วันนี้ (7 ก.ย.2568) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รายงานความคืบหน้าคดีพิเศษเกี่ยวกับข้อหาอั้งยี่และฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว. โดยคณะพนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า พยานบางส่วนให้การเป็นประโยชน์และยอมรับว่าตนได้รับเงินจากกลุ่มบุคคลเพื่อสมัครเป็น สว. โดยมีจุดประสงค์เพื่อลงคะแนนให้บุคคลที่ถูกวางตัวไว้ล่วงหน้า แทนการลงคะแนนให้ตนเอง ซึ่งมีลักษณะเป็น "โหวตเตอร์พลีชีพ"
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งดีเอสไอได้ออกหมายเรียกพยาน 24 คน พบว่าไม่มีพยานคนใดให้ความร่วมมือหรือเข้าพบพนักงานสอบสวน ดีเอสไอจึงเตรียมส่งทีมพนักงานสอบสวนลงพื้นที่เพื่อติดตามสอบปากคำด้วยตนเอง และหากพยานยังคงเพิกเฉยต่อหมายเรียก อาจถูกดำเนินคดีในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
คณะพนักงานสอบสวนระบุว่า การสืบสวนพบเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกว่า 1,200 คน ในพื้นที่ 45 จังหวัด ซึ่งมีพฤติกรรมสมัครเป็น สว. แต่ลงคะแนนสนับสนุนบุคคลที่ถูกจัดตั้งไว้ ปัจจุบันได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 90 คน และอยู่ระหว่างออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีกเกือบ 500 คน โดยตั้งเป้าจะสอบปากคำพยานทั้งหมดให้ครบภายในเดือน ก.ย.2568
ดีเอสไอยังย้ำว่า แม้สถานการณ์ทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลง แต่การดำเนินคดีจะยึดมั่นในพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง โดยไม่ยอมรับแรงกดดันใด ๆ หากพบผู้กระทำผิดที่มีหลักฐานชัดเจน จะสามารถส่งสำนวนฟ้องต่ออัยการคดีพิเศษได้ทันที เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
อ่านข่าวอื่น :
นักวิชาการแนะ ไทย-กัมพูชา ควรฟื้นสัมพันธ์ผ่าน "การค้าชายแดน"
"อนุทิน" รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ คนที่ 32
แท็กที่เกี่ยวข้อง: