ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ชาติตะวันตกคว่ำบาตร "อิหร่าน" ฟื้นมาตรการกดดันรอบใหม่

ต่างประเทศ
12:28
45
ชาติตะวันตกคว่ำบาตร "อิหร่าน" ฟื้นมาตรการกดดันรอบใหม่
ชาติตะวันตกกลับมากดดัน "อิหร่าน" อีกครั้ง ซึ่งประเทศมหาอำนาจอาจได้รับผลกระทบทั้งเรื่องพลังงานและอาวุธ แต่ภาพรวมเรื่องเศรษฐกิจผู้ได้รับผลกระทบคือประชาชน

"อิหร่าน" เริ่มกลับมาตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรโดยนานาชาติอีกครั้ง เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีเต็ม นับตั้งแต่การบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์เมื่อปี 2015 สมัยรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา

การกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านครั้งนี้ เกิดขึ้นตามหลังความล้มเหลวในการปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 และ 3 ชาติยุโรป หรือ E3 ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและเยอรมนี ซึ่งกล่าวหาอิหร่านว่าละเมิดข้อตกลง ด้วยการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสูงถึงร้อยละ 60 จากเพดานที่กำหนดไว้เพียงร้อยละ 3.5 จึงยื่นข้อเสนอให้โอกาสอิหร่านแก้ตัว เพื่อให้พ้นจากการคว่ำบาตรรอบนี้ นั่นคือการกลับมาเจรจาทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ อีกครั้ง

การยอมเปิดทางให้ผู้ตรวจสอบนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ (UN) เข้าพื้นที่สถานที่พัฒนานิวเคลียร์และชี้แจงเกี่ยวกับยูเรเนียมเสริมสมรรถนะระดับสูงที่ UN ชี้ว่าอิหร่านมีอยู่ในครอบครอง ซึ่งอิหร่านปฏิเสธและไม่ยอมให้ผู้ตรวจการเข้าพื้นที่นับตั้งแต่ถูกสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดโจมตีเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

กลไก Snapback หรือการกลับมารื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรอีกครั้ง ส่งผลให้จากนี้อิหร่านจะต้องเผชิญมาตรการห้ามซื้อขาย สนับสนุนหรือเคลื่อนย้ายอาวุธและยุทโธปกรณ์ต่างๆ การอายัดทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์และโครงการอาวุธ รวมถึงการห้ามคนกลุ่มนี้เดินทางและยังห้ามทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ อาวุธ ครอบคลุมถึงการขัดขวางการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ผ่านการห้ามไม่ให้ประกันการเดินเรือครอบคลุมเรือที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านด้วย

จีนกับรัสเซียอาจจะได้รับผลกระทบ หากต้องปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ โดยจีนคือผู้นำเข้าน้ำมันรายหลักจากอิหร่าน อย่างปี 2025 ซื้อน้ำมันอิหร่านไปแล้วถึงร้อยละ 90 ของที่ผลิตได้ เพราะถูกกว่าราคาตลาดและช่วยประหยัดงบประมาณ การซื้อน้ำมันดิบของจีนได้มาก โดย 6 เดือนแรกของปี 2025 คาดว่าจีนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านวันละ 1.38 ล้านบาร์เรล ไม่ต่างจากปี 2024 ที่มียอดอยู่ที่ประมาณ 1.48 ล้านบาร์เรลต่อวัน

เช่นเดียวกับรัสเซียที่พึ่งพิงอาวุธอิหร่าน โดยระยะหลังๆ มานี้รัสเซียอาศัยเทคโนโลยีโดรนของอิหร่านช่วยเติมเต็มยุทธการด่านหน้าในยูเครน รวมถึงขีปนาวุธและจรวดต่างๆ ท่ามกลางการยกระดับความร่วมมือทางการทหารอย่างต่อเนื่อง แต่จริงๆ แล้วประชาชนชาวอิหร่านคือผู้ที่อาจได้รับผลกระทบมากที่สุด

สำหรับพัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อในอิหร่าน เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่เผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากโครงการพัฒนานิวเคลียร์ รวมถึงการหนุนหลังการก่อการร้ายและปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่หลังข้อตกลงนิวเคลียร์มีผลบังคับใช้ในปี 2016 อัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ดีดกลับขึ้นไปอีกครั้งเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯ จากข้อตกลงนี้ระหว่างนั่งเก้าอี้ผู้นำสมัยแรกในปี 2018 และด้วยเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทั่วโลก เช่น ช่วงหลังยุคโควิด-19 สถานการณ์เงินเฟ้อในอิหร่านจึงเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา

ปฏิกิริยาของชาวอิหร่านมองว่างานนี้จะย่ำแย่ ประชาชนคนทั่วไปจะใช้ชีวิตแบบเดิมไม่ได้อีกเมื่อราคาข้าวของยิ่งแพงขึ้น เงินเดือนที่รัฐจ่ายไม่พอ คนรุ่นใหม่มีโอกาสทางการศึกษาน้อยลง ต่อไปการส่งออกจะทำไม่ได้ การนำเข้าสินค้ายากขึ้นและอีกหลายๆ ปัญหาที่จะตามมา

ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI ในอิหร่านในปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 2835 เพิ่มขึ้น 28 เท่าตัว จากเมื่อปี 2010 พร้อมค่าครองชีพที่พุ่งสูงจากอัตราเงินเฟ้อ เช่นเดียวกับอัตราการว่างงานที่แปรผันตามสภาพเศรษฐกิจ โดยในปี 2024 อัตราการว่างงานในอิหร่านอยู่ที่ร้อยละ 16 แต่หากดูเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่แล้วจะสูงถึงร้อยละ 25-30 นอกจากนี้ด้วยเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ อิหร่านยังมีปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐาน เกิดวิกฤตการขาดแคลนน้ำและไฟในหลายเมือง จนต้องตัดน้ำตัดไฟ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชน

หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารัฐบาลไม่ได้สนใจความเป็นอยู่ของผู้คนสักเท่าไร ไม่ว่าปัญหาปากท้องจะเลวร้ายลงไปแค่ไหน จำนวนคนที่อยู่ใต้เส้นความยากจนของอิหร่านเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2018 จากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อและปัญหาที่ตามมาต่างๆ จนปัจจุบันเกือบ 1 ใน 3 ของประชากร 90 ล้านคน ใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะยากจน

สถานการณ์ทั้งหมดอาจจุดกระแสความไม่พอใจ หลังจากคนเดือดร้อนเพิ่มขึ้นจากมาตรการคว่ำบาตรระลอกนี้ จนนำมาซึ่งการต่อต้านผู้มีอำนาจปกครองในอิหร่านมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะยากจนข้นแค้นแล้ว คนอิหร่านยังต้องหวั่นวิตกว่าจะถูกอิสราเอลเล่นงาน หรือรัฐบาลจะนำพาประเทศไปสู่การเผชิญหน้ากับคู่ปรับอื่นๆ อีกหรือไม่

เมื่อมาตรการคว่ำบาตรเกิดขึ้นในเวลาที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ อาจเป็นความท้าทายที่รอผู้นำอิหร่านว่าจะเลือกเดินไปในทิศทางไหน จะแข็งกร้าวมากขึ้นแล้วเสี่ยงเจอไม้แข็ง หรือจะเล่นตามเกมไปก่อน ขณะที่นานาชาติไม่ได้ปิดช่องเจรจา เพราะยังเปรยไว้ด้วยว่าการฟื้นมาตรการคว่ำบาตรรอบนี้ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของวิธีทางการทูต

อ่านข่าว

สอบเหตุยิง-ไฟไหม้โบสถ์ในมิชิแกน บาดเจ็บ 8 คน มือปืนเสียชีวิต

เวียดนามอพยพหนี "บัวลอย" กว่า 28,000 คน ไทยฝนหนักถึงสิ้นเดือน

"อินเดีย" เหยียบกันตายเกือบ 40 คน กลางงานหาเสียงเลือกตั้ง