ด้วยสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมจากเดิมที่พบปัญหาในเรื่องของผลกระทบทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสีย มลพิษพื้นฐาน แต่ในปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กระทบประเทศไทย มีลักษณะเป็นขบวนการ มีแบบมีแผน ตลอดจนมีกลไกที่เปลี่ยนไป จึงกลายเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ อาชญากรรมสิ่งแวดล้อมยังมีความสำคัญในระดับภูมิภาค และนานาชาติด้วย
องค์กรสิ่งแวดล้อม สหประชาชาติ (UN Environment Programme หรือ UNEP) ได้ให้ความหมายของอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม หมายถึง การกระทำที่ละเมิดกฎหมายสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์
องค์กรเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ได้ให้ความหมายของอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม หมายถึงการกระทำโดยเจตนาหรือจากความประมาท ละเลยปกป้องก็ตาม และก่อให้เกิดอันตรายอย่างนัยสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม

ภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางอาหาร-ความหลากหลายทางชีวภาพ
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี (BioThai) กล่าวถึงปัญหาที่กำลังคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพและความมั่นคงทางอาหารของประเทศไทยและภูมิภาค ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับปัญหาอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม และการดำเนินนโยบายเกษตรอุตสาหกรรมที่ไม่ยั่งยืน
ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพเป็นรากฐานสำคัญของการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ โดยขณะนี้โลกกำลังเผชิญภัยคุกคาม 5 ประการใหญ่ ได้แก่
- การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและพื้นที่ทางทะเล
- การใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินขนาด
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- มลภาวะในรูปแบบต่าง ๆ
- การรุกรานของสิ่งมีชีวิตต่างถิ่น
ในด้านความมั่นคงทางอาหารก็มีประเด็นสำคัญ 5 ประการเช่นกัน คือ การสูญเสียความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืช ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความไม่เป็นธรรมในการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพ การลงทุนที่ไม่ยั่งยืน การละเมิดสิทธิของชุมชนหรือประเทศเจ้าของทรัพยากร ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมรูปแบบหนึ่ง
นายวิฑูรย์ยังอ้างถึงรายงานขององค์การสหประชาชาติ ที่ชี้ว่าระบบเกษตรกรรมและอาหารของโลกกำลังล่มสลาย โดยระบุว่า ในช่วงเวลาไม่ถึง 50 ปี ระบบเกษตรกรรมสมัยใหม่ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพของโลกไปแล้วถึง 60–80% ขณะที่ยังมีประชาชนกว่า 1,000 ล้านคนที่อดอยาก และอีกกว่า 3,000 ล้านคนที่มีภาวะโภชนาการไม่สมดุล ซึ่งก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ นอกจากนี้ ระบบเกษตรอุตสาหกรรมไม่ได้ตอบโจทย์คนทั้งโลก แต่กลับสร้างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ทำให้ทุนใหญ่รวยขึ้น ขณะที่แรงงานเกษตรกลับยากจนลง
อีกปัญหาใหญ่ที่ถูกกล่าวถึงคือ การขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพดเชิงเดี่ยวเพื่อป้อนโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลให้เกิดฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่ข้ามพรมแดนจากการเผาป่าในลุ่มน้ำโขง โดยองค์การอนามัยโลกประเมินว่า คนไทยได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษถึง 12 ล้านคนต่อปี สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 600,000 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ นายวิฑูรย์ยังชี้ถึงปัญหาจากระบบเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเขตน้ำกร่อย ซึ่งนำไปสู่การระบาดของ ปลาหมอคางดำ ที่เกิดจากการนำเข้าสายพันธุ์ต่างถิ่นและควบคุมไม่ได้ ซึ่งเป็นคดีสิ่งแวดล้อมร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และสะท้อนให้เห็นถึงการขาดความรับผิดชอบในระบบการกำกับดูแล

"มลพิษข้ามพรมแดน" จี้รัฐเร่งแก้ไขเร่งด่วน-เยียวยาประชาชน
เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ ออกมาแสดงความกังวลอย่างหนักต่อสถานการณ์สารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกก จ.เชียงราย ซึ่งมีต้นตอจากกิจกรรมทำเหมืองในประเทศเมียนมา โดยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หรือมีการยุติการทำเหมืองที่เป็นต้นตอของปัญหาได้
หากรัฐบาลยังปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่เร่งดำเนินการแก้ไข พื้นที่ภาคเหนือของไทยอาจกลายเป็นเขตปนเปื้อนมลพิษที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งสารพิษจากเหมืองมีทั้งสารหนูและโลหะหนักอื่น ๆ ซึ่งเมื่อเข้าสู่แหล่งน้ำแล้ว การฟื้นฟูและเยียวยาจะทำได้ยากมาก
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า มีเหมืองประเภทใด กี่แห่ง ที่เป็นต้นเหตุของการปนเปื้อน จึงจำเป็นต้องเร่งเปิดเผยข้อเท็จจริงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้น มลพิษจะไม่หยุดแค่แม่น้ำกก แต่จะลุกลามไปถึงแม่น้ำโขงและแม่น้ำสายอื่น ๆ อีก ซึ่งจะสร้างความเสียหายรุนแรงและประเมินค่าไม่ได้

ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศยังกล่าวถึงอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ นั่นคือ มลพิษข้ามแดน จากการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยชี้ว่านี่คือ อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศไทย
จากรายงานขององค์การตำรวจสากล (Interpol) ที่เคยวิจัยเมื่อ 3 ปีก่อนว่า ประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน กำลังตกเป็นเป้าหมายของประเทศพัฒนาแล้วที่ส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์มาทิ้ง ด้วยหวังให้เป็นแหล่งกำจัด
ถ้ารัฐไทยอ่อนแอ เราจะไม่ใช่แค่ถังขยะธรรมดา แต่จะกลายเป็นถังขยะอันตรายของโลก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจมีการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ และความไม่เกรงกลัวกฎหมายของผู้กระทำผิด เนื่องจากยังไม่เห็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
อาชญากรรมสิ่งแวดล้อมไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ หากบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ยังไม่รู้ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากขบวนการสร้างความเสียหายและเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ
คดีอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมแม้จะนำผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ หรือจำคุกได้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ยังอยู่ยาวนาน เสมือนกันชาวบ้านที่ถูกจำคุกไปโดยปริยาย

เขื่อนแม่น้ำโขงอาชญากรรมข้ามพรมแดน ไร้กลไกควบคุม
ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน กล่าวถึงวิกฤตการณ์เขื่อนในแม่น้ำโขงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง โดยเฉพาะในประเทศต้นน้ำอย่างจีน และการขยายเขื่อนในลาว กำลังกลายเป็น อาชญากรรมข้ามพรมแดน ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศปลายน้ำอย่างไทยและลาว
แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนานาชาติ ไม่ใช่ของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่การบริหารจัดการกลับไม่สะท้อนความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการปล่อยน้ำจากเขื่อนต้นน้ำของจีนที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตือน ส่งผลให้ประเทศท้ายน้ำต้องประสบกับปัญหาภาวะน้ำท่วมฉับพลัน จึงมีการตั้งคณะกรรมการแม่น้ำโขง (MRC) แต่ประเทศที่เป็นสมาชิกกลับไม่มีประเทศจีน
หลังจากที่จีนสร้างเขื่อน มีประเทศที่ต้องการได้ผลผลิตจากแม่น้ำโขง และต้องการเป็นแบตเตอรีเอเชีย ลาวจึงมีนโยบายสร้างเขื่อนทั้งระหว่างชายแดนไทย-ลาว และในลาว
ซึ่งรวมถึงโครงการเขื่อนไซยะบุรี ที่ดำเนินการโดยบริษัทไทยร่วมลงทุนกับรัฐบาลลาว และมีรัฐวิสาหกิจไทยเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้า เป็นการกระทำการปกครองของไทย เลยเป็นที่มาของการฟ้องร้องต่อศาล
ส.รัตนมณี ยังกล่าวถึงกลไกระหว่างประเทศขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ซึ่งมีแนวปฏิบัติที่ช่วยกำกับดูแลการลงทุนและการพัฒนาของภาคเอกชนในประเทศสมาชิก โดยกลุ่มเคลื่อนไหวได้ร้องเรียนไปยัง OECD ถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศปลาในแม่น้ำโขงที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อน
อย่างไรก็ตาม กลไก OECD เป็นกลไกสมัครใจ ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีผลบังคับหากคู่กรณีไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการรณรงค์คัดค้านได้
อ่านข่าว :
ไทยใช้ถุงพลาสติกคนละ 3,000 ใบต่อปี ตั้งเป้าลด-เลิกแบบครั้งเดียวทิ้งในปี 2570
หาคำตอบ "ไมโครพลาสติก อยู่ตรงไหนในชีวิตเรา ทำไมถึงใส่ใจ
5 มิ.ย. วันสิ่งแวดล้อมโลก ชวนใส่ใจสถานการณ์สิ่งแวดล้อมไทย 2568