ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

วางขอบเขตข้อตกลงหยุดยิง หัวใจสำคัญที่ประชุม GBC

ต่างประเทศ
19:42
200
วางขอบเขตข้อตกลงหยุดยิง หัวใจสำคัญที่ประชุม GBC
การประชุมระดับเลขานุการ GBC วันที่ 2 เสร็จสิ้นลงไป ที่ประชุมยังคงให้ความสำคัญกับการวางขอบเขตของข้อตกลงหยุดยิง หลังจากทั้ง 2 ประเทศ บรรลุข้อตกลง เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา

วันนี้ (5 ส.ค.2568) พล.ท. ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ในฐานะเลขานุการ GBC ฝ่ายไทย เปิดเผยกับสื่อถึงบรรยากาศในการเจรจาดำเนินไปอย่างเข้มข้น สำหรับการเจรจาในระดับเลขานุการตั้งแต่วันที่ 4 - 6 ส.ค.ฝ่ายไทยมีผู้แทน 30 คน ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามีผู้แทน 13 คน การหารือให้ความสำคัญกับรายละเอียดของข้อตกลงหยุดยิง เนื่องจากผู้แทนทั้ง 2 ฝ่าย ยังมีข้อเสนอเพิ่มเติมบางประการ 

ฝ่ายกัมพูชาขอนำประเด็นจากที่ประชุมกลับไปหารือกับรัฐบาล เพื่อนำมาพูดคุยกันในการประชุมเลขานุการ ในวันถัดไป เจ้าหน้าที่ระดับสูงมาเลเซียให้ข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถึงความสำคัญของการวางขอบเขตข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้

โมฮาหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า การประชุมให้ความสำคัญกับการจัดทำขอบเขตของข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ นอกจากนี้ยังพูดถึงจัดตั้งคณะทำงานอาเซียนเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อเปิดโอกาสให้สองประเทศสามารถกลับมาร่วมมือกันอีก

พล.อ.โมฮัมหมัด นิซาม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่าย มีความมุ่งมั่นอย่างแข็งขันเพื่อปูทางไปสู่การสร้างสันติภาพ นอกจากนี้ที่ประชุมจะกำหนดขอบเขตและรายละเอียดของคณะทำงานอาเซียนเพื่อลงพื้นที่สังเกตการณ์การบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงในอนาคต 

เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด แต่สาระสำคัญคงหนีไม่พ้นจาก 7 ข้อตกลงจากระดับแม่ทัพภาค การหารือระดับ RBC ได้ข้อสรุปเพื่อคลี่คลายสถานการณ์แนวชายแดนซึ่งครอบคลุมประเด็นหลักที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงร่วมกันทั้งหมด 7 ข้อ ตั้งแต่การหยุดยิงอย่างเด็ดขาด, การคุ้มครองประชาชน, การงดเสริมกำลัง, การห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง, การอำนวยความสะดวกส่งกลับ, การจัดตั้งชุดประสานงานเฉพาะกิจ ประกอบด้วย ตัวแทนฝ่ายละ 4 นายและการรอผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC

นอกจากนี้ ในวันนี้ ( 5 ส.ค.2568) นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เข้าร่วมประชุมรัฐสภา และให้ความเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้งไทย-กัมพูชาด้วย โดยเมื่ออ่านนัยจากแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระบุว่า ไทยและกัมพูชาร้องขอให้มาเลเซียทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต่อไป แม้ว่าวาระการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนประจำปีนี้จะสิ้นสุดลงไปแล้วก็ตาม

นายอันวาร์ ยืนยันว่า รัฐบาลมาเลเซียจะยังคงทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย จนกว่าข้อพิพาทในครั้งนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ ในช่วงแรกมาเลเซียตั้งเป้าในการหาทางออกภายใน 3 เดือน แต่การเจรจาไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาตายตัว เนื่องจากปัจจัยสำคัญคือการสร้างความคืบหน้าผ่านการหยุดยิง และความมุ่งมั่นอย่างจริงใจต่อการแก้ไขปัญหา อันวาร์ ยังย้ำถึงความสำคัญของการรักษาบทบาทอาเซียนและเตือนถึงอันตรายจากการแทรกแซงของมหาอำนาจ ด้วยการกำหนดให้ผู้แทนจากชาติอาเซียนมีส่วนร่วมในการติดตามหรือส่งกองกำลังรักษาสันติภาพในพื้นที่ชายแดน ส่วนการสนับสนุนด้านลอจิสติกส์จากสหรัฐฯ หรือจีนอาจได้รับการยอมรับ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขความเป็นกลางเท่านั้น

อีกด้านหนึ่งการทำหน้าที่คนกลางของมาเลเซียช่วยสร้างภาพลักษณ์ในฐานะผู้ประสานงานเพื่อสร้างสันติภาพ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเชื่อมโยงกับเสถียรภาพทางการเมืองภายในของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอย่างแยกไม่ออก ขณะเดียวกันบทบาทมาเลเซียในสมการความขัดแย้งเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นทางการเมือง 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียหลายคนในอดีตมีประวัติเกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่เป็นคนกลางในการสร้างสันติภาพ ซึ่งความทะเยอทะยานบนเวทีโลกทำให้อันวาร์เดินทางประสานรอยร้าวแม้ว่ามีเสียงเรียกร้องให้แก้ปัญหาภายในประเทศก่อน

อ่านข่าว : ประชุม GBC วันที่ 2 "บิ๊กเล็ก" เผยไทยเสนอ 8 ข้อ ยันไม่เสียประโยชน์ 

"มาริษ" สั่งประท้วงกัมพูชา ปล่อยข่าวเท็จอ้างไทยวางแผนสังหารผู้นำ 

ทภ.2 สรุปล่าสุด "ชายแดนไทย-กัมพูชา" เร่งทำลายระเบิดที่ยังตกค้าง