ในที่สุด “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้นั่งเก้าอี้นายกฯคนใหม่ กลายเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าของการเมืองไทย เมื่อ 146 สส. เสียงข้างน้อย ได้รับ 143 เสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน เข้ามาหนุนช่วย ด้วยมติ 311-152 งดออกเสียง 27 คน เป็นการจบแบบเจ็บ และยังทิ้งแผลปวดไว้ให้ ”ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกและพรรคเพื่อไทย เป็นระลอกสอง หลังคว้าชัยส่ง สว.(สีน้ำเงิน) เข้าสภาสูงมาแล้ว
ท่ามกลางคำถาม นับจากนี้ “ค่ายแดง” พรรคเพื่อไทยจะแก้เกม ที่อยู่ในภาวะเสียเปรียบอย่างไร และ สส.ที่เหลืออยู่จะสู้ต่อกับพรรค หรือเตรียมตีจากไปหาพรรคสังกัดใหม่ หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศ เมื่อช่วงค่ำวันที่ (4 ก.ย.2568) ก่อนมีการโหวตเลือกนายกฯ เพียงวันเดียว
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รักษาการนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้พยายามเดินจนสุดทางเพื่อรักษาความเป็นรัฐบาลต่อไป แต่ก็ไปไม่ถึงความหวัง
ทำให้ “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โอดในสภาวันนี้ (5 ก.ย.2568)ว่า เป็นคนช้ำประจำซอย เป็นคนที่ไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด เคยโหวตให้เขาแท้ๆ ปี2562 ก็โหวตให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปี 2566 ก็โหวตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ใน 2 รอบ “แต่ทีเราเขาไม่เคยคิดจะโหวตให้ ไม่เป็นไร คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง”
กูรูทางการเมือง ต่างวิเคราะห์ตรงกันว่า ลีลาการเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” ที่เดินทางออกนอกประเทศในครั้งนี้ ไม่ต่างจากในอดีต ครั้งแรกระบุว่าจะเดินทางไปสิงคโปร์ ต่อมาอ้างว่าปิดสนามบินสี่ทุ่ม เครื่องบินฯไม่สามารถลงจอดได้ สุดท้ายอ้างมีนัดพบเพื่อนที่เมืองดูใบ และหาแพทย์ที่เคยให้การรักษา ก่อนจะโพสต์ข้อความยืนยัน จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อมาฟังคำพากษา ไม่เกินวันที่ 8 ก.ย.2568
ศาลฎีกาฯนัดอ่าน “ทักษิณ”ฟังคำพิพากษาคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ วันที่ 9 ก.ย.นี้ ซึ่งใครก็ตามที่ติดตามการไต่สวนคดีทุกนัดจะเห็นได้ว่า อดีตนายกฯ ไม่มีข้อใดได้เปรียบเลย โดยเฉพาะการอาการเจ็บป่วยที่อยู่ในภาวะ “วิกฤต” จนต้องถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในแผนกฉุกเฉิน หรือ การสั่งยา การเบิกจ่ายค่ายา ฯลฯ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่า “ทักษิณ” อาจจะไม่กลับมา แต่จะหาเหตุผลมาสนับสนุนการอยู่ต่อในต่างประเทศ
หากถามว่า จะใช่การอวสานของพรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตรหรือไม่ หากใครรู้จัก อดีตนายกทักษิณ จะพบว่า เขาเป็นนักสู้ทุกเรื่อง และทุกการกระทำที่เกิดขึ้นกับลูกสาว “แพทองธาร ชินวัตร” อดีตนายกฯ คนที่ 31 ในครั้งสุดท้ายโดยไม่ยอมให้ลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญชี้จะขาดคดีคลิปเสียงเป็นสิ่งที่ยืน ยันได้ดี
เหล่านักวิเคราะห์ ระบุว่า หากดูการอภิปรายของ สส.เพื่อไทย นับจากวันโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯคนที่ 32 ก่อนที่จะมีการจัดทำโผ ครม.เพื่อนำไปสู่การยุบสภาภายในอีก 4 เดือน การเริ่มต้นเอาคืนจากพรรคเพื่อไทยก็จะเปิดเกมทันที หากมีการเสนอชื่อ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เป็นรัฐมนตรี เชื่อว่า ว่าที่นายกฯของพรรคภูมิใจไทย ก็จะถูกร้องเรื่องขาดจริยธรรม เหตุ ร.อ.ธรรมนัส มีเรื่องในอดีต เคยต้องคำพิพากษาคดียาเสพติดที่ออสเตรเลีย แม้ปัญหานี้จะจบไปแล้วก็ตาม
ในขณะที่ “อนุทิน” ก็จะถูกรุมเร้าและถูกร้องในเรื่องจริยธรรมด้วยจาก 2 ปมปัญหา คือ ที่ดินเขากระโดง และการถือครองพื้นที่ในสนามบิน ซึ่งที่ผ่านมาคาดว่า ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการดำเนินการรอไว้แล้ว เชื่อว่าหลังมีการโปรดเกล้าฯ ให้อนุทิน เป็นนายกฯ ทางพรรคเพื่อไทยก็จะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และหากเป็นไปได้ก็อาจรอดูจังหวะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้ว่าจะอยู่เพียง 4 เดือนก็ตาม
ขณะเดียวกัน อาจมีการเปิดเกมนอกสภา ด้วยการระดมกลุ่มคนเสื้อแดงในหลายจังหวัดและปั่นกระแสโซเชียล เพื่อให้เกิดกระแสบีบ “อนุทิน” เป็นการปรับยุทธวิธีการต่อสู้ทางการเมืองรอบด้าน แม้จะรู้ว่าจะต้องสู้กับกระแสอนุรักษ์นิยมที่กำลังมาแรง และในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะไม่ชนะการเลือกตั้งก็ตาม
แต่หากพรรคเพื่อไทยยังสามารถประคองสส.ให้เหลือได้ถึง 40-50 คน ให้เข้ามาอยู่ในสภาและรอจังหวะเวลาเอาคืนพรรคภูมิใจไทยก็ยังอาจทำได้ ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท “ทักษิณ” ที่จะยังไม่วางมือ แต่จะปรับวิธีการต่อสู้ โดยโยก “ขุน” ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย “นอกกระดาน” โดยมีมือทำงานที่ยังคอยเคลื่อนไหวให้
ประเด็นที่ต้องจับตา คือ การเคลื่อนไหวของของกลุ่มคนใกล้ชิดที่อาจจะบินตามไปสมทบกับอดีตนายกฯ ทักษิณที่เมืองดูใบ และที่สำคัญอย่ามองข้ามว่า “ทักษิณ” และ “ฮุน เซน” จะทะเลาะเรื่องคลิปเสียงลุง-หลาน จนมองหน้ากันไม่ได้ เพราะทั้งสองตระกูลยังมีเรื่องผลประโยชน์อยู่ในเบื้องหน้า-เบื้องหลังที่ยากจะหยั่งรู้
ในขณะที่การต่อสู้และการเคลื่อนไหวของ “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่ บุรีรัมย์ “ค่ายสีน้ำเงิน” ได้มีการตั้งวงวิเคราะห์ว่า “อนุทิน” และ “เนวิน” จะไม่ทำซ้ำรอยเหมือน “ทักษิณ” ที่หวังรบครั้งเดียวแล้วชนะเลย แต่จะใช้วิธี ตีทีละขั้น เอาชนะทีละสนามรบ และค่อย ๆ กวาดเก็บ เพื่อรอการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วยเช่นกัน
อ่านข่าว
“พล.ต.นรธิป โพยนอก” นั่ง มทภ.4 จากที่ราบสูง สู่ปลายด้ามขวาน
“พล.ต.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์” นักรบลูกอีสาน ขึ้นแม่ทัพภาค 2 คนใหม่
"ทักษิณ" เตรียมบินต่างแดน "ป่วยทิพย์" เส้นตาย คดีชั้น14 รพ.ตร.