วันนี้ (11 ส.ค.2568) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณี พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษก กห.กพช. แถลงถึงการลงพื้นที่ของคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำกัมพูชาจาก 9 ประเทศ สำรวจความเสียหายในหมู่บ้านทมาดอน ต.โคกมอน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งจากการทิ้งระเบิด MK-84 และการยิงถล่มบ้านเรือน โรงเรียน และสถานีอนามัย โดยกองทัพไทยว่า การเยือนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการติดตามมติที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2568 ซึ่งกำหนดให้ทั้ง 2 ฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งเป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงของ ฝ่ายกัมพูชาอ้าง
- "กัมพูชา" พาผู้ช่วยทูตทหารต่างชาติลงพื้นที่แนวปะทะ ครั้งที่ 3
- มทภ.2 คาดกัมพูชาสูญเสียทหาร 3,000 นายจากเหตุปะทะ
- กห.มอบ “เหรียญบางระจัน” เชิดชูเกียรติทหารกล้าเหตุสู้รบไทย-กัมพูชา
พร้อมย้ำว่า ทหารไทยยึดมั่นต่อการใช้อาวุธต่อเป้าหมายทางทหารตามหลักสากลเท่านั้นและยืนยันว่า การใช้อาวุธของฝ่ายไทย มีประสิทธิภาพสามารถจำกัดวงการทำลายอยู่ในพื้นที่เป้าหมายทางทหารเท่านั้น ไม่เหมือนฝ่ายกัมพูชาที่มุ่งโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทย ที่อยู่นอกขอบเขตพื้นที่การรบ
ในหลายจุดมีระยะห่างจากพื้นที่การรบไกลมากถึง 30 กม. ปัจจุบันสามารถนับจุดที่มีตำบลกระสุนจากฝ่ายกัมพูชามาตกในพื้นที่พลเรือนรวมกันเป็น 100 จุด ซึ่งมีทั้งได้ระเบิดไปแล้ว และที่ยังไม่ระเบิดอีกจำนวนมาก โดยฝ่ายไทยจัดทำเป็นบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วอย่างละเอียดซึ่งฝ่ายกัมพูชามิอาจปฏิเสธ ความจริง และมิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และถือเป็นการมุ่งโจมตีต่อเป้าหมายพลเรือนอย่างจงใจ
ส่วนกรณี กัมพูชาพาคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำกัมพูชาจาก 9 ประเทศ ลงสำรวจพื้นที่บริเวณวัดตาเมือนแซนเจย ต.โคกมอน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ที่มีปรากฏร่องรอยความเสียหายตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างถึงนั้น ขอย้ำว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เป้าหมายทางทหาร ซึ่งอยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีระยะห่างจากแนวชายแดนเพียง 1.8 กม.ไม่ใช่ลึกเข้าไปยังพื้นที่ตอนในไกลถึง 20-30 กม.แบบที่ฝ่ายกัมพูชากระทำต่อฝ่ายไทย
ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในขอบเขตของพื้นที่การสู้รบ และในห้วงที่มีการสู้รบ พื้นที่ดังกล่าวไม่มีบุคคลพลเรือนอยู่อาศัย มีเพียงทหารฝ่ายกัมพูชา ใช้เป็นพื้นที่รวมพลเพื่อเตรียมการนำกำลังเข้าตีฝ่ายทหารไทย รวมถึงใช้เป็นที่ตั้งในการควบคุมบังคับบัญชาการรบ พื้นที่ดังกล่าวเป็นเป้าหมายทางทหารของฝ่ายไทย ที่อยู่ในขอบเขตบริเวณของพื้นที่การรบในครั้งนี้
ส่วนตัวเลขพลเรือนที่มีบาดเจ็บและสูญเสียในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวตามที่มีการกล่าวอ้างถึงนั้น จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริง หากมีการบาดเจ็บและสูญเสียจะมีเพียงทหารฝ่ายกัมพูชาเท่านั้น
อ่านข่าว : มทภ.2 เผยแนวทางเข้าจุดเสี่ยง ใช้เครื่องจักรนำลาดตระเวน เซฟกำลังพล
ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ ให้ความรู้ ปชช.ชายแดน สังเกตวัตถุต้องสงสัย
โพลเผย ประชาชน 75%"ไว้วางใจ" กองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ