วันนี้ ( 14 ก.ย.2568) นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า หลังจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2568 เห็นชอบโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 เกษตรกรเป้าหมาย 0.861 ล้านครัวเรือน งบประมาณ 7,286.77 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69 เกษตรกรเป้าหมาย 4.63 ล้านครัวเรือน งบประมาณ 37,917.23 ล้านบาท ซึ่งจะมีการจ่ายเงินไร่ละ 1,000 บาท กำหนดไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาท ดังนั้นเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกมากกว่า 10 ไร่ จะได้สิทธิสูงสุด 10 ไร่

กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งความคืบหน้าการส่งข้อมูลเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ให้ ธ.ก.ส. ตามข้อมูล 12 ก.ย.ดังนี้ 1. การส่งข้อมูลตามโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังฯ ได้จัดส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. แล้วจำนวน 845,122 ครัวเรือน เมื่อ 29 ส.ค. 2568 ธ.ก.ส. ได้เริ่มทยอยจ่ายเงินตามรอบการโอนเงินแล้ว และในวันที่ 15 ก.ย.2568 จะส่งเพิ่มเติมอีก จำนวน 4,779 ครัวเรือน สำหรับข้อมูลคงเหลือเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องและดำเนินการอย่างรัดกุม ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปรังและตรวจเช็คสถานะแล้ว พบว่าไม่ได้รับเงินขอให้ตรวจสอบและติดตามแก้ไขก่อนสิ้นสุดโครงการ 30 ก.ย.
2. การส่งข้อมูลตามโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีฯ 2568/69 ได้จัดส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. แล้ว จำนวน 1,820,015 ครัวเรือน เมื่อ 29 ส.ค. 2568 ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้เริ่มทยอยจ่ายเงินตามรอบการโอนเงินแล้ว และในวันที่ 15 ก.ย.จะส่งเพิ่มเติมอีกประมาณ 1.57 ล้านครัวเรือน รวมแล้วกว่า 3.39 ล้านครัวเรือน

และ 3. เกษตรกรที่ยังคงเหลือตามเป้าหมายโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีฯ 2568/69 ประมาณ 1.7 ล้านครัวเรือน อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบตามคู่มือการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2568/2569 เช่น การปิดประกาศ การประชาคม โดยเกษตรกรจะต้องลงลายมือชื่อรับรองการประชาคมทุกครั้ง เพื่อรับรองข้อมูลของตนเอง ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ กรมฯ จะตรวจสอบความถูกต้อง และตัดยอดตามรอบการรวบรวมข้อมูล (เดือนละ 2 ครั้ง) จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ
ทั้งนี้ ช่วงการเพาะปลูกข้าวนาปี 2568/69 ของไทย จะอยู่ในช่วงเดือนเม.ย. – ต.ค.2568 ที่ซึ่งแตกต่างกันตามสภาพพื้นที่ และสภาพภูมิอากาศ และสำหรับภาคใต้ 9 จังหวัด ช่วงการเพาะปลูกข้าวนาปี 2568/69 ของไทย จะอยู่ในช่วงเดือนมิ.ย. 2568 – ก.พ.2569 ดังนั้น ข้อมูลเกษตรกรจะทยอยส่งให้ ธ.ก.ส. จนถึงเดือนส.ค. 2569 ตามรอบการเพาะปลูกของเกษตรกร ด้วยเหตุผลข้างต้น จากนั้น ธ.ก.ส. จะดำเนินการตรวจสอบและโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกร จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ ในเดือนก.ย. 2569
สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด ช่วงการเพาะปลูกข้าวนาปี 2568/69 จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน 2568 - กุมภาพันธ์ 2569 เกษตรกรหลังจากการเพาะปลูก 15 - 60 วัน ให้สามารถดำเนินการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
ย้ำว่าเกษตรกรที่แจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว ให้ตรวจสอบและลงชื่อในแบบติดประกาศ หรือเข้าร่วมและลงชื่อในการประชาคม เนื่องจากเกษตรกรต้องรับรองข้อมูลของตนเอง หากไม่ลงลายมือชื่อ จะถือว่าไม่ผ่านการตรวจสอบและข้อมูลจะไม่ถูกส่งเข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้เกษตรกรสามารถตรวจสอบสถานะการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและสถานะการเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอที่แจ้งขึ้นทะเบียน แอปพลิเคชัน FARMBOOK เว็บไซต์ efarmer.doae.go.th และสำหรับตรวจสอบการโอนเงิน ของ ธ.ก.ส. เช็คได้ที่ เว็บไซต์ https://govtransfer.baac.or.th แอปพลิเคชัน BAAC Mobile และบริการ LINE Official BAAC Family ทั้งนี้ ขอให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง และโปรดมั่นใจว่า ไม่มีการตัดสิทธิ์โดยไม่เป็นธรรม
อ่านข่าว:
"ข้าวไทย" หืดจับ พณ.-เอกชน กระชับส่วนแบ่ง "ตลาดข้าว"ส่งออก
ผู้ส่งออกข้าว จี้รัฐ-แบงก์ชาติ แก้บาทแข็ง วาระเร่งด่วน ชี้กระทบแข่งขัน-ชาวนา
7 เดือนปี 68 ไทยส่งออกข้าว 4.30 ล้านตัน ดันยอดทั้งปีให้ได้ตามเป้า