ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ภคมน” จวกรัฐบาลหยุดดันทุรัง “แลนด์บริดจ์” ไม่คุ้มทุน-ไร้โอกาสทางเศรษฐกิจ

การเมือง
10:23
139
“ภคมน” จวกรัฐบาลหยุดดันทุรัง “แลนด์บริดจ์” ไม่คุ้มทุน-ไร้โอกาสทางเศรษฐกิจ
อ่านให้ฟัง
06:55อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“ภคมน” ซัดรัฐบาล ดันทุรังเข็น “โครงการแลนด์บริดจ์” ทั้งที่ถูกทักท้วงมาตลอด เหตุไม่คุ้มทุน มองไม่ใช่โอกาสทางเศรษฐกิจ แต่เป็นโอกาสใช้หาเสียงในพื้นที่ภาคใต้

วันที่ 29 ก.ย.2568 เวลา 23.55 น. ในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคประชาชน อภิปรายว่า ตนแปลกใจที่มีเวลาแค่ 4 เดือน แต่รัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยได้หยิบยกนโยบายอภิมหาโปรเจค อย่างแลนบริดจ์ ขึ้นมา แม้จะไม่อยู่ในคำแถลงนโยบายเล่มนี้ แต่ข่าวออกไปทุกช่องประชาชนรับรู้ทั้งประเทศ

โดยโครงการแลนด์บริดจ์ คือการสร้างทางลัด เพื่อเชื่อมต่อท่าเรือสองฝั่งทะเล นั่นคือท่าเรืออันดามันที่ จ.ระนอง ซึ่งเชื่อมต่อมหาสมุทรอินเดีย และท่าเรืออ่าวไทยที่ จ.ชุมพร ซึ่งเชื่อมต่อมหาสมุทรแปซิฟิก ปกติเรือขนส่งสินค้าจากนานาประเทศที่เดินทางระหว่างมหาสมุทรอินเดีย กับมหาสมุทรแปซิฟิก จะต้องแล่นเรือ อ้อมผ่านประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยใช้เส้นทางช่องแคบมะละกา ซึ่งค่อนข้างแออัด รัฐไทยผุดไอเดียทำทางลัดโดยหวังว่า เรือจะได้ไม่ต้องอ้อมช่องแคบมะละกา ประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุน แต่ไม่ง่ายแบบนั้น เพราะต้องขึ้นมาบนบกก่อน

น.ส.ภคมน กล่าวว่า ดังนั้นผู้ประกอบการเดินเรือ ต้องมีเรืออย่างน้อยสองลำ จากปกติบริษัทขนส่งสินค้าใช้เรือแล่นผ่านช่องแคบมะละกาได้เลย แต่ถ้าใช้แลนบริดจ์ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม เช่นค่าขนของขึ้น ขนของลง ค่าเดินทางจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งนึงระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร แลนบริดจ์จึงถูกทักท้วงมาตลอดว่า ไม่ควรทำ เพราะไม่รู้ว่าใครจะมาใช้ แต่รัฐบาลที่ผ่านมาจนถึงรัฐบาลนี้ก็ยังไม่ยอมตัดใจที่จะผลักดันโครงการ

น.ส.ภคมน กล่าวว่า โครงการแลนบริดจ์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ร่างพระราชบัญญัติระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ พ.ร.บ.SEC ที่ตามมาด้วยการทำให้เกิดการรวมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และการสร้างข้อยกเว้นทางกฎหมาย ให้สิทธิพิเศษเหนือที่ดินแก่กลุ่มทุน และการเปิดโอกาสให้ต่างชาติเช่าที่ดินชั่วลูกชั่วหลาน

ภายหลังจากรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor: SEC) เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย ในขณะนั้น ได้สั่งให้ สนข. ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการแลนด์บริดจ์ที่จะเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือฝั่งชุมพรและระนอง

น.ส.ภคมน กล่าวว่า แต่ตลอดอายุของรัฐบาลที่ผ่านมา โครงการแลนบริดจ์ถูกตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา หลายๆ คำถามทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบ แต่ยังจะฉายภาพว่า โครงการแลนบริดจ์ คือโอกาสที่ประเทศไทยจะเติบโตทางเศรษฐกิจ

ดิฉันมองว่า ไม่ได้เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่เป็นโอกาสให้พวกท่านเอาหาเสียง สร้างคะแนนนิยมกับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ พรรคการเมืองไม่ผิดหากสร้างจินตนาการใหม่ ผ่านนโยบายที่ชวนฝัน แต่มันผิดตรงที่รู้อยู่แล้วว่า ไม่คุ้มค่า ทั้งรายงานของ สนข.และรายงานของกรรมาธิการวิสามัญมีการตกแต่งตัวเลขเกินจริง

นอกจากนี้นักวิชาการประมงประมาณตัวเลขว่า หากทำแลนบริดจ์จะเกิดการสูญเสียรายได้จากการทำประมงไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี 2 ปี ที่ผ่านมา เราเสียเวลามามาก ที่รัฐบาลดันทุรังทุ่มงบประมาณไปโรดโชว์ขายโครงการแลนบริดจ์มาหลายประเทศ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเลขความคุ้มค่าของโครงการนี้เท่าไรกันแน่ สุดท้ายผลที่ออกมาไม่มีแม้กระทั่งรายชื่อนักลงทุนที่มีแนวโน้มจะลงทุนจริง ๆ ด้วยซ้ำ

น.ส.ภคมน กล่าววว่า 4 เดือนหลังจากนี้ หากยืนยันเดินหน้าต่อก็หานักลงทุนมาสร้างแลนบริดจ์ไม่ได้ เพราะนักลงทุนโปรเจคใหญ่ขนาดนี้ ไม่ได้เชื่อแค่รายงานของรัฐบาลไทย ต้องศึกษาเองด้วย และหากผลออกมาชัดว่าไม่คุ้มทั้งด้านการเงิน และด้านสิ่งแวดล้อม เราต้องไม่ลืมว่าพื้นที่ของแลนบริดจ์ คือพื้นที่ของมรดกโลก 6 แห่ง ถ้าสร้างแลนบริดจ์ จะเกิดความเสี่ยงมหาศาล ที่ความอุดมสมบูรณ์ของสถานที่เหล่านี้ถูกทำลาย

เราเสียเวลากับเรื่องแลนด์บริดจ์ และคลองไทยมานาน จนภาคใต้เสียโอกาสการพัฒนา เพราะรอดูว่าพวกท่านจะเอายังไงกับแลนบริดจ์ รอจนโครงการพัฒนาภาคใต้อื่น ๆ ที่เขาต่อคิวรออยู่ต้องหยุดชะงักไปแทนที่จะเดินหน้าพัฒนาท่าเรือระนองที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น ขุดลอกร่องน้ำให้ลึกขึ้น ปรับผังเมืองให้ จ.ระนอง เอื้อต่อการค้าระหว่างประเทศ ยกระดับให้เป็นประตูการค้าทางทะเลฝั่งอันดามันสู่เมียนมาและเอเชียใต้

รมว.คมนาคม ตั้งเป้าจะได้ สส.ภาคใต้ 30 คน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากคิดว่าจะชนะในพื้นที่ภาคใต้ เพราะนโยบายแลนบริดจ์ คงคิดง่ายไป คิดแค่ว่าจะชนะใจประชาชนได้ ด้วยการพูดถึงโครงการขนาดใหญ่ เม็ดเงินมหาศาลไว้ก่อน คนใต้บ้านเขาเรียกตั้งท่าซะหรอย แต่เอาเข้าจริงไม่มีอะไร

ภาคใต้ต้องการของจริง นโยบายการพัฒนาที่เป็นจริง คุ้มค่า ยกระดับคุณภาพชีวิตได้จริง ๆ ตนเชื่อว่าประชาชนจับตาอยู่ อีก 4 เดือนข้างหน้า ประชาชนจะพิจารณาเลือกนักการเมืองที่เห็นผลประโยชน์ของพวกเขามากกว่าเลือก นักเลือกตั้งที่วันๆ พูดแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง

อ่านข่าว : อนาคต “แม่สาย” กับแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ยั่งยืน

กทม.ดำเนินคดี 3 วัยรุ่น พ่นสีทับงานศิลปะบนกำแพง

กัมพูชายันไม่มีคอลเซนเตอร์ แต่หลักฐานไทยชี้ 59 จุดยังลอยนวล