วันที่ 7 ก.ค.2568 สำนักข่าวเฟรช นิวส์ รายงานว่า นางเฟือง สกุณา รัฐมนตรีวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชา ส่งหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รมว.วัฒนธรรม เรียกร้องให้ไทย ส่งคืนวัตถุโบราณ 20 รายการ ตามที่เคยบรรลุข้อตกลงร่วมกัน เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ล่าช้า
หนังสือฉบับนี้ ระบุว่า คณะทำงานด้านเทคนิค ของทั้ง 2 ฝ่าย กำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการร่วมกัน ให้มีพิธีส่งมอบที่กรุงเทพมหานคร ในเดือน ก.ค.นี้
และจะเริ่มทยอยส่งคืนโบราณวัตถุ ในเดือน ส.ค. โดยกัมพูชา จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งทั้งหมด ไม่กระทบต่อทางการไทย
อ่านข่าว : เปิดโบราณวัตถุ 20 รายการ ไทยเตรียมส่งคืนให้กัมพูชา
โบราณวัตถุ ทั้ง 20 รายการ กรมศิลปากร ตรวจสอบและยืนยันแล้วว่า มีแหล่งกำเนิดในกัมพูชา เช่น ส่วนองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 4 กร ศิลปะเขมรแบบบายน พุทธศตวรรษที่ 18 , ส่วนองค์พระพุทธรูปยืน ศิลปะเขมรแบบบายน และ ส่วนองค์เทวรูป ศิลปะเขมร อีกหลายรายการ
การส่งคืนโบราณวัตถุของกัมพูชาไม่ใช่เรื่องใหม่ ปี 2543 หรือ 25 ปีก่อน ศุลกากรตรวจยึดโบราณวัตถุ ที่นำเข้าโดยผิดกฎหมายจากประเทศสิงคโปร์ 43 รายการ ซึ่งมีลักษณะคล้ายโบราณวัตถุของกัมพูชา
มีการตรวจสอบ และส่งคืนกัมพูชา ไปแล้ว 23 รายการ ในปี 2558 สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จากนั้น รัฐบาลกัมพูชาได้ส่งคำร้อง ขอรับคืนโบราณวัตถุ ที่เหลืออีก 20 รายการ ซึ่งคณะกรรมการของกรมศิลปากร ได้ข้อสรุปว่าทั้ง 20 รายการ มีแหล่งกำเนิดในกัมพูชา กระทรวงวัฒนธรรม จึงคืนให้กัมพูชา ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2557 สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
เรื่องนี้ กลับมาเป็นกระแส ในจังหวะเดียวกันกับที่ น.ส.แพทองธาร เป็น รมว.วัฒนธรรม ซึ่งได้ชี้แจงประเด็นนี้ ระหว่างมอบนโยบาย เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา
อ่านข่าว :