ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กรมควบคุมโรค อัปเดตสถานการณ์ "โรคฝีดาษวานร" พบผู้ป่วยใหม่ 5 คน

สังคม
15:27
34
กรมควบคุมโรค อัปเดตสถานการณ์ "โรคฝีดาษวานร" พบผู้ป่วยใหม่ 5 คน
อ่านให้ฟัง
06:37อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคฝีดาษวานร (Mpox) ในไทย สัปดาห์ที่ 34 (17-23 ส.ค.68) พบผู้ป่วยรายใหม่ 5 คน เฉพาะในปี 2568 มีผู้ป่วยสะสม 61 คน เผยยังพบผู้ป่วยต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน ป่วยสะสมแล้ว 933 คน

วันนี้ (4 ก.ย. 2568) นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ข้อมูลจากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคฝีดาษวานร (Mpox) โดยกองระบาดวิทยา ในสัปดาห์ที่ 34 (17-23 ส.ค.2568) พบผู้ป่วยรายใหม่ 5 คน เป็นผู้ป่วยใน จ.ชลบุรี 3 คน ขอนแก่นและกรุงเทพมหานคร แห่งละ 1 คน และเฉพาะในปี 2568 มีผู้ป่วยสะสม 61 คน ไม่พบรายงานผู้เสียชีวิต ยังคงพบผู้ป่วยต่อเนื่องทุกสัปดาห์มีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ค. เป็นต้นมา โดยตั้งแต่เกิดการระบาดในปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 933 คน เสียชีวิต 13 คน

ส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักก่อนป่วย การสัมผัสแนบเนื้อกับผู้ป่วย จากข้อมูลยังพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) บางรายเพิ่งตรวจพบว่าติดเชื้อ ขณะที่บางรายทราบอยู่แล้วแต่ไม่ได้รับยาต้านไวรัส (ARV) เพื่อกดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันต่ำ ร่างกายต่อสู้กับโรคอื่นได้น้อยลง จึงมีความเสี่ยงอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป

สำหรับข้อมูลผู้ป่วยรายใหม่ 5 คน อายุระหว่าง 18-39 ปี ปัจจัยเสี่ยงหลักมาจากการสัมผัสที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ ในสัปดาห์นี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ clade lb ภายในประเทศ และยังไม่มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรทั่วโลกยังพบต่อเนื่อง โดยเฉพาะภูมิภาคแอฟริกากลางและตะวันออก และบางประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงต่อการพบผู้ติดเชื้อที่นำเข้าจากต่างประเทศ

กรมควบคุมโรคยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยง ให้ความรู้สุขศึกษาแก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกำชับบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลเฝ้าระวัง หากพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ ให้รายงานเข้าสู่ระบบเฝ้าระวังทันที กรมควบคุมโรคขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังและการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีความพร้อม ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ควรเฝ้าระวังและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง

ภาพแจกโดยสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 แสดงให้เห็นภาพผื่นจากโรคฝีดาษวานร

ภาพแจกโดยสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 แสดงให้เห็นภาพผื่นจากโรคฝีดาษวานร

ภาพแจกโดยสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 แสดงให้เห็นภาพผื่นจากโรคฝีดาษวานร

แนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร

สำหรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรจะได้รับการรักษาตามความรุนแรงของอาการผู้ป่วยและขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ดูแลรักษา โดยมี 2 แนวทาง ได้แก่

1. กรณีผู้ป่วยที่มีอาการน้อย หรือมีอาการไม่รุนแรง จะได้รับการรักษาตามอาการโดยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) แต่หากไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ ก็จะได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล

2. กรณีผู้ป่วยที่มีโอกาสเสี่ยงต่อโรครุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อน จะได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส เทคโควิริแมท (Tecovirimat) เพื่อลดความเสี่ยง อาการแทรกซ้อน โดยในระหว่างการรักษาควรแยกตัวจากผู้อื่นนานประมาณ 21 วัน หรือจนกว่า ผื่น ตุ่ม จะตกสะเก็ดและหลุดลอกออกหมด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

นพ.ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคนี้สามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ป่วยหรือผู้ที่สงสัยติดเชื้อฝีดาษวานร รวมทั้งหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ไม่รู้จัก และสังเกตอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หากมีผื่น/ตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือตามร่างกาย และมีประวัติสัมผัสแนบชิด หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยสงสัย หรือผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานร รวมทั้งกลุ่มผู้ดูแลผู้ป่วยสงสัยหรือผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานร ให้สังเกตภายหลังสัมผัสผู้ป่วยภายใน 21 วัน

และหากมีอาการ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต เช่น บริเวณหลังหู คอ ขาหนีบ เจ็บคอ คัดจมูก หรือ ไอ มีผื่น หรือตุ่มน้ำหรือตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือ ทวารหนัก หรือ บริเวณรอบ ๆ ตามมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า หรือบริเวณปาก ให้รีบเข้ารับการตรวจที่สถานบริการสุขภาพ หรือโรงพยาบาล โดยแจ้งอาการและประวัติเสี่ยงทันที เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง

ทั้งนี้ เน้นย้ำว่า โรคฝีดาษวานรสามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย งดใช้สิ่งของร่วมกัน และสวมถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ พร้อมทั้งสังเกตตุ่มหนองในบริเวณที่มีโอกาสสัมผัสแนบเนื้อ เพื่อป้องกันความเสี่ยงรับเชื้อจากการสัมผัส สำหรับคลินิกรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี ขอให้เพิ่มการสื่อสารมาตรการป้องกันโรคฝีดาษวานรอย่างสม่ำเสมอควบคู่กับเรื่องการดูแลสุขภาพอื่น ๆ

อ่านข่าว : จีนโชว์แสนยานุภาพ ขีปนาวุธ-โดรนล้ำสมัย มุ่งแซงกองทัพสหรัฐฯ

หนองจาน “แผ่นดินไทย” เอาคืนพื้นที่ ชาวกัมพูชา ต้องออกให้หมด

รวมไว้แล้วห้ามพลาด ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ "กันยายน 2568"