วันนี้ (20 ส.ค.2568) เวทีอภิปรายสาธารณะ "บทเรียนและทางออก คดีฮั้ว สว.67" ร่วมอภิปรายโดย นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , นายระวี อักษรศิริ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI, นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. ,น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สมาชิกวุฒิสภา 2567 กลุ่มสาขาอาชีพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ตัวแทน สว.สำรอง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โดยนายระวี อักษรศิริ ยืนยันดำเนินการคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลางชุดที่ 26 ของสำนักงาน กกต. ไม่มีข้อกดดันใด และการดำเนินการของดีเอสไอสนับสนุนหลักฐานทั้งหมด และได้ให้ กกต.คณะ 26 ดำเนินการซึ่งใช้เวลา 3-4 เดือนในการรวบรวมพยานหลักฐาน จนคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนฯ มั่นใจและแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะต้องทำด้วยความรอบคอบ ที่ต้องมีพยานหลักฐานที่เพียงพอ แจ้งคดี 229 คน ในฐานคดีอั้งยี่และซ่องโจร
ขณะนี้มีความคืบหน้า 80% ความชัดเจนในความผิดมีอยู่แล้วแต่ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน คาดว่าใช้เวลาไม่นาน กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และยืนยันว่าไม่มีแรงกดดันใดๆ ไม่มีคำสั่งพิเศษใดทั้งสิ้นทุกอย่างว่าเป็นไปตามพยานหลักฐาน ถูกว่าไปตามถูกผิดว่าไปตามผิด
"การพิสูจน์ความผิดของแต่ละบุคคลในการถูกดำเนินคดีอาญา นอกจากพิสูจน์ความผิดแล้วจะต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วย ที่ต้องให้โอกาสในการชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน โดยจะดำเนินการด้วยความยุติธรรม ส่วนดีเอสไอ พนักงานสอบสวนมีพนักงานอัยการเข้าร่วมดำเนินการสอบสวนด้วยดังนั้นการดำเนินการทุกขั้นตอนจะมีพนักงานอัยการให้คำแนะนำและร่วมสอบสวน" นายระวีกล่าว

นายระวีกล่าวว่า ส่วนการดำเนินคดีของดีเอสไอ ฐานอั้งยี่ฟอกเงิน น่าจะออกหมายจับผู้ต้องหาใน 1-2 เดือนนี้ รอเพียงการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เพราะการรีบมากก็ไม่ใช่เรื่องดี ยืนยันคดีฮั้ว ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกที่ต้องทำงาน ส่วนการออกหมายจับตาม ป.วิอาญา ซึ่งเป็นความผิดทางกฎหมายที่สามารถออกหมายจับได้เลย แต่จะต้องฟังความเห็นและข้อเท็จจริงจากพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ ว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอหรือไม่ ก่อนที่ยืนยันว่าเร่งรัดดำเนินคดีอย่างเต็มที่
ส่วนนายชยพล ดโนทัย โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw ในฐานะองค์กรตรวจสอบคดีฮั้ว สว. กล่าวว่า ข้อสรุปของ กกต. ว่าจะฟ้องหรือไม่อาจต้องรอถึง 8 เดือน หรือครบวันที่ 14 มี.ค.2569 แต่ กกต. 4 คนกำลังหมดวาระ ซึ่งกว่าจะถึงวันยื่นฟ้องมี กกต. 5 คน ใหม่ จาก 7 คน ที่จะเข้ามาโหวต จึงกังวล สว. ชุดปัจจุบันกำลังจะเลือก กกต. เข้ามาตัดสินคดีฮั้ว สว. ที่ตัวเองกำลังถูกดำเนินคดีอยู่ และเห็นว่ากระบวนการดำเนินคดีของ กกต. ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 240 วัน
ซึ่งจะทำให้มีความซับซ้อนมากขึ้นเป็นที่ย้ำว่านี่คือผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ มีคนกล่าวกันว่ากับการเลือกผู้พิพากษามาพิจารณาตัวเอง นี่จึงทำให้เป็นกังวลอย่างมาก
สอดคล้องกันนี้นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการของ สว. ชุดปัจจุบันที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับกรณีโหวตเลือก กกต. ที่จะเข้าไปทำหน้าที่ โดยเฉพาะในการพิจารณาคำร้องคดีฮั้ว สว. ด้วย กกต.ปัจจุบันกำลังหมดวาระ 5 คน และมั่นใจว่าหากคำร้องไปถึงศาลฎีกาหากศาลรับคำร้อง สว.136 จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
นายวันชัย สอนศิริ มองเรื่องการทำงานของวุฒิสภาปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกดำเนินคดี มองคดีอาจยืดเยื้อ 2-3 ปี ทั้งนี้หากตนเองเป็นผู้ถูกร้องจะใช้ทุกทางทุกเทคนิคให้คดีช้าที่สุด ดันสุดสายป่าน มองเหตุคดีล่าช้าอาจเพราะคนเป็นกรรมการไม่ตรงไปตรงมา เพราะกระบวนการเลือกครั้งนี้ โอกาสให้เกิดการทำผิดกฎหมายหรือการฮั้วมากที่สุด เชื่อว่ามีการวางแผน คำนวณอย่างขั้นเป็นตอน หากไม่ทิ้งร่องรอยไว้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่เรื่องนี้เป็นการปล้นกลางแดน โจ่งแจ้งโจ๋งครึ่ม และตบหน้ากันชัดๆ
นายวันชัยยังกล่าวแสดงความผิดหวังต่อการปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะการยอมนำตัวเองไปอยู่ใต้พรรคการเมือง ซึ่งตามกฎหมายควรอยู่ในฐานะการกลั่นกรองตรวจสอบ
แต่ดันทำตัวอยู่ใต้อุ้มของพรรคการเมือง นักการเมือง จึงเป็นเรื่องที่ใช้คำว่าน่าอัปยศอดสูมากๆ เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจกว่าปกติ ฮั้วกันมา มันก็แย่แล้ว
ส่วน น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ในฐานะผู้ยื่นคำร้องต่อ สว. ที่ถูกดำเนินคดีฮั้ว สว. ให้ศาลรัฐธรรมนูญหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญเปิดไว้ ชี้ว่าไม่มีความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการสรรหาบุคคลเข้ามาทำหน้าที่ในองค์กรอิสระ
มีการท้าประลองกำลัง ไม่รู้เป็น สว.ไหน ผมไม่นิยมใช้กำลังตัดสิน แต่ถ้าโดนก็ดีเหมือนกันจะได้เป็นคดีความให้เรียบร้อยกันไป สิ่งที่ทนไม่ได้คือกันมีผลประโยชน์ทับซ้อน
โดยในเวทีเสวนามีข้อเสนอแนะถึงทางออกคดี ฮั้ว สว. ซึ่ง พล.ต.ท.คำรบ เน้นย้ำ ว่า กกต.เป็นผู้บังคับบัญชาของ เลขาฯ กกต. ที่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบจากทุกการกระทำในการดำเนินคดี
ส่วนนายวันชัย ชี้ว่า ไม่ควรให้ 138 สว. ที่ถูกดำเนินคดีมาเป็น สว. และไม่ให้มีพื้นที่ยืนทางการเมืองอีก และบอกว่าทางออกอย่างถาวรคือการแก้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ชี้ว่ายังมีข้อบกพร่องโดยเฉพาะระบบการเลือก สว.
ซึ่งทางผู้แทนไอลอว์เห็นสอดคล้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องให้ กกต. เร่งดำเนินการให้ข้อยุติโดยเร็ว เช่นเดียวกับนายปริญญา ที่เห็นว่า กกต. ควรดำเนินการส่งศาลโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ถูกการฟ้องเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และการดำเนินการในขณะนี้สะท้อนถึงการขาดประสิทธิภาพในการทำหน้าที่โดยมีเจตนาหรือไม่ ขณะเดียวกันหากไม่ยื่นฟ้องร้องผู้ใดก็ต้องสามารถชี้แจงต่อสังคมถึงเหตุผลได้ เน้นย้ำถึงกระบวนการที่ต้องโปร่งใส
อ่านข่าว :
"พล.อ.ณัฐพล" เผย กต.เตรียมส่ง คลิปทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด ให้อนุ กก.ออตตาวา
ศาลเลื่อนฟังคำพิพากษาคดี นปช.ชุมนุมไล่ "อภิสิทธิ์" ปี 52 เป็น 7 ต.ค.