เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2568 คลังสารสนเทศรัฐสภา โดยกลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เผยแพร่ประกาศของ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เกี่ยวกับแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งอนุญาตให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างหญิงของหน่วยงานภาครัฐ สามารถ ลาพักราชการเพื่อถือศีลและปฏิบัติธรรมได้
การลาปฏิบัติธรรมดังกล่าวกำหนดระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน ทั้งนี้ ไม่ถือเป็นวันลา และ ผู้ลายังคงได้รับเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ตามปกติ ตลอดระยะเวลาที่ลา
โดยจะต้องเข้าปฏิบัติธรรมในสำนักปฏิบัติธรรมที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้การรับรอง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 587 แห่งทั่วประเทศ อาทิ ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดยานนาวา วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดพิชยญาติการาม และวัดโสมนัสวิหาร
สามารถดูรายชื่อสถานปฏิบัติธรรมได้ ที่นี่
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ข้าราชการชาย จะสามารถลาพักราชการเพื่ออุปสมบทได้ตามพระราชกฤษฎีกา พ.ศ.2521 ได้เท่านั้น การประกาศครั้งนี้จึงนับเป็น การขยายสิทธิให้แก่ข้าราชการสตรี ให้สามารถใช้ช่วงเวลาแห่งการพัฒนาจิตใจและปฏิบัติธรรมได้โดยไม่เสียสิทธิด้านเงินเดือนและวันลา ถือเป็นครั้งแรกที่สิทธิดังกล่าวถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการ
เปิดระเบียบ ขรก.สตรี ลาปฏิบัติธรรม
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2550 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0506/ว 185 ลงวันที่ 17 ธั.ค.2550 อนุมัติให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐที่เป็นสตรี มีสิทธิไปถือศีลและปฏิบัติธรรม ณ สถานปฏิบัติธรรมที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครั้งหนึ่งตลอดอายุราชการ เป็นระยะเวลา 1-3 เดือน โดยไม่นับเป็นวันลา แต่ต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา (เช่น ปลัดกระทรวง อธิบดี หรือผู้ว่าราชการจังหวัด) ก่อน
มติ ครม. ระบุ 4 ข้อ ดังนี้
- สตรีข้าราชการพลเรือนมีสิทธิไปปฏิบัติธรรม 1-3 เดือน โดยไม่นับเป็นวันลา ต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชา
- หลักการนี้ใช้กับข้าราชการทหาร ตำรวจ พนักงานราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และลูกจ้างหน่วยงานรัฐที่เป็นสตรี
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นำหลักการนี้ไปปรับใช้กับสตรีข้าราชการและลูกจ้างของตน
- สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ ดำเนินการ และติดตามประเมินผลเพื่อรายงานครม.
แนวทางและขั้นตอนการปฏิบัติ
แนวทาง
- การอนุญาตให้สตรีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างไปปฏิบัติธรรม 1-3 เดือน โดยไม่นับเป็นวันลา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา ถือเป็นวันปฏิบัติราชการ ผู้ประสงค์ไปต้องยื่นขออนุญาตล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน หากมีเหตุจำเป็น ต้องชี้แจงเหตุผลให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา
- สถานปฏิบัติธรรมต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หมายถึงวัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด หรือสถานที่ฝึกปฏิบัติธรรมที่มีมาตรฐานด้านสถานที่ พระวิปัสสนาจารย์ หรือวิทยากร และการบริหารจัดการที่ดี
ขั้นตอนสำหรับข้าราชการสตรี
- ยื่นหนังสือขออนุญาตต่อผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงานต้นสังกัดล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน
- ตรวจสอบรายชื่อสำนักปฏิบัติธรรมที่รับรองโดยสำนักพุทธทาง www.onab.go.th
- ติดต่อขอใบสมัครที่กองพุทธศาสนศึกษา สำนักพุทธ (โทร. 02-441-4553, โทรสาร 02-441-4549) หรือสำนักพุทธจังหวัด หรือดาวน์โหลดจาก www.onab.go.th
- กรอกใบสมัครและส่งไปยังสำนักปฏิบัติธรรมที่ต้องการ
- เดินทางไปปฏิบัติธรรมตามกฎระเบียบของสำนักปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด
- รับวุฒิบัตรหรือหนังสือรับรองเมื่อจบการปฏิบัติธรรม เพื่อยื่นต่อหน่วยงานต้นสังกัดบันทึกในประวัติราชการ
- รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและบริจาคค่าบำรุงสถานที่ตามสมควร
หน้าที่หน่วยงาน
- ผู้บังคับบัญชา/หน่วยงานต้นสังกัด : พิจารณาอนุญาต รับวุฒิบัตรเพื่อบันทึกประวัติ และแจ้งสำนักพุทธ
- สำนักพุทธจังหวัด : คัดเลือกสำนักปฏิบัติธรรมที่มีมาตรฐาน เสนอให้สำนักพุทธรับรอง ประสานงานเตรียมความพร้อม และสนับสนุนเอกสารวิชาการ ร่วมติดตามประเมินผล
- สำนักปฏิบัติธรรม : รับใบสมัคร พิจารณารับผู้เข้าร่วมตามความพร้อม แจ้งกำหนดการ จัดทำทะเบียน และออกวุฒิบัตรเมื่อจบการปฏิบัติธรรม
อ่านข่าวอื่น :
ผวจ.สระแก้วไม่ไปประชุมกัมพูชา ยันชาวเขมรต้องออกจากชายแดนไทย
“ถนนทรุด” งานแรกซึ่งหน้านายกฯ เคลียร์ปมสางปัญหาใหญ่สไตล์วิศวกร