วันนี้ (7 ต.ค.2568) แอรอน เบลค นักวิเคราะห์การเมืองสหรัฐฯ ของ CNN วิเคราะห์ถึงการปิดหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ ยังคงสร้างผลกระทบในวงกว้าง ทั้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนทั่วไป ความไม่ลงรอยกันระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันทำให้สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่มีทางออกในระยะสั้น นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายสำนักชี้ว่า วิกฤตครั้งนี้ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งในด้านแรงกดดันทางการเมืองและผลประโยชน์ที่อยู่เบื้องหลัง
1. เดโมแครตยอม "ถอย" ?
เบลค ชี้ว่า ทางออกแรกที่ถูกมองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่สุดคือ การที่พรรคเดโมแครตยอมถอย เพราะในอดีต การชัตดาวน์มักจบลงด้วยฝ่ายที่เริ่มใช้วิธีการนี้เป็นเครื่องมือต่อรอง ต้องยอมแพ้ในที่สุด และปัจจุบัน ก็เริ่มเห็นรอยร้าวในแนวร่วมของพรรคเดโมแครต โดยมีวุฒิสมาชิก 3 รายที่โหวตสนับสนุนข้อมติจัดสรรงบประมาณชั่วคราวของรีพับลิกัน ซึ่งหากมีสมาชิกอีกเพียงไม่กี่คนเปลี่ยนจุดยืน กลยุทธ์ "ฟิลิบัสเตอร์" ของพรรคก็อาจพังทลายลง
แรงกดดันภายนอกก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจากผลกระทบในชีวิตประจำวัน เช่น ทหารอาจไม่ได้รับเงินเดือนในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนเริ่มหมดความอดทนต่อการยืดเยื้อของเดโมแครต ขณะเดียวกัน ฝ่ายบริหารของทรัมป์ยังขู่จะมุ่งเป้าโจมตี "รัฐสีน้ำเงิน" เพื่อกดดันให้พรรคฝ่ายค้านยอมจำนน ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนในพรรคเอง
2. ดีลครั้งใหม่ "โอบามาแคร์"
ทางออกที่สอง อาจอยู่ในรูปของข้อตกลงเพื่อเปิดการเจรจาเกี่ยวกับโครงการโอบามาแคร์ในอนาคต แม้รีพับลิกันจะไม่ยอมรับการขยายเงินอุดหนุนทันที แต่พวกเขาอาจให้คำมั่นว่าจะเปิดเวทีอภิปรายในภายหลัง ผลสำรวจล่าสุดของ KFF ระบุว่าร้อยละ 78 ของชาวอเมริกัน รวมถึงเกินครึ่งของผู้สนับสนุนทรัมป์เอง ยังเห็นด้วยกับการขยายเงินอุดหนุนนี้ ทำให้แรงกดดันในฝั่งรีพับลิกันไม่อาจมองข้ามได้
3. รีพับลิกันยอม "แพ้" เพื่อชัยชนะเชิงสัญลักษณ์
ทางออกที่สามคือ การประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ โดยเฉพาะการควบคุมอำนาจของฝ่ายบริหารในการ "ยกเลิกงบประมาณ" ซึ่งเดโมแครตมองว่าเป็นเครื่องมือที่ทรัมป์ใช้ตัดงบของรัฐที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางของเขา การหาข้อตกลงบางอย่างเพื่อจำกัดอำนาจนี้อาจช่วยให้เดโมแครตรู้สึกว่าได้ชัยชนะทางสัญลักษณ์
4. รีพับลิกันจะยอม "ถอย" ?
ส่วนทางออกสุดท้าย ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยที่สุด คือ การที่รีพับลิกันยอมถอย แม้จะไม่ค่อยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้หากการชัตดาวน์ลากยาวจนสร้างความเสียหายหนักแก่ประเทศและพลเมืองอเมริกัน และคะแนนนิยมของพรรคทรุดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การยอมแพ้ของรีพับลิกันจะเป็นการเปลี่ยนสมดุลอำนาจในวอชิงตันอย่างรุนแรง ซึ่งทรัมป์คงพยายามหลีกเลี่ยงอย่างถึงที่สุด
ในท้ายที่สุด ไม่ว่าทางใดจะเกิดขึ้นก่อน วิกฤตชัตดาวน์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความลึกของรอยแบ่งทางการเมืองในสหรัฐฯ และความจริงที่ว่า "การชนะทางการเมือง" อาจไม่ได้หมายถึง "การชนะใจประชาชน" เสมอไป
อ่านข่าวอื่น :
"ชัชชาติ" เผยเตรียมขุดเจาะ 8 หลุม ดูสภาพดินรอบอุโมงค์
แร้วพรากชีวิต “สรณ์สืบ” เสือโคร่งห้วยขาแข้ง