วันนี้ (7 ต.ค.2568) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณ เปิดเผยถึงกรณีถูกวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการนำงบกลาง 1.9 หมื่นล้านบาท มาใช้ใน “โครงการคนละครึ่งพลัส” ซึ่งเป็นงบที่ควรจะใช้ในกรณีจำเป็นเร่งด่วน ว่า งบกลางเป็นส่วนที่รัฐบาลตั้งไว้ในแต่ละปี ซึ่งในส่วนรัฐบาลก่อนได้แยกส่วนไว้ 25,000 ล้านบาท เพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะ
นายภราดร กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งต้องใช้เงินทั้งสิ้น 44,000 ล้านบาท มีอยู่ในส่วนงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท ทำให้ยังขาดอยู่อีก 19,000 ล้านบาท จึงต้องไปหยิบมาจากงบกลาง ที่ตั้งไว้ทั้งหมด 99,000 ล้านบาท ยอมรับว่ารัฐบาลนี้ไม่ใช่ผู้ตั้งงบประมาณ แต่เป็นผู้ที่ใช้งบประมาณจากที่รัฐบาลเดิมตั้งไว้
ดังนั้นการทำนโยบายจึงจำเป็นที่จะต้องหาช่องทางมาเติมเต็มเพื่อให้นโยบายสมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ รัฐบาลยังประกาศนโยบายว่า จะต่อสู้กับ 4 ภัย หนึ่งในนั้นคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ถือเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน จึงใช้งบกลางมาเติมในส่วนนี้ได้
ส่วนจะกระทบหรือไม่หากในอนาคตเกิดความจำเป็นเร่งด่วน นายภราดร กล่าวว่า ในปีปกติ รัฐบาลได้ดูแล้วว่างบประมาณในการเยียวยาประชาชนนั้นในแต่ละปี อยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท จึงยังมีพื้นที่พอที่จะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ
หากมีการร้องเรียนในการใช้งบกลางส่วนนี้กังวลหรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า งบกลางเขียนไว้ชัดเจนว่าสามารถใช้ได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้สามารถเรียกได้ว่า "ฉุกเฉิน จำเป็น และเร่งด่วน"
ส่วนวงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาทที่จะใช้นั้น ประมาณการณ์ไว้หรือไม่ว่าจะสร้างการหมุนเวียนไว้เท่าใด นายภราดร กล่าวว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ประเมินว่าในช่วงไตรมาสสุดท้าย สามารถขยับตัวเลขจีดีพีได้ 0.3-0.4%
อ่านข่าว : ราคา “ทองคำ” บวกแรง 450 บาท “รูปพรรณ” ขายออกบาท 61,750
หั่นเป้าเงินเฟ้อเหลือ 0.0% สนค. เผยราคาพลังงาน-อาหารลด ยันไม่ใช่เงินฝืด
เทียบ "สลากการออม" VS "หวยเกษียณ" จูงใจออมเงิน?
แท็กที่เกี่ยวข้อง: