะสั้น ลดหย่อนภาษี และสร้างบ้าน 1,200,000 หลัง เพื่อแก้ไขวิกฤตที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังมีนโยบายลดหนี้การศึกษาลงร้อยละ 20 ปรับปรุงการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และลดค่าใช้จ่ายด้านยาและการดูแลเด็ก

ชัยชนะของพรรคแรงงานในออสเตรเลียเกิดขึ้นพร้อมกับชัยชนะของพรรคลิเบอรัลในแคนาดา ภายใต้การนำของมาร์ก คาร์นีย์ ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศพันธมิตรสหรัฐฯ ที่หันมาเลือกความมั่นคงท่ามกลางความวุ่นวายจากนโยบายของทรัมป์ แม้ว่าออสเตรเลียจะไม่เผชิญภัยคุกคามต่ออธิปไตยเหมือนแคนาดา แต่การสำรวจระบุว่าชาวออสเตรเลียเริ่มสูญเสียความเชื่อมั่นในสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากนโยบายภาษีและความผันผวนทางการทูตของทรัมป์

อ่านข่าวอื่น :

จับเจ้าของโรงแรมจีนในญี่ปุ่น ตัดต้นไม้เพื่อ "วิวฟูจิ" ไม่ขออนุญาต

ทบ.ปรับแผนเข้ม! ประณามผู้ก่อเหตุยิงเด็ก-คนชราเสียชีวิตนราธิวาส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง