ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เครือข่ายประชาชน ยื่น 10 ข้อ "รัฐบาลอนุทิน" แก้สารปนเปื้อนแม่น้ำกก

เครือข่ายประชาชน ยื่น 10 ข้อ "รัฐบาลอนุทิน" แก้สารปนเปื้อนแม่น้ำกก
อ่านให้ฟัง
07:13อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกก สาย รวก โขง ฝากถึงรัฐบาล "อนุทิน" เร่งแก้ปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำ ที่มาจากเหมืองต้นแม่น้ำสาย รัฐฉาน ประเทศเมียนมา

วันนี้ (5 ต.ค.2568) จากกรณีของปัญหามลพิษข้ามพรมแดนในแม่น้ำกก จ.เชียงราย ที่เกิดขึ้นนั้น เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกก สาย รวก โขง จะยึดข้อเรียกร้อง 10 ข้อที่เสนอให้รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ทำภายใน 4 เดือน ดังนี้ 

1. จัดหาแหล่งน้ำดิบใหม่ทดแทนแม่น้ำกก สาย รวก โขง เพื่อการผลิตน้ำประปาภูมิภาค ในเขต อ.เมืองเชียงราย อ.เวียงชัย อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ เนื่องจาก ผลการกรวดน้ำประปาจากห้องแล็บพบว่ามีสารหนูและแบเรียมในน้ำประปาถึงแม้จะยังไม่เกินค่ามาตรฐานแต่ประชาชนต้องรับความเสี่ยงมีสารโลหะหนักสะสมในร่างกายทีละเล็กทีละน้อยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการประปาส่วนภูมิภาคกำลังแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและใช้สารเคมีจำนวน มากขึ้นในกระบวนการผลิตน้ำประปาการจัดหาแหล่งน้ำใหม่จึงเป็นทางออกที่ยั่งยืนกว่า

2. จัดหาแหล่งน้ำใหม่สำหรับการผลิตน้ำประปาหมู่บ้านให้กับชาวบ้านใน ต.แม่นาวาง และต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เนื่องจากประชาชนไม่สามารถใช้น้ำกกในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้านได้ และปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้านตลอดลำน้ำกก สาย รวก และโขง อย่างน้อย 30 หมู่บ้าน ในเขต อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ อ.เมืองเชียงราย อ.เวียงชัย อ.เวียงเชียงรุ้ง อ.แม่จัน อ.ดอยหลวง อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่นเพื่อให้ระบบผลิตน้ำประปาหมู่บ้านมีขีดความสามารถ กำจัดสารโลหะหนักในกระบวนการผลิตน้ำประปาที่ใช้น้ำใต้ดินใกล้กับแหล่งน้ำกก สาย รวก โขง ที่ปนเปื้อนสารโลหะหนัก

3. ตรวจสอบคุณภาพดินเพื่อหาสารโลหะหนักในที่ราบลุ่มน้ำกกเนื้อที่ 12,000 ไร่ ใน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย ซึ่งเป็นพื้นที่ดินตะกอนแม่น้ำกกที่รับมาโดยตรงจากเหมืองในเมียนมา จากเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2567 ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สำคัญ และตรวจสารโลหะหนักในผลผลิตข้าวนาปี จากพื้นที่กว่า 100,000 ไร่ ในเขตชลประทานแม่น้ำกก
แม่น้ำสาย-รวก ก่อนการเก็บเกี่ยวในช่วงปลายเดือน ต.ค.-พ.ย.

การตรวจข้าวก่อนเก็บเกี่ยวเป็นประโยชน์ต่อทั้งอุตสาหกรรมข้าวและผู้บริโภค หากตรวจพบสารโลหะหนักในผลผลิตข้าว รัฐจำเป็นต้องมีมาตรการการจัดการทำลายผลผลิต พร้อมทั้งชดเชยรายได้ให้กับเกษตรกรที่ได้ลงทุนไปและรายได้ที่สูญเสีย ในขณะเดียวกันหากผลการตรวจไม่พบสารโลหะหนักรัฐต้องออกเอกสารรับรองผลผลิตข้าว ให้กับเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

4. จัดตั้งศูนย์ตรวจสารโลหะหนักประจำจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสารโลหะหนักในน้ำ ตะกอนดิน ดินเพาะปลูก ผลผลิตการเกษตร ปลา สัตว์น้ำและมนุษย์ ในลุ่มน้ำกก สาย รวกโขง เนื่องจากปัจจุบันการเข้าถึงการตรวจ เป็นไปอย่างยากลำบาก มีค่าใช้จ่ายสูง และ ใช้ระยะเวลาในการตรวจยาวนาน เนื่องจากตัวอย่างทั้งหมดต้องส่งตรวจที่กรุงเทพ แม้จะมีศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 ที่ จ.เชียงราย ของกระทรวงสาธารณสุข แต่ก็มีทรัพยากรไม่เพียงพอส่งผลให้ประชาชนใน จ.เชียงรายและเชียงใหม่ขาดข้อมูล ที่เป็นปัจจุบัน

5. ยุติการนำเข้าแร่ทุกชนิดจากเมียนมา จนกว่าผู้นำเข้าจะพิสูจน์ได้ว่าแร่ที่นำเข้าจากเมียมา มิได้มาจากเหมืองแร่ที่ก่อให้เกิดมลพิษในแม่น้ำ กก สาย รวก โขง

6. ยกเลิกโครงการฝายดักตะกอนหรือม่านดักตะกอนเนื่องจากมิได้มีการศึกษาว่าสามารถแก้ไข ปัญหาสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำได้จริงและยังจะสร้างปัญหาผลกระทบต่อที่ดินทำกิน ของชาวบ้าน ผลกระทบด้านนิเวศและสิ่งแวดล้อมทั้งนี้กรมทรัพยากรน้ำ ก็ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่แก้ไขปัญหามลพิษแต่อย่างใด

7. จัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐ วิชาการและภาคประชาชน เพื่อทำหน้าที่
- แสวงหาแนวทางปิดเหมืองในเมียนมา
- สร้างมาตรการเฝ้าระวังสารโลหะหนักปนเปื้อน ในน้ำอุปโภค บริโภค ดิน สินค้าเกษตร สัตว์น้ำ และร่างกายมนุษย์
- เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเหมืองแร่ในเมียนมา
- กำหนดแนวทางการฟื้นฟูแม่น้ำกก สาย รวก โขง

8. เปิดเวทีเจรจาอย่างเป็นทางการกับประเทศเมียนมาและจีนพื่อเรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศตระหนัก ว่าต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการทำเหมืองแร่จนก่อให้เกิดมลพิษที่ส่งกระทบต่อประชาชนในประเทศไทย

9. ปรับปรุงระบบการสื่อสารในภาวะวิกฤตที่ให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก ทุกที่ ทุกเวลา มีช่องทางการสื่อสารทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนมีสื่อที่สื่อสาร ได้ครอบคลุมกลุ่มชาติพันธุ์

10. พิจารณาชะลอสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนปากแบง บนแม่น้ำโขง ในสปป.ลาว จนกว่าจะมีการศึกษาผลกระทบจากการปนเปื้อนสารพิษจากเหมืองแร่ในลุ่มน้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะหากแม่น้ำโขงต้องกลายเป็นอ่างเก็บน้ำซึ่งการตกตะกอนของสารโลหะหนักในอ่างดังกล่าว
จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อนิเวศและสุขภาพของประชาชน

ทั้งนี้ในวันที่ 9 ต.ค. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะลงพื้นที่เพื่อติดตามปัญหา ในพื้นที่ ต.ท่าตอน (ศาลาข้างแม่น้ำกก) และ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

ขณะที่ในวันที่ 11 ต.ค.รองนายกรัฐมนตรี นายธรรมนัส พรมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ ฝายเชียงราย

อ่านข่าว :

เปิดงานวิจัย-ผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ พบปนเปื้อนสารหนู-โลหะหนักในแม่น้ำกก มาจากแร่หายาก

เปิดหลักฐานสำคัญ ผลวิจัย "นิติวิทยาศาสตร์ฯ" จับต้นทางมลพิษจากเหมืองแร่ในแม่น้ำกก