การประกาศเดินหน้า สลากเพื่อการออม ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่นำเอาความชื่นชอบในการเสี่ยงโชคของคนไทยมาจูงใจให้คนออมเงิน ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ถูกรางวัล ก็ยังได้เงินออมบางส่วน เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกไปเปรียบเทียบกับนโยบายหวยเกษียณของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่ทั้งรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง และปลัดกระทรวงการคลัง ย้ำว่าเป็นคนละส่วนกัน ขณะที่ นักวิชาการมองว่า แม้จะเป็นนโยบายที่ใกล้เคียงกัน แต่อย่างน้อยประชาชนก็มีตัวเลือกในการออมเพิ่มขึ้น
แนวคิด สลากเพื่อการออม รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ระบุว่าเป็นหนึ่งในกลไกส่งเสริมการออมระยะยาว คล้ายกับการ ซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF แต่จะเป็นการออม ผ่านการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบดิจิทัล หรือ L6 ในแอปฯ เป๋าตัง แม้ไม่ถูกรางวัล จะกันเงินบางส่วน ไปสะสมเป็นเงินออมให้กับผู้ซื้อสลาก

ขณะที่ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด แต่จะไม่พิมพ์สลากเพิ่ม ไม่มีผลย้อนหลัง กับงวดที่ผ่านๆ มา และสัดส่วนเงินออมที่จะคืนให้ผู้ซื้อสลาก อาจดึงเงินจากค่าบริหารจัดการ สัดส่วน 17% และจะต้องเร่งผลักดันโครงการนี้ให้ทันภายใน 4 เดือน
สัดส่วนเงินออมที่ผู้ซื้อสลากจะได้คืน ถ้าดูจากที่เราซื้อสลาก ในราคา 80 บาท 60% ของที่ซื้อสลาก จะถูกกันไว้เป็นเงินรางวัล อีก 23% นำส่งเข้ารัฐ จะเหลือ อีก 17% ที่ปลัดกระทรวงการคลังบอก แต่ ใน 17% ยังแบ่งเป็น ส่วนลดให้กับผู้แทนจำหน่าย ซึ่งถ้าไปดึงส่วนนี้ ก็อาจกระทบกับผู้ค้า อีกส่วนเป็นค่าบริหารจัดการของสำนักงาน และค่าบริหารจัดการของ สมาคม องค์กรต่างๆ รวมส่วนนี้ ถ้าดึงมาเป็นเงินออมได้ สูงสุดอาจอยู่ที่ ประมาณ 13.60 สตางค์ ต่อการซื้อสลาก 1 ใบ
และถ้าเปรียบเทียบ ระหว่าง "สลากเพื่อการออม" กับ "หวยเกษียณ" เป้าหมายทั้งสองนโยบายก็เพื่อการออมเหมือนกัน แต่ ในรายละเอียด มีหลายจุดที่ต่างกัน สลากเพื่อการออม ซื้อผ่าน สลากฯ L6 บนแอปฯ "เป๋าตัง" ใบละ 80 บาท ผู้ซื้อสามารถเลือกเลขสลากฯ ออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง

ส่วนหวยเกษียณ เป็น "หวยขูดดิจิทัล" เป็นการสุ่มตัวเลข จำหน่ายผ่านแอปฯ กอช. และพันธมิตร โดยประชาชนสามารถซื้อได้ทุกวัน ใบละ 50 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 3,000 บาทต่อคน และออกรางวัล ทุกวันศุกร์
ส่วนการสะสมเป็นเงินออม หากไม่ถูกรางวัล สลากเพื่อการออม จะนำไปสะสมแค่บางส่วน ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณา ส่วนหวยเกษียณ หากไม่ถูกรางวัล เงินที่ซื้อสลาก 50 บาท จะถูกนำไปสะสม 100 %
มีความเห็นจากนักวิชาการ ทีดีอาร์ไอ ที่มองว่า ทั้งสองรูปแบบ แม้จะใกล้เคียงกัน กลุ่มเป้าหมายก็อาจทับซ้อนกันบ้าง โดยเฉพาะคนชอบเสี่ยงโชค แต่ถ้ามองโจทย์ใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาการเข้าสู่สังคมสูงวัย การออกผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการออม ที่มีความหลากหลาย เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับประชาชนเข้าสู่การออมมากขึ้น แม้สัดส่วนเงินที่ได้รับคืนจะไม่มาก แต่ระยะยาว ก็อาจช่วยลดภาระรายจ่ายงบประมาณที่รัฐต้องอุดหนุนดูแลผู้สูงอายุให้ลดลงได้

แต่ก็มีความเห็นจาก นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ผลักดันหวยเกษียณ ที่ระบุว่า แนวคิดสลากเพื่อการออม รัฐบาลเพื่อไทยก็เคยคิดจะทำ แต่จากการประเมินแล้ว พบว่าเป็นโครงการที่ประสิทธิภาพต่ำลง หลังคำนวณสัดส่วนเงินออม เทียบกับ หวยเกษียณ จึงเลือกแก้กฎหมาย กอช. เพื่อออกหวยเกษียณแทน และอยากให้ทำโครงการนี้ต่อ เพื่อไม่ให้ประชาชนเสียโอกาส
แต่ก็มีคำยืนยัน จากกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ที่ย้ำว่า สลากเพื่อการออมจะไม่กระทบการเดินหน้าโครงการหวยเกษียณ และคาดว่าจะเริ่มจำหน่าย หวยเกษียณ ช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับ ไทม์ไลน์ 4 เดือน ที่รัฐบาลปัจจุบัน ประกาศจะเดินหน้าสลากเพื่อการออมเช่นกัน อาจต้องรอดูในวันที่สลากทั้งสองรูปแบบออกมา จะจูงใจให้คนไทยที่ชอบเสี่ยงโชคหันมาออมเพิ่มขึ้นหรือไม่
อ่านข่าว :
วุฒิสภา ไฟเขียว "สลาก กอช." หรือ "หวยเกษียณ"
ปรับราคาน้ำมันดีเซล-เบนซิน ลดลง 50 สตางค์/ลิตร มีผล 4 ต.ค.นี้
ทุเรียนสดแชมป์ ใช้สิทธิ์ FTA พณ.ดันผู้ประกอบการใช้สิทธิส่งออก