วันนี้ ( 10 มิ.ย.2568)นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ คือ มังคุดในสายหมอกเบตง เป็นสินค้า GI ลำดับ 4 ของจ.ยะลา ต่อจากสินค้ากล้วยหินบันนังสตา ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา และส้มโชกุนเบตง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้ โดยมั่นใจว่า หลังจากที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จะทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดได้มากขึ้นจากปัจจุบันที่มีรายได้ปีละกว่า 62 ล้านบาท

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์
สำหรับมังคุดในสายหมอกเบตง เป็นมังคุดพันธุ์พื้นเมือง ลักษณะผลกลมโต เปลือกค่อนข้างหนา ผิวมัน สีม่วงอมแดง เมื่อผลสุกเต็มที่จะมีสีดำ ขั้วและกลีบเลี้ยงสีเขียว เนื้อมีสีขาวนวลปุยฝ้าย และไม่เป็นเนื้อแก้วยางไหล ไม่ฉ่ำน้ำ รสชาติหวานนำเปรี้ยว ปลูกในเขตพื้นที่อ.เบตง และอ.ธารโต จ.ยะลา ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงเชิงเขาสลับช่องน้ำ มีแม่น้ำปัตตานีเป็นแม่น้ำสายสำคัญไหลจากทิศใต้ขึ้นไปทางทิศเหนือ ผ่านอ.ธารโตและไหลลงทะเลอ่าวไทยที่อ.เมือง ทำให้อ.เบตงและอ.ธารโตเป็นพื้นที่ ๆ เหมาะสมต่อการทำการเกษตร

ประกอบกับสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง 3 ครั้งต่อวัน คือ ช่วงเช้ามีหมอก ช่วงเที่ยงมีแดด และช่วงเย็นมีฝนตกบ่อยครั้ง ส่งผลให้บริเวณที่ปลูกมังคุดในสายหมอกเบตง จะมีหมอกหนาปกคลุมเกือบทั้งปีส่งผลต่อการปลูกมังคุด คือ เกิดการสร้างชั้นเนื้อของมังคุดแบบเคลือบทีละชั้น เนื้อจึงมีสีขาวนวลปุ้ยฝ้าย มีกลิ่นหอมเฉพาะ รสชาติดี และด้วยสภาพภูมิอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ส่งผลให้มังคุดในสายหมอกเบตงมีคุณภาพดีและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนทำให้ผู้บริโภคยอมรับในคุณภาพสินค้าและเรียกขานเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “มังคุดในสายหมอกเบตง”
ต่อมากลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตได้เข้าร่วมการประกวดแปลงใหญ่ดีเด่นระดับจังหวัดของจ.ยะลา ซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถควบคุมกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ จนได้รับรางวัลชนะเลิศ ในปี 2564 สร้างความภาคภูมิใจและความน่าเชื่อถือในคุณภาพของมังคุดในสายหมอกเบตงให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วไป

ปัจจุบันประเทศไทย มีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 231 รายการ ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทำให้สินค้าท้องถิ่นได้รับการยกระดับมูลค่า สร้างรายได้สู่ชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของไทยอย่างยั่งยืน
อ่านข่าว:
ดันหัตถศิลป์ไทยสู่เวทีโลก SACIT เดินหน้าปั้น New Young Craft
คนไทยติดหรู ก่อหนี้เกินตัว สศช.ชี้หนี้ครัวเรือน ปี 67 พุ่ง 16 ล้านล้าน
จบใหม่ “เสี่ยง”ตกงานสูง 89% นายจ้างชี้ไร้ประสบการณ์ ไร้มารยาท