ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ณัฐพงษ์" เผยจัด 20 สส.อภิปราย ร่างแก้รัฐธรรมนูญ

การเมือง
11:28
61
"ณัฐพงษ์" เผยจัด 20 สส.อภิปราย ร่างแก้รัฐธรรมนูญ
อ่านให้ฟัง
05:51อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ณัฐพงษ์" เผยจัด 20 สส.อภิปราย ร่างแก้รัฐธรรมนูญ ลั่นดัน ร่างของ ปชน.เป็นร่างหลัก มองแนวโน้มผ่าน 3 ร่าง ชี้สัดส่วน กมธ. ไม่เกิดการกินรวบ

วันนี้ (14 ต.ค.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับของรัฐสภาในวันนี้ว่า พรรคประชาชนได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ค่อนข้างพร้อม 20 คน โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ จะเป็นผู้เสนอร่างและตนเองจะเป็นผู้อภิปรายปิด แบ่งการอภิปรายครบทุกหมวด ซึ่งเนื้อหา คือ การเพิ่มหมวด 15/1 ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับฉบับใหม่

พรรคประชาชนเตรียมเนื้อหาอภิปรายชี้เห็นถึงความจำเป็น ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นอกจากการแก้ไขปัญหาระบบการเมือง ยังเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาปากท้องคุณภาพชีวิตประชาชน ทำให้มีรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาดังกล่าวได้มากขึ้นในอนาคต พร้อมยืนยันที่จะผลักดันใช้ร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลัก และเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคที่จะเสนอร่างของพรรค แต่ต้องดูที่การลงมติอีกครั้งว่าจะใช้ร่างใดเป็นร่างหลัก

โดยการอภิปรายจะชี้เห็นถึงปัญหาใกล้ตัวเรื่องเกี่ยวกับการกระจายอำนาจ การแก้ไขระบบถ่วงดุลตรวจสอบ ทำให้ประเทศมีความโปร่งใส กลไกของศาลและองค์กรอิสระไม่ถูกใช้เป็นอาวุธทำลายล้างทางการเมือง การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน ทำให้รัฐไทยดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน

นายณัฐพงษ์ อธิบายว่า ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2560 กำหนดล็อกไว้แล้วว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะต้องไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐหรือระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งไม่ว่าร่างของพรรคการเมืองใดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 ประเด็นได้ ในประเด็นที่ว่าไม่ไปแตะหมวด1-2 ก็ไม่ได้มีประเด็นอะไร เพราะร่างแต่ละพรรคก็ไม่ได้แตกต่างกันในเรื่องนี้

ส่วนข้อกังวลในการตีตกร่างใดร่างหนึ่ง นายณัฐพงษ์ ได้อ้างอิงการติดตามการแสดงความเห็นของคนในพรรคการเมืองและสมาชิกวุฒิสภา และประเมินว่ามีแนวโน้มทิศทางจะรับทุกร่าง แต่จุดสำคัญของเรื่องนี้คือการติดตามว่าที่มาของผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญทำอย่างไรให้ยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด ซึ่งร่างใครจะเป็นร่างหลักมีความสำคัญในส่วนนั้น

หากดูเนื้อหาจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ร่างของพรรคการเมืองใดยึดโยงกับประชาชนมากกว่ากัน และหลายคนวิเคราะห์ว่าร่างของพรรคภูมิใจไทยยึดโยงกับประชาชนน้อยหน่อย ยืนยันว่า แม้ว่าร่างของพรรคการเมืองใดจะเป็นร่างหลัก ยังสามารถผลักดันได้ในชั้นกรรมาธิการวาระ 2 - 3 

ซึ่งสัดส่วนกรรมาธิการของแต่ละฝ่ายค่อนข้างมีความสมดุล ไม่ได้หมายความว่า ร่างใดเป็นร่างหลักแล้วจะไม่สามารถผลักดันผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญให้มีความยืดโยงกับประชาชนได้มากขึ้น ต้องไปสู้ในวาระ 2 - 3 และในสภาใหญ่ หากถึงตอนนั้นร่างรวมที่ออกมาจากทุกพรรคเป็นร่างที่พรรคประชาชนไม่สามารถยอมรับได้ เราก็ไม่สามารถลงมติยอมรับได้ในวาระที่3 ในสภาใหญ่เช่นเดียวกัน

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อ หากรัฐสภาหรือเสียงรัฐบาลโหวตให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขธรรมนูญ ไม่ได้เป็นการขัดต่อ MOA เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องเดินไปในทิศทางเดียวกันไม่ได้เป็นการทำงานระหว่างฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล และไม่ได้มองหรือห่วงว่าเป็นการตีกิน เพราะสัดส่วนในชั้นมาตรการไม่สามารถทำให้เกิดการกินรวบได้ ส่วนการท่าทีของ สว.ก็ต้องติดตามว่ามีใครเข้าไปมีส่วนในการพูดคุยเจรจาหรือไม่ ซึ่งคนที่มีส่วนสำคัญคือนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ที่จะผลักดันที่ร่างผ่านได้

โดยไม่ได้ยืนยันหรือชี้ชัดว่า นายอนุทินมีส่วนมาก-น้อย แค่ไหนที่จะทำให้ สว.รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญโดยเชื่อว่า ประชาชนสามารถเล็งเห็นได้การตัดสินใจของพรรคประชาชนที่โหวตให้นายอนุทิน มาเป็นนายกฯเฉพาะกิจ เวลา 4 เดือน ทำให้เปิดประตูสู่กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ และเป็นเรื่องที่ถูกพรรครณรงค์ในการหาเสียงเลือกตั้งในปี 2566 แต่ 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้าในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ที่นายอนุทินเป็นนายกฯมีความคืบหน้า

ผู้นำฝ่ายค้านยังประเมินว่า ตัวร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว เชื่อว่า จะประกาศบังคับใช้ทันก่อนกระบวนการออกเสียงประชามติ ซึ่งมีการหารือกับฝ่ายกฎหมายว่า กระบวนการริเริ่มที่จะส่งให้คณะรัฐมนตรีจะต้องรอความชัดเจนว่า กฎหมายประชามติจะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ เพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดข้องทางกฎหมาย

อ่านข่าว : "ภูมิใจไทย" ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อ "ประธานรัฐสภา"

โมเดล คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ 2 พรรค "เพื่อไทย-ประชาชน" 

"ปชน. - พท. - ภท." เห็นพ้อง 3 ข้อสรุป เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่