วันนี้ (27 มิ.ย.2568) พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินมาตรการควบคุมการผ่านแดนอย่างเข้มงวด ขณะที่บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยยืนยันว่าประเทศไทยอนุโลมสำหรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม กรณีผู้ป่วยที่ต้องมารักษาพยาบาลในฝั่งไทย รวมทั้งนักเรียน นักศึกษาและบุคคลที่มีความจำเป็น
ช่วง 10 วันที่ผ่านมา ด่าน จ.สระแก้ว มีนักเรียนและนักศึกษา 6,500 คน ได้รับการอนุโลมผ่านแดน 500-700 คนต่อวัน ส่วนผู้ป่วยมีทั้งหมด 30 คน นอกจากนี้ยังอนุโลมให้ประชาชนทั่วไปเดินทางกลับภูมิลำเนา
ที่ประชุม ศบ.ทก.ยังได้หารือมาตรการเยียวยาด้านเศรษฐกิจ หลังนายกรัฐมนตรีได้รับฟังความกังวลของประชาชนใน จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจท้องถิ่นและการขนส่งสินค้า ที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ภาคธุรกิจของไทยและภาคเอกชนของไทยที่อยู่ในกัมพูชา โดยได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อจัดทำมาตรการแก้ไขและเยียวยา
นอกจากนี้ยังหารือเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ หลังจากองค์การระหว่างประเทศมีการเผยแพร่รายงาน 2 ฉบับ เกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์และการหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา ซึ่งรายงานทั้ง 2 ฉบับตอกย้ำความสำคัญและเหตุผลความจำเป็นที่รัฐบาลไทยต้องยกระดับมาตรฐานการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
หนึ่งในนั้นคือการเพิ่มความเข้มข้นควบคุมจุดผ่านแดนบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยหวังให้กัมพูชาร่วมมือกับไทยอย่างจริงจังและจริงใจ เพื่อประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย โดยล่าสุด กต.ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมมือกับประเทศไทยในการแสดงบทบาทต่อเรื่องนี้
นางมาระตี กล่าวอีกว่า กต.ได้ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อสร้างความเข้าใจกรณีการพยายามปั่นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ของฝ่ายกัมพูชา
ขอยืนยันและทำความเข้าใจว่า รัฐบาลไทยจะใช้ช่องทางที่เป็นทางการเท่านั้นในการสื่อสารกับรัฐบาลฝ่ายกัมพูชา และอยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากส่วนราชการ
ด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ความมั่นคงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เจ้าหน้าที่ยังดำเนินการตามปกติ พร้อมเน้นย้ำกลไกการทำงานเป็นเอกภาพ โดยมี ศบ.ทก.รับผิดชอบขับเคลื่อนมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆและติดตามประเมินผลการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง พร้อมบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน โดยมาตรการต่างๆ ที่กำหนดโดย ศบ.ทก. เป็นผลมาจากมติของ สมช. สั่งการไปยังกระทรวงกลาโหมและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งสินค้าข้ามแดน
ขณะที่การลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ของนายกฯ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. มีประเด็นห่วงใยเร่งด่วน 2 เรื่องคือ การผ่อนผันนำเข้าแรงงานตามฤดูกาล หรือแรงงานตามมาตรา 64 ของแรงงานต่างด้าว การผ่านเข้า-ออกของยานพาหนะขนส่งสินค้าข้ามแดน บริเวณพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังบูรพา
ปัจจุบันมียานพาหนะขนส่งสินค้าตกค้างตามแนวชายแดนทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาหลายราย และไม่สามารถข้ามแดนได้ โดยนายกฯ สั่งการให้ ศบ.ทก.กำหนดมาตรการผ่อนปรนใน 2 กรณีเป็นการเร่งด่วน ทั้งนี้ ศบ.ทก.ได้หารือและกำหนดแนวทาง ซึ่งรายละเอียดจะสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติในพื้นที่และเพื่อผ่อนปรนต่อไป พร้อมติดตามสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ทั้ง 7 จังหวัด
นอกจากนี้ มาตรการบรรเทาผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร ผู้ค้ารายย่อยและผู้ส่งออก-นำเข้า รวมทั้งผู้ประกอบการไทยในกัมพูชา โดยกลุ่มเกษตรกร ได้กำหนดมาตรการ 2 ระดับทั้งมาตรการเร่งด่วนและมาตรการต่อเนื่อง โดยมาตรการเร่งด่วน มีการกำหนดตรวจสอบ ระบายสินค้าพืชผลทางการเกษตรตามช่องทางต่างๆ โดยพาณิชย์จังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบประสานงาน ส่วนกลุ่มเกษตรกร จะประสานงานกับผู้ค้าส่ง ค้าปลีก รวมทั้งขยายช่องทางต่างๆ เช่น ความร่วมมือกับสถานีน้ำมัน และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เป็นต้น
ขณะที่กลุ่มผู้ค้ารายย่อยมี 2 มาตรการ ทั้งมาตรการเร่งด่วนและมาตรการต่อเนื่องเช่นกัน โดยมาตรการเร่งด่วน จะลงพื้นที่สำรวจความต้องการของผู้ค้ารายย่อยและประสานสถานที่จัดแสดงสินค้า เพื่อระบายสินค้าของผู้ค้ารายย่อย อบรมทักษะเพิ่มเติม รวมถึงช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติม เช่น ช่องทางออนไลน์
ส่วนผู้นำเข้า-ส่งออก หรือผู้ประกอบการไทยในกัมพูชา มาตรการเร่งด่วนคือจะเร่งสำรวจสินค้าที่ตกค้างและสนับสนุนการจัดหาช่องทางขนส่งสินค้าใหม่ๆ และหาช่องทางส่งเสริมสินค้าของไทยในตลาดใหม่ๆ
อ่านข่าว
รายงานชี้ "กัมพูชา" ศูนย์ลวงออนไลน์ สะท้อนล้มเหลวปราบสแกมเมอร์ ?
วิกฤตชายแดน "เด็กกัมพูชา" เผชิญอนาคตการศึกษาไม่แน่นอน
อดีตรองเลขาฯ สมช.ชี้ "ฮุน เซน" หวังให้ไทยอับอายบนเวทีโลก