วันที่ 20 ก.ค.2568 ท้องฟ้าเหนือกาซาช่วงเช้ามืดวานนี้สว่างไปด้วยแสงจากลูกไฟของการโจมตี และตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างน้อย 3 ครั้ง ก่อนในช่วงรุ่งสางจะมีกลุ่มควันลอยขึ้นสู่อากาศและได้ยินเสียงระเบิดอีกอย่างน้อย 3 ครั้ง
ในวันเดียวกัน ชาวกาซาหลายพันคนมุ่งหน้าไปยังศูนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือทางตอนเหนือของกาซา เพื่อรอรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ หลายคนเดินทางกลับออกมาพร้อมกระสอบแป้ง หวังนำไปช่วยประทังความหิวให้ครอบครัว โดยชาวกาซาคนหนึ่งบอกว่า รู้ว่าเสี่ยง แต่ก็ต้องเดินทางมา เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ยากลำบากมาก และคนทั้งโลกก็เฝ้ามองดูเฉยๆ
ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขในกาซา เปิดเผยว่า มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 67 คน เสียชีวิตระหว่างรอรถบรรทุกความช่วยเหลือจากองค์การสหประชาชาติในพื้นที่ตอนเหนือของกาซา หลังจากอิสราเอลเปิดฉากยิง
สอดคล้องกับการเปิดเผยของโครงการอาการโลกที่ระบุว่า หลังจากเข้าไปในเขตกาซาได้ไม่นาน ขบวนรถบรรทุก 25 คันของหน่วยงาน ที่บรรทุกความช่วยเหลือด้านอาหาร ก็พบกับฝูงชนจำนวนมากที่กำลังหิวโหย และต่อมาก็ถูกยิงใส่ พร้อมย้ำว่า การใช้ความรุนแรงกับพลเรือนที่มาขอความช่วยเหลือ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง
ขณะที่กองทัพอิสราเอล ระบุว่า ทหารอิสราเอลได้ยิงเตือนใส่ฝูงชนหลายพันคน เพื่อกำจัดสิ่งที่เรียกว่าเป็นภัยคุกคามเร่งด่วน
พร้อมทั้งระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีรายงานนั้นสูงเกินจริง และยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจโจมตีรถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
นอกจากนี้ ยังมีชาวกาซาเสียชีวิตอีก 6 คนระหว่างรอรับความช่วยเหลือในพื้นที่อื่นๆ ของกาซา และมีผู้บาดเจ็บอีกมากกว่า 150 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในกาซา ระบุว่า รวม ๆ แล้วมีผู้เสียชีวิตประมาณ 90 คนทั่วกาซา ทั้งจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลและถูกทหารอิสราเอลยิง
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตความหิวโหยในกาซาที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อวันเสาร์กระทรวงสาธารณสุขในกาซาออกมาเตือนว่า คนหลายร้อยคนที่ร่างกายผอมแห้ง กำลังเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเร็วๆ นี้ เพราะความหิว พร้อมทั้งระบุว่า มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มาถึงสถานพยาบาลในสภาพที่เหนื่อยล้าและอ่อนแรงมาก และในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีคนเสียชีวิตเพราะความอดอยาก 18 คน
ด้านองค์การสหประชาชาติ ออกมาระบุเช่นกันว่า พลเรือนในกาซากำลังอดอยาก และเรียกร้องให้มีการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปอย่างเร่งด่วน
อิสราเอลสั่งอพยพชาวกาซาในพื้นที่ตอนกลาง
โดยยังปรากฏภาพกลุ่มควันดำลอยขึ้นสู่อากาศเหนือพื้นที่เมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ (Deir al-Balah) ทางตอนกลางของกาซาด้วย หลังจากกองทัพอิสราเอลสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ต่างๆ ของเมืองนี้ และให้มุ่งหน้าไปยังอัล-มาวาซี (al-Mawasi) บนชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน
คำสั่งอพยพนี้ทำให้ชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนตื่นตระหนก เช่นเดียวกับครอบครัวของตัวประกันชาวอิสราเอลที่กลัวว่าญาติของพวกเขาจะถูกกักขังอยู่ในเมือง เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าอิสราเอลอาจเปิดการโจมตีภาคพื้นดินในเร็วๆ นี้ หลังจากตลอดช่วง 21 เดือนที่ทำสงครามกับฮามาส กองทัพอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าว แต่ยังไม่เคยเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้าไปเลย
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวอิสราเอลว่า เหตุผลที่กองทัพอิสราเอลยังไม่เข้าในจุดนี้ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นพื้นที่ที่ฮามาสจับตัวประกันไว้ ซึ่งปัจจุบัน เชื่อว่ามีตัวประกันหลงเหลือในกาซา 50 คน และในจำนวนนี้น่าจะยังมีชีวิตอยู่อย่างน้อย 20 คน
โดยเมื่อคืนที่ผ่าน (21 ก.ค.) มีระเบิดดังขึ้นหลายต่อหลายครั้งในเมืองนี้ หลังการสั่งอพยพของกองทัพอิสราเอล
สถานการณ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิง 60 วัน ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่ยังไม่มีสัญญาณความคืบหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ฮามาสคนหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สด้วยว่า ทางกลุ่มรู้สึกโกรธมากเรื่องผู้เสียชีวิตที่เพิ่มจำนวนขึ้นและวิกฤตความหิวโหยในพื้นที่ ซึ่งสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการเจรจาหยุดยิงที่กำลังดำเนินการอยู่ในกาตาร์
อ่านข่าว :
อิสราเอลโจมตีตึกกลาโหมในดามัสกัส เสียชีวิต 3 เจ็บ 34 คน
อิสราเอลยอมรับผิดพลาดโจมตีคนรอเติมน้ำในค่ายลี้ภัย เด็กเสียชีวิต 6 คน