ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ทักษิณ” รอดคดี 112 ลุ้นต่อ “ชั้น 14” การเมืองไทยไปต่อหรือพลิกโฉม

การเมือง
15:55
483
“ทักษิณ” รอดคดี 112 ลุ้นต่อ “ชั้น 14” การเมืองไทยไปต่อหรือพลิกโฉม
เป็นไปตามที่คาดการณ์วงใน นายทักษิณ ชินวัตร รอดพ้นจากคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจากที่คดีนี้ จากการพิจารณาของศาลอาญา เมื่อ 22 ส.ค.2568 จะมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ต้องติดตามต่อไป

หลังจากที่คดีนี้ยืดเยื้อคาราคาซังมานานถึง 11 ปี กรณีนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Chosun Media ของเกาหลีใต้ เมื่อ 20 พฤษภาคม 2558 เกี่ยวกับการรัฐประหารของ คสช.เมื่อ ปี 2557 ส่อในทางพาดพิงสถาบัน

จากนั้น พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. ขณะนั้น ได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญ กองทัพบก ดำเนินการเอาผิดนายทักษิณ ทันที

สาเหตุสำคัญที่คดียืดเยื้อ คือการเดินทางออกนอกประเทศที่ยาวนานถึง 17 ปี ของนายทักษิณ กระทั่งเดินทางกลับประเทศไทย 22 ส.ค.2566 ตำรวจได้เข้าขออายัดตัว นายทักษิณต่อกรมราชทัณฑ์ เมื่อ 28 ส.ค.2566 และต่อมา 17 ม.ค.2567 ตำรวจและอัยการเข้าแจ้งข้อกล่าวหากับนายทักษิณ ขณะพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 แต่นายทักษิณปฏิเสธ พร้อมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับสำนักงานอัยการสูงสุด

จบจากคดีนี้ นายทักษิณเหลือคดีที่ต้องลุ้นต่อไปอีก 1 คดี กรณีการบังคับโทษจำคุกของทักษิณ ว่าเป็นไปตามคำพิพากษาแล้วหรือไม่ โดยศาลฎีกาฯ นัดหมาย 9 ก.ย.2568 ฟังคำสั่งคดีพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นคดีที่ฝ่ายตรงข้ามกับนายทักษิณ มีความสอดคล้องกันว่า ความเสี่ยงของคดีมีมากกว่าคดี ม.112

รวมทั้ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ และมือปราบโครงการรับจำนำข้างในอดีต ที่ตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ อาจมีนัยเชิงการเมืองหรือไม่ หลังจากฝ่ายนายทักษิณ ได้ตัดพยานที่เตรียมไว้มากถึง 14 ปาก เหลือเพียง 3 ราย ประกอบด้วย นายทักษิณ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ และนักกฎหมายระดับชั้นนำของไทย

และเคยมีความเห็นในเชิงข้อกฎหมายในประเด็นต่าง ๆ ที่ผู้คนสงสัย อีกคนคือ นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกฯ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

โดยตั้งข้อสังเกตว่า เพื่อให้การตัดสินคดี ม.112 เร็วขึ้นหรือไม่ เพราะเมื่อเทียบกับคดีชั้น 14 ความเสี่ยงในคดี ม.112 ผลน่าจะออกมาเป็นคุณต่อนายทักษิณ มากกว่าคดีชั้น 14 และเชื่อว่า จะได้รับการตัดสินก่อน ซึ่งสุดท้ายเป็นไปตามนั้น เท่ากับนายทักษิณจะหลุดจากเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกประเทศจากคดี ม.112 ด้วย

ดังนั้น ระหว่างก่อนถึงวันศาลตัดสิน จึงอาจได้เห็นใครบางคนเดินทางออกนอกประเทศ หรือไปให้คำปรึกษาต่อประธานอาเซียน แล้วไม่กลับมาประเทศไทยอีกเลย ทั้งเหน็บในทีว่า หากจะกลับมาผ่านช่องทางธรรมชาติด้านกัมพูชา จะยิ่งยากขึ้น เพราะตอนนี้ได้ปิดชายแดนไปหมดแล้ว

ขณะที่สำนักข่าวอิศรา เคยรายงานสรุปก่อนหน้านี้ว่า คดีความในสาระบบอัยการและศาลต่าง ๆ เกี่ยวกับการกระทำผิดของนายทักษิณ ที่หน่วยงานต่าง ๆ ตรวจสอบ และส่งสำนวนเข้ามาเพื่อให้อัยการสูงสุด พิจารณาสำนวนฟ้องร้องดำเนินคดี ตั้งแต่ปี 2549 ถึง ปัจจุบัน มีจำนวน 31 คดี ส่วนใหญ่เป็นข้อหาหมิ่นประมาทเบื้องสูง

รองลงมาเป็นข้อหาเกี่ยวกับทุจริต ประพฤติมิชอบ ร่ำรวยผิดปกติ อีก 1 คดี เป็นการขับขี่จักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย เมื่อครั้งลงพื้นที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ทำเรียลลิตี้โชว์ ถ่ายทอดสดแก้ปัญหาความยากจน เมื่อครั้งยังเป็นนายกรัฐมนตรี

แต่ในจำนวน 31 คดี มี 21 คดี ถูกระบุ (ก่อนหน้านี้ )ว่า เป็นสำนวนที่ยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหา และ มี 9 คดี พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วนคดีที่เหลือ มีทั้งส่งสำนวนกลับคืน และศาลมีคำพิพากษาตัดสินคดีไปแล้ว

สำหรับมาตรา 112 ที่ศาลอาญาเพิ่งพิจารณายกคำร้อง เดิมที นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ได้เตรียมพยานสู้คดีไว้มากถึง 14 ปาก แต่สุดท้าย ตัดเหลือเพียง 3 คน ดังที่ได้กล่าวอ้างถึง คือ นายทักษิณ นายวิษณุ และนายธงทอง โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากทั้งสองคนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทักษิณว่า ไม่มีเจตนาตามที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ

การยอมตัดพยานปากอื่น เหลือเพียงเฉพาะระดับลายคราม ที่มีความจงรักภักดี และยังเป็นที่ให้การยอมรับเรื่องมุมมองทางกฎหมาย สะท้อนให้เห็นว่า นายทักษิณและทนายความ มั่นใจว่ามีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ และเพียงพอสำหรับลบล้างข้อกล่าวหา มิหนำซ้ำ นายวิษณุ ยังได้เลือกเป็นพยานในคดีชั้น 14 ของนายทักษิณด้วย

แม้ว่านายวิษณุจะมีปัญหาสุขภาพ และโรคภัยตามอายุขัย แต่ก็ยังดึงมาเป็นพยานให้ เมื่อบวกกับสาระในข้อกล่าวหาไม่ชัดเจน เป็นเพียงการคาดเดา โดยไม่มีอะไรเชื่อมโยงไปถึงสถาบัน ศาลจึงยกคำร้อง

จึงเหลือเพียงคดีสุดท้าย 9 ก.ย. ที่เชื่อว่า จะมีผลกระเพื่อมต่อการเมืองไทยอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งหากนายทักษิณรอดพ้นข้อกล่าวหาอีก และคดีนายกฯ น.ส.แพทองธาร ถูก 36 สว.ยื่นสอยจากตำแหน่งนายกฯ มีผลวินิจฉัยในเชิงบวก บทบาทของพ่อลูกต่อการเมืองไทยยิ่งจะเข้มข้น ไม่ต้องห่วงพะวงกับอะไรอีก ไม่ต่างจาก “เสือติดปีก”

เว้นเสียแต่ผลออกมาตรงกันข้าม อาจได้เห็นการ “เซ็ตซีโร่” เริ่มต้นใหม่ของการเมืองไทย หลังจากวนเวียนและติดหล่มอยู่ที่เดิมมานาน

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : “สอบ ขรก.-พนักงานท้องถิ่น” ใครจัดการไม่แตกต่าง ถูกจับตาเป็น “ต้นทางทุจริต”

นักวิชาการมอง "2 ฉากทัศน์" หลังผ่าน "10 วันอันตรายตระกูลชินวัตร"

เปิดเหตุผลศาลยกฟ้อง "ทักษิณ" คดี ม.112 ชี้ไม่ได้กล่าวถึงสถาบันฯ