วันนี้ (30 ก.ย.2568) นายชวน หลีกภัย สส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายนโยบายรัฐบาลในหลายประเด็น เช่น เรื่องสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วมีความชัดเจนในเรื่องของการสนับสนุนสถานบันเทิงครบวงจร ส่วนรัฐบาลชุดนี้ต่อต้านนโยบายนี้อย่างชัดเจน
ส่วนนโยบายที่น่าสนับสนุนคือเรื่องความมั่นคง การแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา และปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมาพูดเรื่องนี้มาตลอด เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง
นายชวน กล่าวว่า ตนเองเคยติงรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ไม่มีการระบุถึงนโยบายแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เขียนไว้เพียง 1 บรรทัด โดยมองว่าความเสียหายต่อชีวิตของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับรัฐบาลนายอนุทินก็ยังเขียนถึงเรื่องการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไว้ไม่ชัดเจนนัก จึงอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพราะนายกรัฐมนตรีอาจไม่ลึกซึ้งในเรื่องนี้เท่ากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เป็นทหารมาก่อน
ทั้งนี้ มองว่าควรจะให้ความสำคัญเรื่องของหลักนิติธรรม และยินดีสนับสนุนนโยบายรัฐบาลเรื่องการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ภาคปฏิบัติจะต้องดำเนินการให้เกิดความชัดเจน และต้องไม่มีการเข้าไปแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
นายชวน มองว่า แม้รัฐบาลมีอายุ 4 เดือน ก่อนยุบสภา แต่มีความประสงค์จะว่างอนาคตประเทศ ดังนั้นจึงต้องทำเรื่องการเลือกตั้งให้โปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต เพื่อจะได้นักการเมืองและรัฐบาลที่สุจริต เพราะเงื่อนไขของบ้านเมืองเรื่องหนึ่งคือปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน
เวลา 4 เดือนอาจไม่มากนัก แต่ก็สามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศได้มาก ถือเป็นเวลาที่มีค่า จึงต้องเริ่มด้วยการสร้างพื้นฐานประเทศให้สุจริตตามข้อจำกัดของเงื่อนเวลา ผ่านการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น พร้อมทั้งฝาก กกต. ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง อย่าเป็นเครื่องมือของนักการเมือง
ทั้งนี้ ขอยินดีกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมา 2 ปีกว่า มีนายกรัฐมนตรี 3 คนความคิดความเห็นแตกต่างกัน จึงเป็นการบ้านให้รัฐบาลชุดนี้ ที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามที่ได้ถวายสัตย์ฯ ไว้ เพราะใครก็ตามที่ไม่เคารพสิ่งเหล่านี้ บุคคลผู้นั้นก็จะมีอันเป็นไป
นายชวน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีถือเป็นหนึ่งในกลุ่มคนรวย จะมีโอกาสพิสูจน์ว่าคนรวยที่ไม่โกงก็มี เพราะนักการเมืองต้องดูแลงบประมาณมหาศาล ทำให้ประชาชนคาดหวัง แต่ที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคนรวยหรือคนจน ไม่ใช่สิ่งที่จะชี้วัดว่าจะไม่โกง
อ่านข่าว : "เอกนิติ" เผย ครม.ยังไม่พิจารณา "โครงการคนละครึ่ง" วันนี้
"อนุทิน" มองควรยกเลิก MOU กัมพูชา หากไทยไม่ได้ประโยชน์
แท็กที่เกี่ยวข้อง: