วันนี้ (13 ก.ค.2568) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สรุปแนวทางดำเนินการ ตามการประชุมมหาเถรสมาคม วาระพิเศษ ที่มีบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราช ให้เร่งแก้ไขปัญหาเรื่อง พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ และสีกากอล์ฟ อย่างเร่งด่วน พร้อมเร่งออกหนังสือเรียกตัวพระชั้นผู้ใหญ่อีก 5 รูป ชี้แจงรายละเอียด หากไม่ดำเนินการตามข้อกำหนด จะต้องถูกปลดหรือถอดถอนตามกฎเถรสมาคม พร้อมเล็งแก้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ป้องกันพระกระทำผิดกรณีเดียวกัน
นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย นายชัชพล ไชยพร รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา ร่วมกันแถลงผล การประชุมมหาเถรสมาคม วาระพิเศษ ครั้งที่ 1 ตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช ที่มีพระบัญชาเร่งด่วนลงมา ให้มีการประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่อง พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ และ สีกากอล์ฟ อย่างเร่งด่วน
นายอินทพร ระบุว่า จากกรณีพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ 11 รูป ที่เป็นข่าวปรากฏต่อสาธารณชน สมเด็จพระสังฆราช ได้มีพระบัญชาให้มีการประชุมเพื่อสรุปการแก้ไขปัญหาทั้ง ระยะสั้น และระยะยาว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต
ในการประชุมมีมติในการตั้งคณะผู้ปกครองสงฆ์ ดำเนินการออกหนังสือ เรียกพระชั้นผู้ใหญ่อีก 5 รูป ที่ยังไม่ลาสิกขา และยังไม่แสดงสถานะ มาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยจะกำหนดกรอบระยะเวลา หากไม่มาชี้แจงตามระยะเวลาที่กำหนด จะต้องถูกปลดหรือถอดถอนตามกฎเถรสมาคมต่อไป
ส่วนพระชั้นผู้ใหญ่ 6 รูป ที่ลาสิกขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ปรากฏหรือส่งหนังสือ เป็นรายลักษณ์อักษรในการสมัครใจลาสิกขา ก็ถือว่าสิ้นสุดสถานะพระสงฆ์ เป็นฆราวาส ไม่ต้องใช้พระธรรมวินัยเข้าไปบังคับใช้ ตามกฎมหาเถรสมาคม
แต่หากเคยอยู่ในสถานะที่มีตำแหน่งพระปกครอง ที่เป็นเจ้าพนักงานรัฐตามประมวลกฎหมายอาญา หากพบว่า มีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินวัด ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาต่อไป
ด้าน นายชัชพล ไชยพร รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงข้อสรุปแนวทางดำเนินการตามการประชุมมหาเถระสมาคมวาระพิเศษ ที่เป็นคำบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราช ให้ดำเนินการโดยเร่งด่วน
ให้เจ้าคณะปกครองสงฆ์ แต่งตั้งระดับเจ้าคณะใหญ่ จนถึงเจ้าอาวาส และพระวินยาธิการดำเนินการตรวจสอบดูแลกำกับพฤติกรรมของพระภิกษุ ในการปกครองอย่างใกล้ชิด หากปรากฏพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายละเมิดพระธรรมวินัย ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบตามกฎมหาเถรสมาคม และรายงานต่อมหาเถรสมาคมโดยเร็ว
ทั้งนี้กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาวา กระทำผิดพระธรรมวินัยประเภทคุรุกาบัติ ให้ออกคำสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน เพื่อประโยชน์แก่การดำเนินการตามพระธรรมวินัยและกฎหมาย โดยสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการประสานงานและสนับสนุนการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนกรณีที่ยังไม่มีคำพิพากษา หรือลงโทษตามกระบวนการนิคหกรรม หรือหลักฐานยืนยันความผิดอย่างชัดเจน ให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลสื่อมวลชน และสาธารณชน จนกว่าจะต้องคำพิพากษา หรือคำตัดสินว่ากระทำความผิด
นอกจากนี้ ในส่วนของการแก้ข้อกฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ที่บังคับใช้มายาวนานถึง 50 ปีแล้ว เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นวิกฤติที่ช่วยกระตุ้น ให้ทุกภาคส่วนหันมาเอาใจใส่ และปรับปรุงแก้กฎหมายฉบับดังกล่าว ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ในการแก้ไขปัญหาคณะสงฆ์ รวมไปถึงโครงสร้างองค์กร โดยเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้เกิดขึ้นได้ในเร็วๆ นี้
อ่านข่าว : “พระปาราชิก” แต่ “ลาสิกขา” ก่อน จะกลับมา “บวชใหม่” ได้หรือไม่
"มหาเถรฯ" จ่อเรียกตัวมาพบ "พระ" ที่ ตร.มีหลักฐานโยงสีกา ทั้งโอนเงิน-แชตไลน์