วันนี้ (31 ก.ค.2568) นายพิศาล มาณวพัฒน์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์รายการมุมการเมือง 31 ก.ค.2568
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยเราถูกตั้งคำถามว่าสื่อสารน้อยและช้าควรทำอย่างไร
นายพิศาลกล่าวว่า ผมคิดว่าเราทำถูกที่พูดเฉพาะข้อเท็จจริง เพราะนั้นคือบทบาทที่ทำให้เราเป็นพระเอก แต่การสื่อสารของเราช้า ผมคิดว่าเป็นเสียงวิจารณ์ที่รัฐบาลต้องแก้ไข
ผมมีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม เสียดายว่าในโอกาสที่รักษาการนายกฯ ไปเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซีย ท่านมีโอกาสพูด 3 นาที แต่ท่านพลาดโอกาสไป ผมหวังว่าในโอกาสต่อไป มืออาชีพของกระทรวงการต่างประเทศ จะร่างโพยเอาไว้เหมือนกัน
ในบทเริ่มต้นผมคิดว่าต้องย้อนว่า เราเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มีไมตรีช่วยเหลือกันมาตลอด ตั้งแต่รับคนอพยพยุคสงครามเย็น เราเปิดรับเขาทุกอย่าง สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดงเราก็ช่วยบรรลุข้อตกลงสันติภาพ เจ้าสีหนุถึงกับเชิญ รมว.ต่างประเทศ เราไปเยือนเป็นคนแรกก่อนประเทศเจ้าภาพจัดประชุมอย่างฝรั่งเศส เราช่วยกวาดทุ่นระเบิด ซ่อมถนน สร้างโรงเรียน คนที่เป็นใหญ่เป็นโตตอนนี้ก็ได้ทุนมาเรียนที่ไทยทั้งนั้น เราสนับสนุนให้กัมพูชาเป็นสมาชิกอาเซียน เราดูแลแรงงานเป็นล้าน ช่วยรักษาพยาบาล เราเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอดและอยากเป็นเพื่อนที่ดีต่อไป
ผมคิดว่านี่ต้องเป็นพื้นฐานนำไม่ว่าจะพูดในเวทีไหน ต้องออกมาในแนวนี้ก่อนครับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่ถือว่าช้าไปกว่าเขาใช่ไหม เพราะเนื้อหาที่เขาพูด จะพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้เรา
นายพิศาลกล่าวว่า ผมถึงขอให้ย้ำในสิ่งดี ที่เราทำประโยชน์ให้กับเขา เพราะประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่เราเรียนรู้เพื่อมองอนาคต ถ้าประเทศหนึ่งทำดีมาตลอด อีกประเทศโหดเหี้ยมบิดเบือน ผมว่าถ้าเราตอกย้ำสิ่งที่เราทำมาตลอด ประชาคมระหว่างประเทศเขาไม่ได้กินหญ้าเขาจะเข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชี้แจงของฝ่ายรัฐบาลและกองทัพชี้แจงกันคนละทีสองที ควรบูรณาการอย่างไร
นายพิศาลกล่าวว่า ควรอย่างยิ่ง ควรทำทันทีไม่จำเป็นต้องให้ใครมานั่งเรียกร้อง แต่ละหน่วยงานมีโฆษกของตัวเองได้ แต่การวางแผนต้องมาทำร่วมกัน ว่าแต่ละวันเราจะรุกเรื่องอะไร มีโอกาสที่ใครจะได้ให้สัมภาษณ์อะไรบ้าง ไม่งั้นเราก็ทำได้แค่รอโฆษกกัมพูชามาแถลง แล้วเราคอยชี้แจงว่ามันถูกต้องอย่างไร
เขาพาผู้ช่วยทูตทหารไปดูอนุสาวรีย์ของเขาที่พัง แล้วเราบอกว่า เราจะพาไปเหมือนกัน ผมว่าแบบนี้มันไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าเรากำลังเพลี่ยงพล้ำทางการทูตอยู่
นายพิศาลกล่าวว่า เราเป็นคนดี แต่เราช้าไปหน่อย เขาลงเหวไม่ใช่ว่าเราต้องไปวิ่งไล่เขาในเหว แต่เราต้องกระตือรือร้น มีเกมรุกที่มีแผนในใจ
แผนนี่ผมไม่ได้นึกวันต่อวันนะ ผมคิดไปไกลถึงการประชุมหลักในสามเดือนข้างหน้า หกเดือนข้างหน้า เราต้องวางไว้ล่วงหน้า ปัญหาไทยกัมพูชาในเรื่องเขตแดนมันจะไม่จบในสามเดือนหกเดือน ไม่จบที่การเจรจาหยุดยิงแน่ ๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผมเข้าใจว่านักการทูตและข้าราชการ กต. ถูกฝึกให้คิดแบบทูตพิศาล แต่ทำไมระดับผู้บริหารไม่ขยับแบบนี้
นายพิศาลกล่าวว่า มันมีแนวนโยบายเป็นตัวกำกับ ถ้าฝ่ายการเมืองได้รับความเชื่อมั่นไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ข้าราชการก็ทำได้อย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า อารมณ์คนในสังคมกลัวว่าเราชนะศึกแต่จะแพ้ในสงครามเวทีโลก
นายพิศาลกล่าวว่า ไม่มีทางพ่ายแพ้ เพียงแต่ในแต่ละวัน เราอาจไม่ได้ทำให้ประชาชนพึงพอใจได้ อย่างที่เรียนว่าข้าราชการของกระทรวง หรือที่นิวยอร์ก โตเกียว ทุกแห่งในโลกทำงานทุกวันในเรื่องนี้ แต่ในพื้นที่สื่อมันไม่ได้ออกมา เราทำทุกวัน
ถ้าออกข่าวแล้วมันเกินหน้าเกินตาฝ่ายนโยบาย ผมคิดว่าข้าราชการคงมีความระมัดระวัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่าทีของว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ที่บอกว่าความขัดแย้งนี้ไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไร หลายคนตั้งคำถามท่าทีของมหามิตรสหรัฐอเมริกา
นายพิศาลกล่าวว่า ผมอ่านคำแถลงเขาอย่างละเอียดและฟังที่เขาตอบคำถาม ผมขออธิบายผ่านทางรายการว่า กระบวนการของสหรัฐฯ ในการแต่งตั้งทูตต้องผ่านให้ สว.ลงคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งเพื่อรับรอง
เวลาว่าที่ทูตไปให้การ เป้าหลักที่สำคัญของเขาคือ ขอให้ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของวุฒิสภา เพื่อให้เขาได้รับหน้าที่ เวลาเขาพูดเขาไม่ได้พูดเพื่อเอาใจคนฟังในประเทศไทย เขาพูดเพื่อเอาใจ สว.ของเขา ที่จะโหวตให้เขา เพื่อบอกคนแต่งตั้งเขาว่า แต่งตั้งถูกคนแล้ว
เวลาที่ สว.ท่านหนึ่งถามถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ท่านจะทำอย่างไร เขาก็ตอบด้วยความที่เขาเคยทำงานในไทยที่ กทม.และเชียงใหม่ เขาพูดภาษาไทยได้ เขาน่าจะเข้าใจความละเอียดอ่อนของสถานการณ์
ตอนนี้เขาอาจเสียใจที่จะพลาดโอกาสในการพูดแสดงความชื่นชมที่เรายืนอยู่ในจุดที่ถูกต้อง และพลเรือนของเราเป็นฝ่ายเดียวที่สูญเสีย แต่เขาพูดกลาง ๆ ว่า ถ้ามารับตำแหน่งเขาจะบอกว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้น มันเป็นความสูญเสียที่ไม่น่าเกิด ผมว่าเขาพูดโดยไม่ได้รู้สึกเข้าใจถึงความละเอียดอ่อน และผมหวังว่าเขาจะกลับไปคิดทบทวนคำพูด
แต่ช่วงหนึ่งเขาพูดชัดเจนว่า เขาจะมาดูแลผลประโยชน์อเมริกัน ดูแลอเมริกัน 8 หมื่นคน อเมริกาเฟิร์ส แต่เขาพูดอย่างหนึ่งว่าเขาจะหนุนการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ทำควาเมดือดร้อนให้ประเทศไทยและโลก เขาจะสนับสนุนการปราบยาเสพติด ค้ามนุษย์
เราต้องใช้โอกาสแบบนี้สื่อสารให้ชัดเจนไปยังกัมพูชาโดยตรง เราต้องการต้อนรับทูตคนนี้ และหวังว่า สหรัฐฯจะร่วมมือกับเราในการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ข้ามชายแดน เราใช้ข่มอีกฝ่ายได้
เรียบเรียง : อุรชัย ศรแก้ว ผู้สื่อข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : ไทยชี้แจงข้อเท็จจริงเวที UN ปมกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ไทยเตรียมพา "ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ" สังเกตการณ์ชายแดน 1 ส.ค.นี้
รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ประกาศงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา ถึง 10 ส.ค.