ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“รทสช.” ทุนหาย-กำไรหด กลุ่มทุนพลังงานแจ้งเกิด “โอกาสใหม่”

การเมือง
15:21
547
“รทสช.” ทุนหาย-กำไรหด กลุ่มทุนพลังงานแจ้งเกิด “โอกาสใหม่”
อ่านให้ฟัง
07:01อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

เดือนเดือด ! สัญญาณยุบสภา ยังมาไม่ถึง แต่การขยับของเหล่าสส. เกิดขึ้นรัว ๆ ชัดเจนต่อเนื่อง หลัง “สุชาติ ชมกลิ่น” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โยนหินก้อนใหญ่ นัด 20 สส.มารับประ ทานอาหารที่โรงแรมคอนราด ถนนวิทยุ เมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีการปล่อยภาพร่วม “จิบกาแฟ” กับ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส. เขต 10 นครศรีธรรมราช และกลุ่ม สส.ภาคใต้ของพรรครวมไทยสร้างชาติอีก 4 คน

แม้ “สุชาติ” จะออกมาระบุว่า การรับประทานอาหารร่วมกันของสส.ถือเป็นเรื่องปกติ และทำมานาน 5-6 เดือนแล้ว เพื่อพูดคุยถึงอนาคตทางการเมืองหลังจากนี้ แต่ต้องไม่ลืมการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มการเมือง”ภาคตะวันออก” ได้ขยับรอล่วงหน้า ตั้งแต่การเลือกตั้งนายกเล็ก ในสนามระดับท้องถิ่น เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษากล้าธรรม บุกไปในหลายจังหวัดเป็น “ข้อต่อ-ตัวเชื่อม” ให้พรรคเพื่อไทย หวังเป้าระยะไกล ในการเลือกตั้งปี 2570

การเติบโตของพรรคกล้าธรรมอย่างก้าวกระโดด เมื่อปี 2567 จากสส.คนเดียว ปัจจุบันมีสส.26 คน และจำนวน 20 คน เป็นกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ดีดทิ้งพรรคพลังประชารัฐของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” โดยรัฐบาลเพื่อไทยให้คุม “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์”เป็นการตอบแทน

จึงไม่แปลกหาก “สุชาติ” จะแปรพักตร์พา สส.กว่า 20 คนที่เคยสังกัดพรรคพลังประชารัฐในอดีต ก่อนจะหยุดที่ “รวมไทยสร้างชาติ”ในยุค “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” โดยมี “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค”เป็นหัวหน้าพรรค แม้จะพวกเขา “ล่มหัว”อยู่ด้วยกันนานกว่า 2 ปี แต่ “สุชาติ-พีระพันธุ์” เสมือนปลาคนละน้ำ "จมท้าย” ไปต่อด้วยกันไม่ได้

ดังนั้นพรรคโอกาสใหม่ จึงเป็นทางเลือกใหม่ของสส.ก๊วน “สุชาติ” ที่จะเข้าไปซบ และหาทางแจ้งเกิดกับกลุ่มทุนใหม่ เป็นโอกาสเติบโตก้าวหน้าทางการเมืองตามรอย “ร.อ.ธรรมนัส” ได้ไม่ยาก และไม่แน่ว่า อาจได้รับตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงใหม่เป็นการตอบแทน

สำหรับ “โอกาสใหม่” หรือ New Opportunity Party จดทะเบียนวันที่ 28 ก.พ. 2565 ในชื่อ “พรรคไทยเป็นหนึ่ง” และมาเป็นพรรคโอกาสใหม่ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2567

ปัจจุบัน “สุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์” เป็นหัวหน้าพรรค และ “ธงชัย ลืออดุลย์” เป็นเลขาธิการพรรค มีกรรมการบริหารพรรค 16 คน

และมีรายชื่อน่าสนใจ คือ “ภัทรานันท์ ทองประพาฬ” น้องสาวของ “พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ” สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รองประธานกรรมการคนที่ห้า ในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร

ท่ามกลางกระแสว่ากลุ่มทุนใหญ่ของพรรคโอกาสใหม่ ยังคงเปิดรอ “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และ “ปลัดตุ๋ม” จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เข้ามาช่วยงาน ถือเป็นการขยับ เหมือนเตรียมการไว้ล่วงหน้า

ขณะที่จุดเปลี่ยนการเมืองของ 20 สส.กลุ่มของ “สุชาติ”ก็ไม่ง่าย เมื่อเจอไม้เด็ด “พีระพันธุ์” อดีตผู้พิพากษาเก่า ในฐานะหัวหน้าพรรครทสช. “ย้อนเกล็ด” แก้ข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ศ. 2563 เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2568

ยกเลิกความในข้อ 53 ของข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ศ. 2563 และ ให้ใช้ข้อความดังต่อไปนี้แทน ข้อ 53 ระบุว่า สมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลง เมื่อผู้นั้นขาดจากการเป็นสมาธิกพรรคในกรณี...โดยมีสาระสำคัญ

(5) คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรด เพราะกระท่าผิดวินัยหรือมาตรฐานทางจริยธรรมหรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคการเมืองตามข้อ 55หรือกระทำความผิดกฎหมายร้ายแรง หรือมีเหตุร้ายแรงอื่น

(6) ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่นหรือสนับสนุนผู้สมัครในตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ที่ไม่ใช่ของพรรคการเมือง

(7) กระทำการใดที่ทำให้เกิดความแตกแตกแยก หรือความเป็นเอกภาพ ในพรรคการเมือง หรือการบริหารพรรคการเมือง รวมทั้งสนับสนุนหรือส่งเสริมการกระทำเช่นว่านั้น

กล่าวคือ หาก “พีระพันธุ์” มีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อบังคับโทษใหม่ จึงมีความเป็นไปได้ว่า “สุชาติ” ในฐานะ สส. บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีเหตุสมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลง

แต่ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคจะต้องขอมติจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อนจึงจะสมบูรณ์ โดยต้องขอมติที่ประชุม ให้ความเป็นสมาชิกพรรคสิ้นสุดลง โดยต้องมีหลักฐานว่ากระทำความผิดจริงและก่อให้เกิดความผิดร้ายแรง จึงจะถือว่าขาดจากสมาชิกพรรค

ยังถือเป็นศึกหนักภายในของพรรครวมไทยสร้างชาตินับจากนี้ การก่อหวอดย้ายพรรคฯ อาจสยบลงได้ชั่วคราว เพราะมีกฎข้อบังคับพรรคใหม่ “ล็อคคอ” ไว้ให้อยู่ร่วมกันต่อ ท่ามกลางกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยต้องการปรับครม. และเอากระทรวงพลังงานคืน โดยมีความพยายามจากกลุ่มทุนที่เคยสนับสนุนบีบให้ “พีระพันธุ์”ลาออกจากหัวหน้าพรรค

อนาคตของรทสช.ภายใต้การนำของ “พีระพันธุ์” จึงน่าจับตาว่า จะเริ่มนับวันถอยหลัง แตกพ่าย-ย้ายแยก-ตามกลุ่มทุน และนักการเมือง หรือไม่

 อ่านข่าว:

4 กอด “ซ่อนมีด” หักหลัง-ชิงเหลี่ยม-เฉือนคม “วังวนการเมืองไทย”

"ทักษิณ" สยบข่าวหนี โชว์สกิล แก้ยาเสพติด-อาชญากรรมข้ามชาติ