หลังจาก พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ลงนามในคำสั่งกองทัพบก ที่ 806/2568 เรื่อง ควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.68) เพื่อตอบโต้กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
- ด่วน "ผบ.ทบ." สั่งงัดใช้มาตรการเปิด-ปิดด่าน ตอบโต้กัมพูชา
- ทบ.เปิด 4 ขั้นตอน แนวปฏิบัติคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา
- กกล.บูรพาปรับเวลาเปิด-ปิด "ด่านบ้านคลองลึก-บ้านเขาดิน" ห้ามคนไทยข้ามไปเล่นพนัน
ล่าสุดวันนี้ (8 มิ.ย.2568) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลาธิการ สมช.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการชั่วโมงข่าวเสาร์อาทิตย์ ไทยพีบีเอส โดยมองว่า หากกัมพูชาไม่ยอมเจรจา และไม่ใช้ทางออกร่วมคือ MOU 2543 และยืนยันเดินหน้ายื่นศาลโลกพิจารณาพื้นที่พิพาท ต้องยอมรับว่า แนวทางนี้ทางการไทยก็ไม่ได้ยอมรับกับเงื่อนไขดังกล่าว

ฉะนั้นมาตรการเปิด-ปิด ด่านพรมแดน กำหนดเวลา ณ เวลานี้ ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะเป็นการแสดงออกจุดยืนว่า เราไม่ได้ยอม ไม่ได้นิ่งนอนใจ และยังคงใช้วิธีการอย่างสันติวิธีแบบที่เคยออกแถลงการณ์ไปก่อนหน้านี้ และใช้วิธีเจรจาทางการทูตเป็นหลัก
แต่หลังจากนี้ควรจะค่อย ๆ ยกระดับจากเบาไปหาหนัก หากใช้วิธีการเปิด-ปิดด่าน เพื่อให้กระทบกับเศรษฐกิจไม่ได้ผล อาจจะใช้ยาแรงต่อเช่น ตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือการส่งน้ำมัน และหากยังไม่ได้ผล อาจจะต้องใช้มาตรการทางทหาร
ส่วนประเด็นที่สมเด็จ ฮุนเซน โพสต์สื่อสังคมออนไลน์ ส่งสัญญาณให้ประชาชนกัมพูชาให้อดทนกับมาตรการที่ทางการไทยเริ่มตอบโต้ ซึ่งอดีตเลขาฯ สมช.มองว่า สมเด็จ ฮุนเซน เป็นนักเจรจาทางการทูต นับจากนี้จนกว่าจะถึงวันที่ประชุม JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ อาจจะมีความเคลื่อนไหวออกมาอีกมาก

อย่างไรก็ตาม ฝั่งไทยไม่ควรอ่อนไหวต้องแสดงจุดยืนให้ทั้ง 2 ประเทศ กลับมาใช้ MOU 43 ในการประชุม JBC หากในการประชุมวันที่ 14 มิ.ย.นี้ไม่เป็นผล ทางการไทยก็ต้องมีมาตรการเตรียมความพร้อม เช่น สื่อสารไปที่ประชาคมอาเซียน เพราะมองว่าการเจรจาทางการทูตยังเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้เห็นว่าไทยไม่ได้เป็นผู้จุดชนวนความขัดแย้ง
อ่านข่าว : เปิดไทม์ไลน์ สรุปมาตรการ "ไทย" ตอบโต้ "กัมพูชา"
รู้จัก 7 ด่านค้าชายแดน จุดเชื่อมการค้าการลงทุน "ไทย-กัมพูชา"
เปิดตำนาน "ช่องบก" สามเหลี่ยมมรกตสมรภูมิรบชายแดน 3 แผ่นดิน