ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ถนนทรุด” งานแรกซึ่งหน้านายกฯ เคลียร์ปมสางปัญหาใหญ่สไตล์วิศวกร

สังคม
15:22
80
“ถนนทรุด” งานแรกซึ่งหน้านายกฯ เคลียร์ปมสางปัญหาใหญ่สไตล์วิศวกร

ยังไม่ทันได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีงานแรกต้องทำเพื่อพิสูจน์ฝีมือแล้ว เมื่อเกิดเหตุดินทรุดและถนนพังถล่ม หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ เมื่อวันก่อน (24 ก.ย.2568) วันที่ต้องนำ ครม.ชุดใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน

นายอนุทินลงพื้นที่เกิดเหตุถึง 2 ครั้ง ทั้งช่วงสายๆ และกลางดึก หลังประชุม ครม.นัดพิเศษเสร็จสิ้น และในฐานะที่จบปริญญาวิศกรรมศาสตร์จากต่างประเทศ คงทราบดีว่า เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงทั้งถนนและโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า เรื่องเร่งด่วนคือต้องลดความอันตรายให้ได้มากที่สุด

คำตอบเมื่อถูกสื่อถามว่า อะไรที่เห็นว่าจะแก้ไขยาก คือปริมาณดินที่ถล่มลงไป และการซ่อมแซมอุโมงค์ ที่อาจมีการยุบตัวเพิ่ม รวมทั้งเรื่องโครงสร้างที่เป็นส่วนประกอบของสายไฟฟ้า และความปลอดภัยของอาคารโดยรอบ

นายกฯ ยังได้สั่งการให้โยธาฯ และวิศกรผู้เชี่ยวชาญ ไปเร่งตรวจหาข้อเท็จจริงและสาเหตุที่เกิดขึ้น

คำอธิบายถึงสาเหตุ สอดคล้องกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ที่จบวิศวกรรมศาสตร์เช่นกัน จากจุฬาฯ ในระดับปริญญาตรี และไปจบปริญญาโทและปริญญาเอก ด้านวิศวกรรมโครงสร้างที่สหรัฐฯ จึงสื่อสารพูดภาษาเดียวกันกับนายกฯ ได้ง่ายและชัดเจน

โดยชี้แจงถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ว่า บริเวณเกิดเหตุ มีอุโมงค์รถไฟฟ้าสองเส้นแล่นทางสวนกัน ที่ความลึกประมาณ 30-35 เมตร และเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์กับสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นจุดอ่อน เมื่อเกิดความเสียหาย ดินจึงไหลเข้าไปในช่องว่างของสถานีรถไฟฟ้ากับอุโมงค์ ส่งผลให้ถนนทรุดตัว และส่งผลไปยังโครงสร้างส่วนอื่น เช่น เสาไฟฟ้า และท่อน้ำประปา ให้ได้รับความเสียหาย

ขณะที่ นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ระบุว่า เบื้องต้นพบว่า มีการเคลื่อนตัวของดินในชั้นอุโมงค์ล่าง คาดว่าเกิดจากน้ำใต้ดินและดินเคลื่อนตัว เกิดรอยต่อระหว่างอุโมงค์กับผนังสถานี จนดินเกิดการทรุดตัวลง และมีดินบางส่วนพร้อมกับน้ำ ไหลเข้าสู่สถานี

ล่าสุด ยืนยันในการแถลงข่าว (25 ก.ย.) คาดสาเหตุจากดินอ่อนตัว และท่อประปารั่ว ตอนนี้ได้เร่งถมกระสอบทราย ปิดปากอุโมงค์ หยุดการไหลของดินและน้ำใต้ดินเข้าสถานี เชื่อว่าจะคืนผิวจราจรได้ใน 2 สัปดาห์

สำหรับสถานีรถไฟฟ้าวชิรพยาบาล เป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ หรือสีม่วงใต้ เริ่มต้นจากเตาปูน ผ่านศรีย่าน และวชิรพยาบาล ไปสิ้นสุดสถานีครุใน ระยะทางประมาณ 23.6 กิโลเมตร

จุดที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของสัญญาที่ 1 ซึ่งเป็นงานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ มีระยะทาง 4.8 กิโลเมตร มูลค่า 19,430 ล้านบาท ผู้ชนะประมูล คือ CKST-PL JOINT VENTURE ร่วมทุนระหว่าง บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)

รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ได้ลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้าง ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 กำหนดแล้วเสร็จในราว 5 ปีครึ่ง กำหนดเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ในปี 2570

เรื่องการตรวจสอบถึงความบกพร่องผิดพลาด รวมถึงการต้องรับผิดชอบตามสัญญาในความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ นายกาจผจญ ผู้ว่าฯ รฟม.คนปัจจุบัน ต้องรับไปดำเนินการ และไล่เบี้ยกับทางบริษัทผู้ชนะประมูลก่อสร้าง รวมทั้งเฉพาะหน้าเร่งด่วน แก้ไขซ้อมแซมอาคารพื้นที่โดยรอบ แต่ก็ต้องทำตามหลักวิศวกรรมโครงสร้าง และคำนึงถึงความปลออดภัยโดยรวมทั้งหมด

ที่สำคัญ ถือเป็นกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นกับโครงการระดับเมกะโปรเจ็ก อย่างรถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล อยู่ในระหว่างดำเนินการหลายสาย ดังที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. โพสต์ข้อความมีนัยตักเตือนอยู่ในทีว่า “เสี่ยงถูกสูบทุกย่างก้าว” เพราะไม่ใช่เพียงแค่ถนนยุบ แต่คือ “ระบบใต้ดินล้มเหลว”

ถือเป็นเรื่องสำคัญและท้าทาย ไม่เพียงสำหรับนายชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม.ที่กำลังจะครบวาระในเดือนมิถุนายน ปี 2569 และแสดงท่าทีอยากจะไปต่อสมัยที่ 2 เท่านั้น แต่ยังจะรวมถึงนายอนุทิน นายกฯ 4 เดือน ตามเอ็มโอเอ ที่ทำไว้กับพรรคประชาชน ซึ่งต้องเตรียมพร้อมสำหรับสู้ศึกเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้าด้วย

หากทำงานแรกซึ่งหน้านี้ได้สำเร็จ มีผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการ บางทีอาจไม่เพียงเรียกเสียงชื่นชมศรัทธา ในฐานะผู้นำรัฐบาลคนใหม่เท่านั้น แต่ยังอาจรวมถึงคนกรุงเทพฯ อาจเปิดกว้างและให้โอกาสพรรคภูมิใจไทย ได้ปักธงแจ้งเกิด สส.ในกรุงเทพฯ บ้าง ดังที่ผู้บริหารพรรคตั้งเป้าไว้

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : "พิพัฒน์" เผย รถไฟฟ้าสาย "สีแดง-ม่วง" กลับไปใช้ราคาเดิม 1 ต.ค.นี้

เปิดคำแถลงนโยบาย "รัฐบาลอนุทิน" ยึดหลักบริหาร 3 ประการ ลุยคนละครึ่ง-ค้านกาสิโน

“บิ๊กเล็ก” ยันเลิก ศบ.ทก.ใช้ สมช.ทำหน้าที่แทน เดินหน้า 4 นโยบาย ให้จบใน 4 เดือน