ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ใบสั่งจราจร" 3 รูปแบบใหม่ เริ่มใช้ 4 ส.ค.68 พร้อมเรื่องที่ต้องรู้

สังคม
13:44
189
"ใบสั่งจราจร" 3 รูปแบบใหม่ เริ่มใช้ 4 ส.ค.68 พร้อมเรื่องที่ต้องรู้
อ่านให้ฟัง
04:27อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สตช.กำหนด "ใบสั่งจราจร 2568" แบบใหม่ จำนวน 3 รูปแบบ ปรับปรุงให้เหมาะสม และสอดคล้องกับ "คำสั่งปรับเป็นพินัย" เริ่มใช้ตั้งแต่ 4 ส.ค. เป็นต้นไป

ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เริ่มใช้ "ใบสั่งจราจร" แบบใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมากขึ้น หลัง ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2568 ระบุว่า 

ตามที่ได้มีประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติมไว้แล้ว นั้น

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับรูปแบบคำสั่งปรับเป็นพินัยตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 140 วรรคสี่ แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงออกประกาศกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรไว้ ดังต่อไปนี้ รวม 3 รูปแบบ

ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ. 2568" โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป  

แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร 3 แบบ 

(1) แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับ "ผู้ขับขี่ ติด ผูกหรือแสดงไว้ที่รถ" มีรายละเอียดเป็นไปตามแบบแนบท้ายประกาศนี้ โดยแบบใบสั่งตามวรรคหนึ่งให้มีชุดละ 4 แผ่น มีสีและวัตถุประสงค์สำหรับการใช้งาน ดังนี้

(ก) แผ่นที่หนึ่ง เป็นสีขาว ใช้สำหรับให้กับผู้ขับขี่ติด ผูกหรือแสดงไว้ที่รถ

(ข) แผ่นที่สอง เป็นสีเหลือง ใช้สำหรับส่งให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ปรับเป็นพินัยคดีจราจรเพื่อทำการบันทึกข้อมูลใบสั่งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของระบบสารสนเทศกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

(ค) แผ่นที่สาม เป็นสีชมพู ใช้สำหรับมอบให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย

(ง) แผ่นที่สี่ เป็นสีฟ้า ใช้สำหรับเป็นสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐานสำหรับผู้ออกใบสั่ง

แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับ

แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับ

แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับ "ผู้ขับขี่ ติด ผูกหรือแสดงไว้ที่รถ"

(2) แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์ มีรายละเอียดเป็นไปตามแบบแนบท้ายประกาศนี้

แบบใบสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้มีชุดละ 2 แผ่น แผ่นที่หนึ่ง ใช้สำหรับส่งไปรษณีย์ให้กับผู้ขับขี่ เจ้าของรถหรือผู้ครอบครอง แผ่นที่สอง ใช้สำหรับเป็นสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐานสำหรับผู้ออกใบสั่ง

 แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์

แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์

แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์


(3) แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรแบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้สำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูกหรือแสดงไว้ที่รถ มีรายละเอียดเป็นไปตามแบบแนบท้ายประกาศนี้

แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรแบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้สำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูกหรือแสดงไว้ที่รถ

แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรแบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้สำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูกหรือแสดงไว้ที่รถ

แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรแบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้สำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูกหรือแสดงไว้ที่รถ

"ปรับเป็นพินัย" คืออะไร  

"การปรับเป็นพินัย" เป็นมาตรการใหม่ที่นำมาใช้กับผู้กระทำความผิดที่กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกระทำความผิดที่มีลักษณะไม่ร้ายแรงและไม่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอย่างร้ายแรง หรือไม่มีผลกระทบต่อส่วนรวม เช่น ขายของบนทางเท้า จอดรถในที่ห้ามจอด ไม่ติดแผ่นป้ายหรือเครื่องหมายเลขทะเบียนรถ

มาตรการดังกล่าวนำมาใช้แทนการ "ลงโทษอาญา" เพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดมีประวัติอาชญากรรม และอาจถูกจำกัดเสรีภาพเหมือนกับผู้กระทำความผิดในคดีอาญาที่ต้อง "ถูกจำคุก หรือ กักขัง" หากผู้กระทำความผิดยอมรับสารภาพและชำระค่าปรับตามที่เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจปรับเป็นพินัยหรือศาลกำหนดแล้ว คดีก็เป็นอันยุติ

"ค่าปรับเป็นพินัย" เป็นอย่างไร

"ค่าปรับเป็นพินัย" เป็นมาตรการใหม่ที่แตกต่างจากค่าปรับทางอาญาและค่าปรับทางปกครองซึ่งใช้กันมาแต่เดิม คำว่า "พินัย" เป็นคำโบราณที่ปรากฏในกฎหมายตราสามดวง และกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้ความหมายคำว่า "พินัย" หมายถึง "เงินค่าปรับที่จ่ายให้ทางราชการ"

พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ ได้นำคำว่า "พินัย" มาใช้เรียกการปรับประเภทใหม่นี้ว่า "ปรับเป็นพินัย"เพื่อให้มีความแตกต่างจากค่าปรับอาญาและค่าปรับทางปกครอง โดยกำหนดบทนิยามคำว่า "ปรับเป็นพินัย" ไว้หมายความว่า สั่งให้ผู้กระทำความผิดทางพินัยต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินที่กฎหมายกำหนด

ลักษณะสำคัญของ "การปรับเป็นพินัย"

  • ไม่ใช่โทษทางอาญา การปรับเป็นพินัย ไม่ถือเป็นความผิดทางอาญา ไม่มีการบันทึกลงในประวัติอาชญากรรม
  • เน้นการจ่ายค่าปรับแทนการลงโทษหนัก มุ่งให้ผู้กระทำผิด ชำระค่าปรับตามกฎหมาย แทนการดำเนินคดีหรือโทษจำคุก
  • ใช้กับความผิดเล็กน้อย ใช้กับความผิดที่ ไม่ร้ายแรง ไม่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรม หรือส่วนรวมอย่างกว้างขวาง
  • กำหนดค่าปรับตามความเหมาะสม พิจารณา ระดับความผิด และ ฐานะทางเศรษฐกิจของผู้กระทำผิด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสามารถชำระได้จริง
  • สามารถอุทธรณ์ได้ ผู้ถูกสั่งปรับมีสิทธิ อุทธรณ์คำสั่ง หากไม่เห็นด้วย ต้องยื่นอุทธรณ์ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

อ้างอิงข้อมูล คู่มือกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัยสำหรับประชาชน, legardy 

อ่านข่าว : กองทัพบก ชี้แจงสถานะ "เชลยศึก" กำลังพลฝ่ายกัมพูชา

"แร้ง" ต้องเงียบ ปลอดภัย ถึงลงกินซาก ไม่ไกลจากแหล่งอาศัย

มทภ.2 ขอบคุณ สถาบันการศึกษามอบอนาคตครอบครัวผู้เสียสละ