ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดทางรัฐบาลเฉพาะกิจ? จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

การเมือง
14:52
99
เปิดทางรัฐบาลเฉพาะกิจ? จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

แต่คำวินิจฉัยที่ชี้ว่า "รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง" กำลังเป็นการตีความกันอีกครั้งว่า "ปิดทาง" การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.หรือไม่ 

ประเมินจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต้องทำประชามติ ในการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวม 3 ครั้ง ไม่ได้ทำให้ยืดเยื้อ หรือต้องรวบรัดเร่งรีบ สำหรับรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ที่จะต้องเดินหน้าตาม MOA ที่ทำไว้กับพรรคประชาชน คือ 4 เดือนยุบสภา และ จัดทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญพร้อมเลือกตั้งทั่วไป

โดยเฉพาะ สส.พรรคภูมิใจไทย ควรเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 หรือหมวด 15 ต่อรัฐสภาภายในสัปดาห์หน้า และที่ประชุมรัฐสภาจะได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างแก้ฯ มาตรา 256 ภายในเดือน ก.ย.นี้

นั่นเพราะกระบวนการแก้หลักเกณฑ์และวิธีการแก้รัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 256 ไม่ได้กำหนดไว้แต่เพียงว่า วาระแรกรับหลักการด้วยเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 346 เสียง และในจำนวนนี้ต้องมี สว.ไม่น้อยกว่า1 ใน 3 หรือ 67 คนแล้ว

ยังต้องใช้เวลาร่วมกันพิจารณาในรายละเอียดของ "ร่างแก้" อีก เร็วสุด 30 วัน แต่ถ้าช้าสุดก็ไม่ควรเกิน 60 วัน เพราะอาจกินเวลาไปแล้ว 2 เดือน หลังเข้าพิจารณาวาระ 2 ต้องทิ้ง "รอ" ไว้อีก 15 วัน เพื่อไตร่ตรอง-ทบทวน-ดูช่องโหว่ช่องว่าง

ก่อนเปิดโหวตวาระ 3 ที่เต็มไปด้วยเงื่อนไข เสียงเห็นชอบต้อง "มากกว่ากึ่งหนึ่ง" ต้องมี สส.พรรครัฐบาล,พรรคฝ่ายค้าน,พรรคที่ไม่มีผู้แทนฯ เป็นประธานและรองประธานรวมอยู่ด้วย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุกพรรครวมกัน และเสียง สว.อีก 1 ใน 3

อาจไม่ยากเมื่อต้องใช้เสียง สส.ตาม MOA แต่ที่ยากคือผ่านแล้วต้องรออีก รอไว้ 15 วัน ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ให้มีผลบังคับใช้ และยังต้องเผื่อเวลาประกาศใช้อีกอาจกินเวลา 4 เดือนเต็มก็เป็นไปได้

เอาจริงๆ 4 เดือนนับจากกลางเดือน ก.ย. หรือหลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาก็ไม่มีเวลา เผื่อเหลือ เผื่อขาด เผื่อเกิดเหตุขัดข้องผิดพลาด ในกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่เอาว่า ณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคประชาชน  เข้าใจสภาพการณ์รัฐบาลเฉพาะกิจ ที่ยืดหยุ่นได้-แต่ไม่ยืดเยื้อ

นอกจาก ไทม์ไลน์ ที่นายกรัฐมนตรี "อนุทิน ชาญวีรกูล" จะหารือกับ หัวหน้าพรรคประชาชน "ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" แล้ว ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ชี้ว่า "รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง"

แม้ไม่ใช่การปิดทางการเลือกตั้ง สสร. แต่รัฐสภาหรือรัฐบาล ต่างก็ต้องหารือกัน เพื่อออกแบบกลไกและที่มาของ สสร. หากจะยังคงยึดตาม MOA ที่ตกลงต่อกันไว้ ว่าต้องมาจากการเลือกตั้ง จะเลือกตั้งแบบไหน-อย่างไร

โดยทางหนึ่ง..ตีความว่า มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน-ไม่ได้/แต่อีกทางหนึ่ง..ตีความว่า เลือกตั้งโดยประชาชนได้ แต่ร่างแล้ว ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา/ก่อนผ่านความเห็นชอบจากประชาชน

สืบเนื่องจากศาลฯ ชี้ว่า รัฐสภามีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติก่อน ถึงจะเดินหน้าตามหมวด 15 ของรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว

หรือหมายถึง ก่อนจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติ 3 ครั้ง และครั้งแรกกับครั้งที่ 2 สามารถรวมกันได้ คือถามว่า เห็นชอบ ที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และถามพ่วงไปถึงแนวทางและขั้นตอน หรือที่มา

และหลังจากทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว ก็ให้จัดทำประชามติครั้งที่สาม คือถามความเห็นชอบจากประชาชน เพื่อประกาศให้มีผลบังคับใช้

จะว่าไปคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ปิดทาง MOA ระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย เข้าข่ายเปิดทางให้มากกว่า จากนี้ไปขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย-รัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือน จะเปิดใจทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพรรคประชาชนหรือไม่ แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากถ้าจะจริงใจ

อ่านข่าว :

"นิกร" ชี้แก้ รธน.ประชาชนฉบับใหม่ แนะอิงเส้นทางฉบับปี 2540

"พท." ออกแถลงการณ์ เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ภูมิใจไทยตั้งทีมศึกษาทำประชามติแก้ รธน. "ไชยชนก" หัวหน้าคณะ