- 13 มิ.ย.ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนคดีชั้น 14 "ทักษิณ" ส่งทนายแทน
- "ทักษิณ" ไม่ไปศาล 13 มิ.ย.ไต่สวนชั้น 14 ขอขยายส่งเอกสารภายใน 23 มิ.ย.
วันนี้ (12 มิ.ย.2568) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า
กรณีการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ ซึ่งโดยมีการกล่าวโทษแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ 3 คน ที่ทำการรักษา นายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
โดยในการประชุมครั้งที่ 6 ในวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษฯ จากสภานายกพิเศษ โดยมีกรรมการฯ ร่วมประชุม 68 คน จากกรรมการที่มีสิทธิลงคะแนน 69 คน ซึ่งมีมติด้วยคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2568
กระบวนการต่อไป แพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบต่อไป

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า กระบวนการในวันนี้ ได้รับฟังข้อคิดเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งสภานายกพิเศษ ได้ให้ความคิดเห็นต่อมติแพทยสภาโดยวีโต้
ขณะเดียวกันกรรมการแพทยสภาทุกคน ได้รับเอกสารเหตุผลของการวีโตทั้งหมด ที่ทางสภานายกพิเศษส่งถึงเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยวันนี้กรรมการฯ ได้นำข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับมติของแพทยสภา รวมทั้งมีบทวิเคราะห์ โดยกรรมการฯ ใช้ดุลยพินิจด้วยตนเอง ยืนยันว่าการลงมติเป็นไปด้วยความโปร่งใส ชัดเจน ซึ่งทุกคนใช้ดุลยพินิจภายใต้หลักวิชาการ และข้อมูลที่เป็นจริง

ส่วนกรณีแชตการสนทนานั้น ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ข้อมูลที่กล่าวว่ามีแชตหลุดไม่ได้มาจากไลน์กลุ่มที่เป็นทางการของแพทยสภา หากสังเกตจะพบว่ามีการลบชื่อกลุ่มด้านบน โดยไม่ได้เป็นแพทย์ในกรรมการฯ และในแชตพูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร
ไม่ใช่ไลน์กลุ่มทางการของแพทยสภา ที่ส่งเข้ามาจากแพทยสมาคม การตอบไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็น เป็นเหมือนตอบแค่ YES ตามลงไป
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ยืนยันว่า กรณีแชตดังกล่าวไม่มีผลกระทบกับการพิจารณา ซึ่งในวาระนี้ไม่ได้สนใจด้วยว่าใครคือผู้ป่วย แต่พิจารณาตามหลักการและหลักวิชาการ
ทั้งนี้ในวันนี้ได้พิจารณาเป็นรายกรณีทั้ง 3 กรณี และแต่ละกรณีมีความเห็นชอบกับมติเดิมเกิน 60 เสียงขึ้นไป และเป็นเหตุผลเดิม โดยในวันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) จะออกคำสั่งแพทยสภา และแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบทันที
นายกแพทยสภาจะแจ้งให้ผู้ถูกลงโทษได้ทราบ พรุ่งนี้น่าจะออกหนังสือได้

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ในการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนมีการประชุมทั้งหมด 10 ครั้ง ในจำนวนนี้มี 3 ครั้งหลังได้รับเอกสาร ซึ่งใช้เวลามากพอสมควร
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า การที่แพทย์จากหลายสถาบัน และหลายรุ่น รวมทั้งประชาชนคนไทยกว่า 50,000 คนที่ได้ลงนาม สาระใหญ่คือต้องการแพทยสภายึดมั่นและยืนหยัดในความถูกต้อง และรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ความเห็นผมไม่ใช่แรงกดดัน แต่เป็นกำลังใจ และชอบแล้วด้วยการกระทำ
แต่มีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างพยายามทำให้กรรมแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดจรรยาบรรณ อย่างนี้ถือจะเรียกว่าเป็นการกดดัน หรือข่มขู่ด้วยซ้ำ
ขอกราบขอบพระคุณแพทย์และคนไทย ที่แสดงออกชัดว่าอยากให้แพทยสภาดำรงความถูกต้องและรักษาจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ และวันนี้พวกเรากรรมการแพทยสภาได้ทำสิ่งนั้นแล้ว

นอกจากนี้ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า กรณีผู้ถูกลงโทษไม่เห็นด้วยกับมตินี้และจะไปร้องเรียนศาลปกครอง ก็สามารถทำได้ แต่หน้าที่ของกรรมการแพทยสภา จะไปชี้แจงเหตุผลต่าง ๆ ส่วนแพทย์คนอื่น ๆ นอกจาก 3 คนดังกล่าว จะมีการพิจารณาเพิ่มเติม
อ่านข่าว :
นักวิชาการวิเคราะห์มติแพทยสภาส่งผลต่อคดี "ทักษิณ" ชั้น 14 ?
"สมศักดิ์" ชี้แจง วีโต้แพทยสภาปมชั้น 14 บอก 15 นาทีน้อยไปแต่จะทำให้ดีที่สุด
ล่าชื่อ 750 แพทย์ ยื่นขอ "แพทยสภา" ลงมติกรณี "ทักษิณ" แบบเปิดเผย