วันนี้ (23 พ.ค.2568) พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีความต้องการยาโมลนูพิราเวียร์เพิ่มมากขึ้น เป็นไปตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
อภ.สั่งเพิ่มการผลิตยากระจายสู่คลังยากว่า 20,000 หน่วย ในวันที่ 24 พ.ค.และวันที่ 28 พ.ค.จะกระจายเพิ่มอีกกว่า 18,000 หน่วย ครอบคลุมความต้องการทั่วประเทศ คาดว่าจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้
ตัวเลขคนติดเชื้อโควิด-19 ยังเพิ่มสูง
ส่วนสถานการณ์ของโควิด-19 ขณะนี้ พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า วันที่ 11-17 พ.ค.มีผู้ป่วยรายใหม่ 55,718 คน ส่วนสัปดาห์นี้ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.ถึงปัจจุบัน (23 พ.ค.) มีผู้ป่วยรายใหม่ 31,601 คน
จากตัวเลขถือว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วง คาดว่าตัวเลขยังสูงตลอดหน้าฝนนี้ กรมควบคุมโรคจึงแนะให้เฝ้าระวังและจะรณรงค์ทุกทางเพื่อให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง
สำหรับยาสำหรับรักษาโควิด-19 กรมควบคุมโรค ยืนยันว่ายังเพียงพอรับมือสถานการณ์ แต่มีการทบทวนแนวทางการรักษากับแพทย์ เนื่องจากยารักษาโควิด-19 มี 3 ชนิด เป็นยารับประทาน 2 ชนิดคือ แพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) และโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) กับยาฉีด 1 ชนิดคือ เรมเดสซีเวียร์ (Remdesivir)
มีคำแนะนำว่า ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่อายุมากและมีโรคประจำตัว ควรรักษาด้วยยาฉีด ซึ่งมีประสิทธิภาพดีที่สุดเพื่อความเหมาะสมกับการรักษาและลดการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ แต่ผู้ป่วยควรเข้ารับการรักษาภายใน 3-4 วันหลังตรวจพบเชื้อ
อ่านข่าว
โควิด-19 ในไทยยังเป็นสายพันธุ์ JN.1 ขณะ 5 วันป่วยพุ่ง 3 หมื่น ตาย 3