คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC จะจัดประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา ในวันนี้ เวลา 15.00 น. ตามเวลาที่นิวยอร์ค สหรัฐฯ หรือตรงกับเวลา 02.00 น. ตามเวลาของประเทศไทย เช้ามืดวันที่ 26 ก.ค.
นับเป็นการประชุมอย่างเร่งด่วน หลังจากทั้งไทยและกัมพูชา ยื่นเรื่องร้องต่อ UNSC จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารของทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งแต่เช้าวันที่ 24 ก.ค.ตลอดแนวเขาพระวิหาร เทือกเขาพนมดงรัก ที่กั้นเขตแดนระหว่างประเทศ ตั้งแต่พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ถึงอุบลราชธานี จนเกิดการสูญเสีย มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งอาคาร บ้านเรือน ร้านค้า แม้กระทั่งโรงพยาบาล
การปะทะต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ต้องมีการอพยพประชาชนออกห่างแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศรวมแล้วหลายหมื่นคน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่การตอบโต้กลับของไทยตามยุทธศาสตร์จักรพงษ์ภูวนาถ ส่งผลให้ปฏิบัติการของกัมพูชาชะงักงันเช่นกัน โดยเฉพาะ การใช้เอฟ 16 ของกองทัพอากาศ ปฏิบัติการยิงถล่มใส่ฐานที่ตั้งทหารของกัมพูชา บริเวณช่องอานม้า บริเวณพื้นที่ตรงข้ามจ.อุบลฯ รวม 2 ครั้ง สร้างความสูญเสียดังที่มีภาพปรากฏบนสื่อโซเชียล
และยังมีข่าวปฏิบัติการโจมตี เพื่อตัดทอนการขนส่งกองกำลังเสริม และกองบำรุงของกัมพูชา ในหลายพื้นที่ตามแนวเขาพระวิหารเช่นกัน
ยังไม่นับการเปิดฉากปะทะกันต่อ ตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งเป็นวันที่ 2 รวมทั้งความพยายามที่จะยึดเนินที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ฝั่งประเทศไทยของทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือและช่องบก เป็นเหตุให้เกิดการยิงตอบโต้กัน กระทั่งกองทัพภาคที่ 2 ต้องออกโรงเตือนประชาชนผ่านสื่อออนไลน์ ให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว
การประชุมของ UNSC จะเป็นแบบปิดที่เรียกว่า PRIVATE MEETING ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยมีสมาชิก 15 ประเทศที่เป็นสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และที่เหลือเป็นประเภทไม่ถาวร ร่วมตัวแทนไทยและกัมพูชา ที่จะเข้ากล่าวชี้แจงในนามแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทย ตัวแทนคือ นายเชิดชาย ชัยไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนไทยประจำสหประชาชาติ
ก่อนหน้านี้ ทั้งไทยและกัมพูชาต่างแย่งชิงเวลา ในการยื่นเรื่องร้องต่อ UNSC โดยกัมพูชา เป็นหนังสือที่ลงนามโดย สมเด็จฮุน มาเนต นายกฯ ที่ได้โชว์หนังสือผ่านโลกโซเชียลทันควัน หลังเกิดการปะทะวันแรกได้ไม่นาน
ขณะที่ฝ่ายไทย ได้มีการกระพือข่าวว่า ไม่ต้องเร่งรีบ เพราะนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ อยู่ที่สหรัฐฯ อยู่แล้ว ระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูง ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งค่ำวานนี้ (24 ก.ค.) ได้มีการประชุมผ่านระบบออนไลน์ มาที่กระทรวงต่างประเทศ ในไทย เรื่องเตรียมอพยพคนไทยในกัมพูชากลับประเทศ และได้แจ้งว่า ได้พบและหารือกับประธานยูเอ็นเอสซี ทั้งของเดือนกรกฎาคม ที่เป็นตัวแทนจากปากีสถาน และประธานเดือนสิงหาคม ที่เป็นตัวแทนจากปานามา พร้อมอธิบายเรื่องความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ทั้งก่อนหน้านี้ และเหตุการณ์ล่าสุด การยิงปะทะกัน
จึงมั่นใจว่า UNSC จะเข้าใจข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายปฏิบัติการก่อน และมีเป้าหมายโจมตีเฉพาะที่ตั้งทางทหาร ไม่มีเป้าพลเรือน ไม่ได้ได้ละเมิดสนธิสัญญาออตนาวา และกฎหมายระหว่างประเทศฉบับอื่น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยชี้ขาดจะอยู่ที่ศักยภาพความสามารถ ในการชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกของยูเอ็นเอสซี ทั้งหมด 15 ชาติ ที่แบ่งเป็นสมาชิกถาวรและไม่ถาวร หรือการ “ล็อบบี้” ว่าเสียงส่วนใหญ่ จะเห็นชอบกับข้อร้องเรียนของใคร เนื่องจากแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทครั้งนี้ ไทยกับกัมพูชาต่างกันชัดเจนตั้งแต่ต้น
กัมพูชาต้องการนำข้อพิพาทไปขึ้นศาลโลก และแสดงท่าทีต้องการให้มี”พี่เบิ้ม”จากประเทศที่ 3 เข้ามาทำหน้าที่คนตัวกลางสำหรับเจรจา ขณะที่ฝ่ายไทย ต้องการใช้เวทีทวีภาคี หรือเจบีซี เป็นเวทีแก้ปัญหา แม้แต่นายทักษิณ ชินวัตร ยังโพสต์แสดงจุดยืนล่าสุด ยังไม่ต้องการให้ใครมาทำหน้าที่คนกลาง อ้างว่าต้องการให้ทหารไทยสั่งสอน สมเด็จฮุน เซน ก่อน
ที่ต้องลุ้นคือ UNSC จะมีมติอย่างไร และใครจะ “ล็อบบี้” ประเทศสมาชิกใครได้มากกว่ากัน
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : โต้กัมพูชา ศบ.ทก.ยืนยันไทยไม่ได้ยิงโดน "ปราสาทพระวิหาร"
พยาน 3 หมอใหญ่ชี้ทักษิณ "อาการไม่วิกฤต" ต้องนอน รพ.ตำรวจ ศาลฎีกาฯ นัด "วิษณุ" อีกปาก
เร่งอพยพ “บ้านกรวด” บุรีรัมย์ หลังกระสุนปืนใหญ่ตกกว่า 70 ลูก