ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"โดรน" ควบคุมระยะไกล ปริศนา? ตกค้าง ฝึกร่วม Golden Dragon

การเมือง
17:21
408
"โดรน" ควบคุมระยะไกล ปริศนา?  ตกค้าง ฝึกร่วม Golden Dragon
อ่านให้ฟัง
09:04อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

แม้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ( กพท.) จะมีคำสั่งห้ามบิน "โดรน" ทุกประเภท นานกว่า 1 สัปดาห์ หลังไทย -กัมพูชาหยุดยิง แต่ชาวบ้านยังคงพบ โดรนปริศนา ขึ้นบินอยู่บนท้องฟ้า ทุกค่ำคืน ในหลายจังหวัด และหลาย ๆพื้นที่ โดยไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มา และควานหาตัวผู้เป็นเจ้าของได้

หากเป็นโดรนภาคการเกษตรที่ใช้ปกติธรรมดา คงไม่น่ากังวล แต่ในกรณีที่เป็นโดรนติดอาวุธ ที่ใช้สงครามสมัยใหม่ที่เรียกว่า Loitering Munition หรือ "กามิกาเซ่โดรน" ที่ใช้ในทางยุทธวิธี หรือยุทธการทางทหารถือเป็นภัยคุกคามและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง แม้ทางกองทัพบกและกองทัพอากาศจะเปิดใช้แอนตี้ โดรน เต็มระบบ แต่ยังคงมีการท้าทายจากฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง

มีข้อสันนิษฐานจากหน่วยงานด้านความมั่นคงว่า โดรนที่บินล้ำเข้ามาในอา ณาเขตประเทศไทยในหลายจังหวัด อาจเป็นหนึ่งใน "ยุทธภัณฑ์" ตกค้างที่เหลือจากการฝึกร่วมทางทหาร "Golden Dragon" ระหว่างทหารกัมพูชากับจีนที่จังหวัด Kampong Chhnang เมืองท่าสำคัญของกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2568 โดยการฝึกร่วมครั้งนั้น จีนได้ใช้เทคโนโลยีด้านการทหารรูปแบบใหม่ พร้อมนำเครื่องมือพิเศษไปร่วมฝึก ทั้ง อากาศยานไร้คนขับ หุ่นยนต์แพทย์ทหาร และหุ่นยนต์สุนัข 

แต่ไม่มีการยืนยันว่า อาวุธและยุทธภัณฑ์ที่เหลือจากการฝึกร่วมในครั้งนั้น ทางจีนนำกลับไปด้วยหรือไม่ หรือมีการมอบให้กองทัพกัมพูชาไว้ใช้ประโยชน์ต่อโดยเฉพาะเทคโนโลยีการบังคับอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน และไม่พบข้อมูลทางการว่า โดรนฝึกร่วมระหว่างจีน-กัมพูชา เป็นรุ่นไหน

แต่เบื้องต้นมีรายงานว่า ทางกัมพูชามี "โดรน" อยู่ในความครอบครองประมาณ 1,000 ลำ และยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบว่า โดรนที่มีผลิตจากบริษัทใด แต่เทคโนโลยีที่ใช้ตรวจพบมาจากประเทศจีน

ข้อมูลพบเพียงว่า โดรนที่ถูกนำมาใช้มีขนาดใหญ่ โดยมีรูปแบบการควบคุมบังคับสั่งการจากระยะไกล โดยโดรนตัวแม่ ทำหน้าที่เป็น "ฮับ" เพื่อเก็บข้อ มูลจากการสำรวจทางด้านกายภาพ เช่น สภาพทางภูมิศาสตร์ และที่ตั้งสำคัญในพื้นที่ และยากต่อการตรวจจับสัญญาณ

เนื่องจากผู้บังคับจะอยู่ห่างจากพื้นที่ แต่สามารถสั่งการและควบคุมโดรนตัวเล็ก ให้ขึ้นบินวนรอบ ๆ บริเวณที่ต้องการเพื่อ "ล่อเป้า" ดังนั้น เมื่อ โดรนดังกล่าวถูกสอยให้ตกสู่ภาคพื้นดินก็จะพบว่า เป็น โดรนเปล่า เนื่องจากถูกโดรนสอดแนมเก็บข้อมูลไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่างมีการใช้โดรน รุ่น CW-15 ที่ผลิตโดยบริษัทจากจีน ในการปฏิบัติภารกิจ โดยอากาศยานไร้คนขับ (UAV) หรือโดรนรุ่นดังกล่าว มีระบบปฏิบัติการฉลาดสูง สามารถขึ้นและลงจอดในแนวดิ่ง หลบหลีกสิ่งกีดขวางอัจฉริยะ และบินได้อย่างแม่นยำ CW-15 มีรัศมีตรวจสอบ 160 กิโลเมตร สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของเป้าหมายที่กำลังบินอยู่

ในขณะที่ วันนี้ (6 ส.ค.2568) สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน โพสต์บนเพจ เฟซบุ๊ก ชี้แจง ผ่านเพจ Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นภาษาอังกฤษ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการตอบข้อซักถามโดยโฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ต่อคำถามว่า มีรายงานจากสื่อบางแห่งว่า เมื่อไม่นานมานี้ จีนได้บริจาคโดรนให้กัมพูชาเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการบริเวณชายแดน เรื่องนี้ทางสถานทูตมีความคิดเห็นอย่างไร

โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ภาพถ่ายที่ใช้ประกอบรายงานของสื่อดังกล่าว ถูกถ่ายระหว่างการสาธิตการบิน จัดขึ้นโดยบริษัท China National Aero-Technology Import & Export Corporation (CATIC) ประเทศกัมพูชา เมื่อเดือนม.ค. 2567 ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับสถานการณ์ในปัจจุบัน

"จีนยืนยันว่า นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา จีนในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีความเป็นมิตร ได้มีบทบาทอย่างแข็งขัน ในการผลักดันให้สถานการณ์คลี่คลายลง และไม่มีเป้าหมายแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวใด ๆ และให้การสนับสนุนบทบาทของอาเซียน ในการส่งเสริมการแก้ไขปัญหาทางการเมืองระหว่างไทยกับกัมพูชาผ่านวิถีทางของอาเซียน" ข้อความสื่อสารจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทย

ผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่การค้นหาศูนย์บัญชาการและควบคุม "โดรนปริศนา" ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ โดยการตอบโต้ของกองทัพและหน่วยงานความมั่นคง ใช้ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ Counter-Unmanned Aircraft Systems (C-UAS) หรือ แอนตี้โดรน เข้ายับยั้ง ในหลายรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็น การรบกวนสัญญาณ (Jamming) ตัดสัญญาณ Wifi (คลื่นความถี่ 2.4, 5. 2ghz) การตัดสัญญาณ GPS ทำให้ UAV โดรน ไม่สามารถรับคำสั่ง หรือระบุพิกัดตัวเองจากดาวเทียม ให้บินโดยไม่ทราบทิศทางและไม่สามารถควบคุมได้

การยึดควบคุม (Spoofing) การส่งสัญญาณหลอกเพื่อควบคุมโดรนและบังคับให้ลงจอด ,การจับกุมทางกายภาพ และใช้ตาข่าย สเปรย์ หรืออุปกรณ์พิเศษเพื่อจับโดรน,การใช้เลเซอร์ เทคโนโลยีลำแสงพลังงานสูงเพื่อรบกวนเซ็นเซอร์หรือทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบข้อมูลว่า โดรนควบคุมสั่งการที่ถูกส่งเข้ามาบินป่วนในพื้นที่ชาย แดนจะมาจากฝั่งกัมพูชาหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และ (กสทช.)เข้าตรวจค้น บริษัท TRD Systems Pte Ltd ในพื้นที่ อ.เมือง จ. สมุทรปราการ และยึดโดรน จำนวน 29 รายการ ,กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 รายการ, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ16 รายการ, รถตู้ตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คันและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

หลังจากสืบขยายผลแล้ว ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง คงต้องจับตาดูว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ปริมาณโดรนก่อกวน จะมีจำนวนลดลง หรือเพิ่มขึ้น โดยหนึ่งในข้อสันนิษฐาน คือ ฝูงโดรนดังกล่าว หากไม่ใช่ อากาศยานไร้คนขับที่ถูกใช้ให้เข้าไปสอดแนม "จารกรรม" ข้อมูลสำคัญ ที่ตั้งกำลังรบและยุทธศาสตร์ในพื้นที่แล้ว

จึงเป็นไปได้สูงว่า โดรน อาจเป็นของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์จากธุรกิจมืด "กาสิโนและสแกมมอร์" ในกัมพูชา ที่มีทั้ง "จีนเทา-ไทยเทา"ที่ เข้าไปมีเอี่ยว จนฝูงบินเอฟ -16 และกริพเพนเข้าไปถล่ม หย่อนระเบิดลายล้างอย่างราบคาบ เป็นเหตุให้ "ฮุน เซน" และ พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ต้องชิงสร้างข่าวเท็จใส่ร้ายประเทศไทยในทุก ๆ วัน

อ่านข่าว : ตาควาย "แดนสังหาร" ถอยตั้งรับ "ปรับยุทธวิธีรบ" รับมือ กัมพูชา

ยอด "นักมวย"สู่ "นักรบ" ถือปืน สวมลายพราง "ชายแดนไทย-เขมร"

เปิดกองกำลังพิทักษ์ “ฮุน เซน” ค่าชีวิต “คนกัมพูชา” ที่ไม่เท่ากัน