ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ส่อง “ยิม เลียก - กลุ่มทุนกัมพูชา” ไม้ใหญ่ในร่มเงาตระกูล “ฮุน”

อาชญากรรม
11:22
91
ส่อง “ยิม เลียก - กลุ่มทุนกัมพูชา” ไม้ใหญ่ในร่มเงาตระกูล “ฮุน”
อ่านให้ฟัง
12:45อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ปฎิเสธไม่ได้ว่า อาณาจักรความมั่งคั่งของ “ตระกูลฮุน” ในกัมพูชา เกิดขึ้นจากการปูทางของ “ฮุน เซน” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขยายและส่งต่อไปให้ลูก ๆ ทั้ง 5 คน จนสามารถคุมอำนาจในประเทศได้แทบทุกด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ การเงิน และการสื่อสาร มีการจัดวางตำแหน่งสำคัญ ๆ ผ่านเครือข่ายเครือญาติและความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ

ในกัมพูชา ฮุน มาเนต (Hun Manet) ลูกชายคนโต ได้เรียนรู้การขึ้นสู่ศูนย์ กลางของอำนาจ เป็นผู้บัญชาการทหารบก ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางการเมืองในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) และก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เมื่อปี 2566

หากไล่เลียงความสัมพันธ์เชิงอำนาจในกัมพูชา ผ่านการแต่งงานจะเห็นได้ว่า “ตระกูลฮุน” มีการจัดวางลำดับผ่านเครือข่าย เครือญาติที่กล่าวได้ว่า แทบจะทุกระดับทั้งภาครัฐและเอกชน แบบไร้รอยต่อ ทุกอย่างเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ขณะที่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนกัมพูชาอาจเรียกได้ว่า แทบไม่ได้อะไรเลย

เปิดสมุดพก 5 ครอบครัวตระกูลฮุน

ฮุน มาเนต ลูกชายคนโต ในขณะที่ยังเป็นนายทหาร แต่งงานกับ ปึจ จันท์โมนี (Pich Chanmony) ลูกสาวของ ปึจ โสพน ( Pich Sophoan ) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและอาชีวศึกษา และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ในสมัย “ฮุน เซน” เป็นนายก

ปึจ จันท์โมนี (Pich Chanmony) จบการศึกษาด้านสาธารณสุขในระดับปริญญาเอกจากประเทศอังกฤษ ช่วยงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขในกัมพูชา และมีตำแหน่งเป็นรองประธานสภากาชาดกัมพูชา ขณะเดียวกันยังเป็นนักธุรกิจ และเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนอยู่หลายแห่ง

และหนึ่งในนั้นคือ บริษัท Phnom Penh Toll Way Co. Ltd. ซึ่งดำเนินโครงการก่อสร้างทางด่วน ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้ มีทำสัญญาสัมปทานทางด่วนจากรัฐบาลมูลค่ากว่า 10.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2554 ต่อมาในปี 2558 รัฐบาลของฮุน เซนก็เข้ามาซื้อหุ้นบริษัทดังกล่าว

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ระบุว่า ปัจจุบัน ปึจ จันท์โมนี (Pich Chanmony) มีตำแหน่งในบริษัทเอกชน 11แห่ง เป็นประธานกรรมการบริษัทอยู่ 4 แห่ง และมีชื่อเป็นบอดร์ดบริหารอีก 7 บริษัท โดยบริษัทต่าง ๆมีการประกอบธุรกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ด้านเทคโนโลยี การนำเข้า-ส่งออก เวชภัณฑ์ยาและเครื่องมือแพทย์

ฮุน มานา (Hun Mana) ลูกคนที่ 2 ทำธุรกิจเกี่ยวกับกิจการสื่อสารในประเทศ มีหน้าที่ควบคุมกำกับทิศทางการนำเสนอข้อมูลของข่าวรัฐบาล และจากต่างประเทศ เธอมีตำแหน่งเป็นประธาน Bayon TV และหนังสือพิมพ์ Cam bodge Soir แต่งงานกับ ดาย วิเชีย (Dy Vichea) บุตรชายของ พล.ต.ท. โฮก ลุนดี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา

ฮุน มานิต ( Hun Manit) ลูกคนที่ 3 รับราชการทหาร มีตำแหน่ง ผู้อำนวย การข่าวกรองทหารกัมพูชา, รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ภริยา คือ โฮก ชินดาวี (Hok Chendavy) บุตรสาวของ พล.ต.ท. โฮก ลุนดี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา

ฮุน มานี (Hun Many) ลูกคนที่ 4 เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงบริการพลเรือน แต่งงานกับ ยิม ไชลิน (Yim Chhay Lin) บุตรสาวของ “ยิม ไซรี” (Yim Chhaily) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาชนบทของกัมพูชา

และ ฮุน มาลี (Hun Maly) ลูกสาวคนเล็ก เป็นนักธุรกิจ ดูแลโครงการก่อสร้าง และกิจการด้านพลังงาน ทำเรือสำราญร้านอาหารและดูแลเรื่องยา แต่งงานกับ สก พุทธิวุทธ (Sok Puthyvuth) ลูกชาย อดีตรองนายกฯ

โดย ฮุน เซน มอบหมายให้ สก พุทธิวุทธ (Sok Puthyvuth)เป็นประธานคณะกรรม การบริหารโทรคมนาคมกัมพูชา ดูแลระบบสื่อสารและงาน ICT ทั้งหมด คอยควบคุมและเซนเซอร์เนื้อหาออนไลน์โดยไม่ต้องมีหมายศาล

ข้อมูลในปี 2563 พบว่า การคุมประเทศทั้งระบบของเครือข่ายอำนาจ “ตระกูลฮุน” ในปัจจุบันพบว่ามีบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศ ซึ่งความเชื่อมโยงและสายพันธ์อยู่เบื้องหลังมากกว่า 114 แห่ง และมีทุนจดทะเบียนรวมกันมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จำนวนนี้ยังไม่รวม 16 บริษัท หรือคิดเป็น 14 % ของทั้งหมด 114 บริษัท ที่ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับทุนจดทะเบียน

โดยบริษัทเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ในภาคธุรกิจที่ทำรายได้สูงที่สุดในกัพูชา ทั้ง ด้านการค้า การเงิน พลังงาน และการท่องเที่ยว รวมถึงภาคธุรกิจที่อาจมีความเชื่อมโยงกับการทุจริตคอร์รัปชัน เช่น การพนัน การก่อสร้าง เกษตรกรรม และการทำเหมืองแร่ 

เครือข่ายกลุ่มทุนธุรกิจ-สายสัมพันธ์เพื่อนเก่า

หากมองย้อนกลับดูสายสัมพันธ์ของ “ตระกูลฮุน” กับเครือข่ายใหญ่ของกลุ่มทุนธุรกิจในกัมพูชาพบว่า มีหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Royal Group ของ Kith Meng หรือ ออกญา คิธ เหมิง ประธานหอการค้ากัมพูชา คนสำคัญผู้อยู่เบื้องหลัง การร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจีน เช่น Huawei, China Southern Power Grid

กลุ่มของ Mong Reththy หรือ มง ริธธี นักธุรกิจจีน-เขมร เจ้าของฉายา “คนรวยของ ฮุนเซน “สมาชิกวุฒิสภากัมพูชา ที่ปรึกษาใกล้ชิดอดีตนายก ฮุน เซน

กลุ่มของ “ลิม ชิวโฮ” เจ้าแม่นำเข้า-ส่งออกเจ้าของคลังสินค้าใหญ่ในกรุงพนมเปญ ที่ขยายเครือข่ายมาเติบโตอยู่สีหนุวิลล์ แตกไลน์ทำธุรกิจ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม สถานบันเทิง และแหล่งชอปปิง

และเพื่อนเก่าของฮุน เซน อย่าง “ลียง พัด” เจ้าของกลุ่มบริษัท L.Y.P. Group โดยโรงแรมและรีสอร์ท 4 แห่งคือ O-Smach Resort, Garden City Hotel, Koh Kong Resort, Phnom Penh Hotel ซึ่งถูกกระทรวงการคลัง สหรัฐฯ ระบุว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาและคอลเซ็นเตอร์ที่บังคับหรือหลอกลวงคนไปทำธุรกิจผิดกฎหมาย และถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายอันละเมิดสิทธิมนุษยชนก็ตาม

รวมทั้ง Sok Kong หรือ “ซอก กง” ผู้ก่อตั้ง Sokimexบริษัทปิโตรเลียมในกัมพูชา หนึ่งในผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดสองคนของกัมพูชา ร่วมกับ “คิธ เหมิง” แม้จะยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในข้อกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการค้ามนุษย์และการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในกัมพูชาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562

แม้ในช่วงหลังบทบาทของ ซอก กง จะลดลง เนื่องจาก ฮุน เซน เริ่มผลักดันกลุ่มทุนรุ่นใหม่ เช่น คิธ เหมิง และลูกหลานของตนเองขึ้นมาแทน แต่เครือข่ายของ ซก กง ยังมีบทบาทในระดับเบื้องหลัง โดยเฉพาะในธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม

Bic Group ตระกูลยิม สายสัมพันธ์ใกล้ชิด

แต่กลุ่มสำคัญที่มีความเกี่ยวดองกับ “ตระกูลฮุน” ที่กำลังถูกจับตาในขณะนี้คงหนีไม่พ้น กลุ่ม Bic Group ของ Yim Leak หรือ “ยิม เลียก” เนื่องจากพี่สาวของเขา คือ “ยิม ไช ลิน” (Yim Chhaylin ) ได้แต่งงานกับ “ฮุน มานี” ลูกชายคนที่ 4 ของ “ฮุน เซน”

และ“ยิม ไซรี” (Yim Chhaily) อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาฟื้น ฟูและพัฒนาด้านการเกษตรและชนบทในสมัยรัฐบาลฮุนเซน บิดาของทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทของอดีตนายกกัมพูชาอีกด้วย

ด้วยผลประโยชน์ที่เอื้อกัน อีกทั้งลูก ๆ ทั้ง 4 คนของ ยิม ไซรี (Yim Chhaily) ยังมีบทบาททั้งด้านการทหารและธุรกิจ โดยเฉพาะ“ยิม เลียก” (Yim Leak) ซึ่งเป็นนักธุรกิจกัมพูชาที่ทำธุรกิจด้านพลังงานและกลุ่มบริษัทของเขามีคนไทยหลายตระกูลเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งการถือหุ้นและร่วมลงทุน

พล.ท.ยิม เลียง (Yim Leang) ลูกชายคนโต เป็นอดีตหัวหน้าฝ่ายอารักขาความปลอดภัยของ สมเด็จ พลเจีย ซิม ซิม อดีตประธานวุฒิสภา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองอธิบดีตำรวจแห่งชาติ และรองหัวหน้าสำนักของสมเด็จวิบูลย์เสนาภักดี สาย ชุม ประธานวุฒิสภา

โดยเมื่อครั้งที่ ฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรี ปี 2520 ได้ออกพระราชกฤษฎีกาโอนย้ายเขาจากกองทัพกัมพูชา (RCAF) ไปปฏิบัติงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในตำแหน่งรองอธิบดีตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายดูแลความมั่นคงและการคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เขาดำรงตำแหน่งรองเสนาธิการร่วมของกองบัญชาการทหารสูงสุด RCAF

“ยิม ไช ลิน” (Yim Chhaylin ) ภริยาของ “ฮุน มานี” ลูกชายคนเล็กของ “ฮุน เซน” ยิม ไช ลิน เป็นประธานกิตติมศักดิ์ของสมาคมแพทย์ในสหพันธ์เยาวชนกัมพูชา และเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท TEHO International ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโด The Bay

ยิม เลียท (Yim Leat) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกัมปงทม หลังจบการศึกษาจากกรุงพนมเปญ และในปี 1997 ได้ศึกษาต่อที่โรงเรียน Jean Moulin ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2001 ย้ายไปสหรัฐฯเพื่อเรียนต่อระดับชั้น มัธยมที่โรงเรียน Fairmont Academy และสำเร็จการศึกษาเมื่อปี 2003 ต่อมาปี 2009 เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและโทด้านการเงินจากมหาวิทยาลัย DeVry จากสหรัฐอเมริกา

ยิม เลียท (Yim Leat) เคยรับราชการในสภาฟื้นฟูและพัฒนาด้านการเกษตรและชนบท ในตำแหน่งรองเลขาธิการ ต่อมาได้ลงสมัครเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดกัมปงทม ในนามพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ในการเลือกตั้งครั้งที่ 6 ปี 2018 ได้รับเลือกตั้งและกลายเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น ปัจจุบันเขาเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร และการตรวจสอบของรัฐสภา

และลูกชายคนคนเล็ก “ยิม เลียก” (Yim Leak) ประธานคณะกรรมการบริษัท BIC Group ซึ่งมีบริษัทในเครือจำนวนมาก และทำโครงการอสังหา ริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ บนพื้นที่จำนวน 61 เฮกตาร์ที่ชื่อว่า One Phnom Penh นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าของบริษัท Kulen Property Group บริษัทที่มีบทบาทสำคัฯในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชาด้วย ปัจจุบันมีการประเมินว่า “ยิม เลียก” มีทรัพย์สินมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

“ยิม เลียก” (Yim Leak ) เกิดเมื่อปี 2503 แต่งงานกับสาวไทย วิษณี เทพเจริญ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทย ทายาทโครงการอสังหาริมทรัพย์หมื่นล้านค่าย “ณุศาศิริ”

โครงข่ายความสัมพันธ์และเส้นทางการทำธุรกิจของอดีตผู้นำกัมพูชา ในห้วงที่ไทย-กัมพูชา ยังมีปัญหาข้อพิพาทและอยู่ระหว่างเจรจาหยุดยิง ท่ามกลางเส้นตายของไทยขอให้กัมพูชา ทำแผนอพยพชาวเขมรออกจากพื้นที่ “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” วันที่ 10 ต.ค.2568

อ่านข่าว

“เขมร” เมินเส้นตาย “อพยพ” เกมวัดใจกองทัพแค่ “งดประชุม RBC”

สกัด “กัมพูชา” ภัยคุกคาม ปิดด่านยาว ฉีกเป๋าตังค์ “ฮุน เซน”

จับไต๋ “ฮุน มาเนต” ฟ้องโลกกลบความจริง สร้าง “กาสิโน” ล้ำไทย