ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“พล.ต.นรธิป โพยนอก” นั่ง มทภ.4 จากที่ราบสูง สู่ปลายด้ามขวาน

การเมือง
13:12
573
 “พล.ต.นรธิป โพยนอก” นั่ง มทภ.4 จากที่ราบสูง สู่ปลายด้ามขวาน

สไลด์ข้ามห้วยจากดินแดนที่ราบสูง สู่สมรภูมิสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ค้านสายตาเพื่อนร่วมรุ่น เมื่อ “รองยูร” พล.ต.นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาค 2 จะก้าวเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คุมกำลังหลักในพื้นที่ปลายด้ามขวาน เพื่อกระชับการทำงานให้มีประสิทธิภาพและเน้นการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ถือเป็นนักรบลูกอีสานใต้อีกคนหนึ่งที่ลงไปพิสูจน์ฝีมือในดินแดนปลายด้ามขวาน

ตามรอยอดีตนายทหารรุ่นพี่ “พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร” อดีตรองแม่ทัพภาค 2 ที่ข้ามมาเป็นรองแม่ทัพภาค4 ในปี 2548 ก่อนจะกลับไปเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 อีกรอบเมื่อปี 2551 และข้ามกลับมาเป็นแม่ทัพภาค 4 กระทั่งเข้าสู่ไลน์ 5 เสือทบ.ในตำแหน่งผช.ผบ.ทบ.

พล.ต.นราธิป หรือ“รองยูร”เป็นเพื่อนร่วมรุ่นตท.26 ของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. เช่น เดียวกับ“แม่ทัพกุ้ง”พล.ท.บุญสิน พาดกลาง และ “รองเติ่ง”พล.ต.วีระยุทธ์ รักศิลป์ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 2 โดยทั้งสองแม่ทัพภาคทั้งภาคที่ 2 และภาคที่ 4 คนใหม่ ต่างมีเส้นทางรับราชการและการทำงานไม่ต่างกันมากนัก

โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งมีหน่วยกำลังรบหลักอยู่ 2 กองพล คือ กองพลทหารราบที่ 3 จ.นครราชสีมา หรือ “กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี” รับผิดชอบชายแดนภาคอีสานตอนบน ตั้งแต่ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร โดยหน่วยขึ้นตรงของ พล.ร.3 ตั้งกระจายอยู่ใน จ.นครราชสีมา เลย อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร นครพนม

ขณะที่กองพลทหารราบที่ 6 จ.ร้อยเอ็ด หรือ กองกำลังสุรนารี รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนภาคอีสานตอนล่าง ตั้งแต่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ โดยมีหน่วยขึ้นตรงของ พล.ร.6 ตั้งกระจายอยู่ใน จ.นครราชสีมา ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ

พล.ต.นราธิป หรือ “รองยูร” เมื่อครั้งมียศ ร.อ.เคยเป็นอดีตนายทหารคนสนิท(ทส.)ของ พล.อ.สนั่น มะเริงสิทธิ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.)และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ถึงแก่อนิจกรรมไปต่อมาได้เป็นทส.ของพล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล อดีตแม่ทัพคนที่ 2 คนแรกที่เปิดศึกไทย-กัมพูชา หลังมี MOU 43 เมื่อปี 2551

ต่อมาเป็นผู้การกรมทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์จ.นครราชสีมา,รองเสธนาธิการกองทัพภาค 2 และเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 เติบโตตามลำดับเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ในระหว่างปี พ.ศ. 2565 -2567 จากนั้นเลื่อนขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รองแม่ทัพภาค 2

ถือเป็นนักรบสายเลือดอีสานอีกคนหนึ่งที่ได้ติดยศ พล.ท.และข้ามห้วยมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ แทน พล.ท.ไพศาล หนูสงข์ แม่ทัพภาค 4 ที่ขยับขึ้นมาเป็นพล.อ.ที่บก.ทบ.

อดีตนายทหารรุ่นพี่และผู้ใต้บังคับบัญชา ระบุว่า “รองยูร” เป็นนายทหารอีกคนหนึ่งของกองทัพภาคที่ 2 ที่ตั้งใจทำงาน ใจดี แม้จะเข้มงวดบ้าง และเชื่อว่าการลงสมรภูมิรบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนในครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือการทำงานในพื้นที่มีความแตกต่าง ทั้งด้าน ภาษา สังคม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ต่างจากพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 อย่างชัดเจน

สำหรับในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 แม้จะมีสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ตลอดแนวชายแดนด้านจ.สระแก้ว แต่ไม่มีเหตุการณ์พลิกโผ เมื่อ พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ตท.27 ได้เข้าสู่ไลน์ 5 เสือทบ. ขยับเป็นผช.ผบ.ทบ.ทำให้ ตท. 28 พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพน้อยที่ 1 ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และพล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นแม่ทัพน้อย 1

ขณะที่กองทัพภาคที่ 3 แม้การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ยังคงเกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ หลัง พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 เกษียณอายุราชการ พล.อ.พนา ได้ขยับเพื่อนร่วมรุ่นตท.26 “นักรบสายเหนือ” พล.ต.วรเทพ บุญญะ รองแม่ทัพภาค 3 เป็นแม่ทัพภาคที่ 3

สำหรับ พล.ต.วรเทพ เคยเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 17 (ผบ. ร.17)และผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 (ผบ.มทบ.38) ปัจจุบันเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 และจะก้าวสู่ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 ในวันที่ 1 ต.ค.2568 นี้ ด้วยเช่นกัน 

อ่านข่าว 

 “พล.ต.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์” นักรบลูกอีสาน ขึ้นแม่ทัพภาค 2 คนใหม่

จับตาศึก ไทย-เขมร รับมือสมรภูมิรบรอบ 2 "ตาพระยา-พระวิหาร"

"ทักษิณ" เตรียมบินต่างแดน "ป่วยทิพย์" เส้นตาย คดีชั้น14 รพ.ตร.