"ประหารชีวิต และ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกตลอดชีวิต" คือ คำพิพากษาของศาลชั้นต้น ที่ตัดสินความผิด ของนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือ "จ่าเอ็ม" อดีตนาวิกโยธิน มือปืนที่รับงานยิง นายลิม กิมยา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกัมพูชา ขณะมาทำธุระในประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา ย่านถนนข้าวสาร

อ่านข่าว : ศาลตัดสินประหาร “จ่าเอ็ม” มือปืนยิง “ลิม กิมยา” ฝ่ายค้านชาวกัมพูชา
ตำรวจเปิดเผยผลการสอบสวนเครือข่ายที่ร่วมก่อเหตุมีผู้ร่วมขบวนการหลายคน นายลิมกิมยาพร้อมภรรยา ถูกติดตามตั้งแต่อยู่ที่ประเทศกัมพูชา ต่อเนื่องมาจนถึงการขึ้นรถบัสมาในคันเดียวกันจาก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนมาถึงตรงข้ามวัดบวร ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหาคร ซึ่งเป็นจุดยิง นายพิช กิมสริน คนชี้เป้าจึงส่งสัญญาณให้นายเอกลักษณ์ เข้าประกบยิงในระยะประชิดตัว
คดีนี้ผ่านมากว่า 10 เดือน ที่ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาแต่ผู้ร่วมขบวนการในสำนวนตำรวจคือ นายลี รัตนรัศมี มีชื่อไทยว่า นายสมหวัง บำรุงกิจ ที่ถูกระบุเป็นผู้จ้างวาน และนายพิช กิมสริน ยังไม่ถูกจับตัวแต่ถูกออกหมายจับเป็นหมายแดงของตำรวจสากล ซึ่งทางด้านครอบครัวนายกิมลิมยายังคาใจกับการติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี
หากตรวจสอบเบื้องหลังของนายลีรัตนรัศมี หรือนายสมหวัง บำรุงกิจ พบว่าสื่อต่างชาติเคยให้ข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับคนใกล้ชิด นายฮุนเซน ตามรายงานแม้ในระยะแรกนายลี รัตนรัศมี จะมีทัศนคติทางการเมืองอยู่คนละฝั่งกับฮุนเซน แต่ภายหลัง เปลี่ยนใจ

นายลี รัตนรัศมี ระยะหนึ่งหลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ถือบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย หรือ บัตรชมพู ในชื่อ สมหวัง บำรุงกิจ เคยทำงานเป็น พนักงาน รปภ. จากลักษณะเป็นคนกว้างขวางสามารถเปิดบริษัทร่วมกับคนไทย จัดหาคนทำมาทำงานใน จ.ชลบุรี และที่นี่เขาได้รู้จัก "จ่าเอ็ม" ส่วนจำเลยอีกคน คือนายพิช กิมสริน มีข้อมูลว่าเป็นคนในครอบครัวนักการเมืองในกัมพูชา ระดับทายาทของผู้ว่ากรุงพนมเปญทำให้ปมการสั่งสังหารนายลิม ยังเป็นปมเห็นต่างทางการเมือง

ศาลตัดสินประหาร "จ่าเอ็ม" มือปืนยิง "ลิม กิมยา"
วันที่ 3 ต.ค.2568 นางแอนาลิม ภรรยาของนายลิมกิมยา ไม่ได้เดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษาของศาลเนื่องจากติดภารกิจอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ทนายความโจทก์ร่วมบอกว่านอกจากคำพิพากษาในคดีอาญาในทางแพ่ง ศาลยังได้สั่งให้ จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้ภรรยานายลิมกิมยาเป็นค่าอุปการะ เนื่องจากสามีเสียชีวิต เดือนละ 15,000 บาท เป็นเวลา 7 ปี รวมทั้งค่าจัดงานศพ และให้ชดใช้ค่าเสียหายทางด้านจิตใจจำนวน 500,000 บาท เนื่องจากสามีถูกยิงเสียชีวิตต่อหน้า เป็นการกระทำที่อุกอาจ กระทบต่อจิตใจ รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 1,700,000 บาท
ส่วนจำเลยที่ 2 ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้ "จ่าเอ็ม" จำเลยที่ 1 ศาลได้พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากศาลเห็นว่าจำเลย ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างในการประกอบสัมมาชีพอยู่แล้ว จากพยานหลักฐานไม่พบว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิด จึงพิพากษายกฟ้อง
อ่านข่าว : ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าสนใจ เดือน ตุลาคม 2568
ครบ 15 วัน กัมพูชายังไม่ออกจาก "บ้านหนองหญ้าแก้ว"
รฟม.เผยเททรายถนนยุบยังเป็นไปตามแผน - เพิ่มเสาเข็มสั้นค้ำ "สน.สามเสน"
แท็กที่เกี่ยวข้อง: